ตอนรักจนต้องกลับคำ
วิวรรญาเพิ่งออกจากห้องน้ำและกำลังเลือกเสื้อผ้าว่าจะใส่ชุดไหนดี เพราะไม่รู้ว่าโปรแกรมวันนี้กับแขกวีไอพีว่าจะไปไหนบ้าง เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ ทำให้ยิ้มน้อยๆ ออกมาเมื่อเดาได้ว่าเจียคงจะมาช่วย หรือมาบอกอะไรเป็นแน่ หรือไม่อย่างนั้นก็จะใช้เจียไปถามคนบนตึกว่าแขกจะไปไหนบ้าง
“ผมอยากจะคุยกับคุณเรื่องรถ”
แต่พอเปิดประตูให้ กลับกลายเป็นเขาที่มาในชุดตีกอล์ฟยืนอยู่แทน แล้วมีเจียยืนอยู่ด้านหลังถือชุดไว้ ปาลินเบี่ยงตัวให้เข้าไปก่อนเมื่อเจ้าของห้องเปิดประตูกว้างขึ้นเป็นสัญญาณว่าให้เข้าไปได้
เจียวางชุดไว้บนเตียงแล้วก็รีบออกไป ปาลินเป็นคนปิดประตูเอง เพราะไม่อยากให้เรื่องที่คุยหลุดไปถึงหูใคร ต่อให้บ้านจะมีกันแค่สองคนก็ตาม
“ทำไมคุณไม่รับรถที่ผมซื้อให้ คุณจะเดินไปขึ้นแท็กซี่ตลอดหรือยังไง”
เขาเอ่ยเสียงนุ่มกับท่าทีใจเย็นสุขุมกว่าทุกครั้งที่วิวรรญาเคยเห็นมา มันช่วยไม่ได้จริงๆ ที่มีภาพของนายลินผู้ต่ำต้อยตามติดมาด้วย และนี่ก็ทำให้หัวใจเจ็บหนึบๆ ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้อีกเช่นกัน จึงหันไปจ้องมองเขาอย่างเชื่องช้าท่วงท่าสงบนิ่งไม่แพ้กัน
“รับมาแล้วฉันจะต้องชดใช้พวกคุณคืนด้วยอะไร มากน้อยแค่ไหนล่ะ คุณก็รู้ว่าฉันไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่แล้ว หรือจะเป็นบ้านกับสวนลุงที่คุณกับพ่อเกิดอยากได้ขึ้นมาอีก ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันก็ยินดีจะเดินไปขึ้นแท็กซี่เหมือนเดิม”
เขาถึงกับขบกรามแน่นกับคำของเธอ แต่ก็พยายามควบคุมอารมณ์เอาไว้ให้นิ่ง แล้วอธิบายด้วยความใจเย็น
“ผมซื้อให้คุณด้วยเงินของผมเองไม่เกี่ยวกับป๊า เพื่อให้คุณเอาไว้ใช้ จะได้ไม่ต้องอายผู้คน ถ้าคุณไม่อยากได้ อย่างน้อยๆ ก็ขอให้คิดถึงหน้าตาพ่อผม พ่อคุณ หรือแม้แต่ผมบ้าง คนจะคิดยังไงที่สะใภ้ของตระกูลพลชนะชัยชาญโบกแท็กซี่ไปทำงานทุกวัน”
“อ้อ! ห่วงหน้าตาตัวเองกับพ่อ ฉันน่าจะคิดออกนะ”
หัวใจมันให้เจ็บหนึบขึ้นมาอีกเมื่อคิดได้อย่างนี้ แทนที่จะได้ดีใจว่าเขายังมีเวลามาห่วงบ้าง ปาลินจ้องตาเขม็งทันทีเมื่อคนตรงหน้าสรุปเอาเองเสร็จสรรพ
“ก็แล้วถ้าผมจะบอกว่าผมซื้อให้คุณเพราะห่วงคุณ กลัวคุณจะเดินเหนื่อย แล้วคุณจะเชื่อผมหรือเปล่าล่ะ”
“ฉันคงจะโง่รอบสองล่ะมั้งถ้าเชื่ออย่างนั้น”
เพราะไม่ว่าจะยังไงหัวใจดวงนี้ก็ไม่มีวันจะหลงเชื่อน้ำคำของเขาหรือของพ่อเขาอีกต่อไปแล้ว
“ก็นั่นไงล่ะ ไม่ว่าผมจะบอกคุณยังไงผมก็รู้ดีว่าไม่มีทางที่คุณจะเชื่อ แต่เพื่อเห็นแก่พระเจ้าเถอะนะแจม ช่วยเอารถไปใช้ที เริ่มตั้งแต่วันนี้เพราะเราจะต้องใช้มันพาคุณเหม่ยเอินกับคุณหลันเอ๋อร์ไปช้อปปิ้งหลังจากไปนั่งดูผมกับป๊าพาคุณหย่งเจิ้งไปตีกอล์ฟได้สักพัก เพราะป๊าอยากให้คุณสนิทกับสองแม่ลูกคู่นี้ มันจะเป็นผลดีกับวีทีเคในอนาคตอันใกล้นี้
