“แล้วคุณปาลินไปไหนครับคุณแจม” ไม่นานคนสวนหน้าตาและท่าทางดีก็เดินตรงมาหาพร้อมสีหน้ามีคำถาม
“มีงานด่วนน่ะ นายช่วยเดินเล่นเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้มั้ย เดี๋ยวฉันจะเลี้ยงข้าวตอบแทน”
“ได้ครับ แต่ผมไม่ค่อยรู้จักที่แบบนี้นักนะครับ”
นั่นทำให้วิวรรญาสบายใจขึ้นมาไม่น้อย เมื่อคนสวนหนุ่มไม่ปฏิเสธใดๆ