อาหมวยจะไปด้วยเพื่อคอยเป็นล่าม ป๊าจะให้ความสำคัญกับการรับรองแขกมาก อีกหน่อยก็จะมีแขกทางยุโรปมา คุณจะต้องคอยต้อนรับเหมือนที่ทำอยู่ตอนนี้ แล้วป๊าจะช่วยโยงความสัมพันธ์ระหว่างแขกกับวีทีเคโดยมีคุณเป็นตัวดึงพวกเขาไป คุณจะต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมในทุกๆ ด้าน
รวมทั้งการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าดีๆ มีแบรนด์ด้วย ผมรู้ว่าคุณอึดอัดและไม่ชอบที่จะได้อยู่ใกล้ๆ ผมใกล้ๆ ป๊า หรือใกล้ๆ แขกที่คุณไม่คุ้นเคย แต่จะให้ทำยังไงได้เพราะนี่คืองาน การสร้างความประทับใจให้แขกจะทำให้เราไม่ต้องเหนื่อยวิ่งไล่ไปขายของนะ คุณคงจะดูออกว่าผลที่ตามมาจากการดูแลพวกเขาดีๆ แล้วว่ามันแตกต่างยังไง”
“เหมือนตอนที่คุณยอมเสียเวลาไปเป็นคนสวนอยู่ตั้งนานใช่มั้ย และผลตอบแทนก็คุ้มค่าไม่น้อย ได้บริษัทราคาหลายร้อยล้านมาไว้ในมือ แถมยังได้ผู้หญิงโง่ๆ มาเป็นเมีย มาเป็นลูกสะใภ้ให้พ่อคุณอีก และถ้าฉันไม่บังเอิญมีสติอยู่บ้าง ป่านนี้คงจะถูกคุณรวบหัวรวบหางไปแล้ว และคงจะหลงคารมหวานของคุณไปแล้วจนหน้ามืดตามัวโอนหุ้นที่มีไปให้คุณง่ายๆ ล่ะสินะ”
และมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกที่จะคิดดึงเอาความเพียรพยายามของเขากับพ่อเข้ามาในหัวตอนนี้ เพราะเห็นการต้อนรับแขกเมื่อวานนี้แล้ว วิวรรญาก็ให้อัศจรรย์ใจจริงที่ทั้งสองยอมทำทุกอย่างเพื่อให้แขกพึงพอใจแล้วได้อะไรๆ ตามมาอีกมากมาย
ปาลินจ้องตาเขม็งไปหาดวงหน้าสวย แล้วก้าวเข้าไปใกล้ๆ อย่างคนเหลือจะทน เขายกสองมือขึ้นหมายจะรวบสองไหล่ระหงแล้วดึงคนตรงหน้าเข้ามากอด มาจูบ เพื่อลงโทษให้สาสมที่ยุอารมณ์เขาให้เดือดแต่เช้า ทว่าก็เหมือนคิดถึงคำพูดของตัวเองขึ้นมาได้ จึงพยายามสงบสติเอาไว้
“คุณคงจะเห็นแล้วว่าพวกเรามีอะไรมากน้อยแค่ไหน จำเป็นด้วยเหรอที่ผมจะต้องทำเพื่อให้ได้สมบัติพ่อคุณมา ผมจะลงไปรอข้างล่างเราต้องไปถึงห้องอาหารก่อนแขกนิดหน่อย”
แล้วเขาก็ออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่หันกลับมามองสองดวงตาที่จ้องเขม็งด้วยความขุ่นเคืองที่เขาพยายามจะตอกย้ำความยิ่งใหญ่ในกิจการของพ่อเขากับกิจการของพ่อตัวเอง
“ถ้าร่ำรวยหรือยิ่งใหญ่แล้วทำไมจะต้องอยากจะได้บริษัทคนอื่นจนตัวสั่นขนาดนี้ด้วย พวกคนรวยมันก็ไม่เคยมีคำว่าพอหรอก”
จนอดไม่ได้ที่จะว่าตามหลังแม้จะรู้ว่าเขาออกไปจากห้องแล้วก็ตามที วิวรรญาพยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้ให้ได้มากที่สุด ขณะยืนขบริมฝีปากล่างควบคู่กับการครุ่นคิดตามคำบอกของเขา อย่างมีสติและมีเหตุผล ก่อนจะคว้าชุดที่วางอยู่บนเตียงขึ้นมาใส่แล้วลงไปหาเขาในเวลาไม่นานนัก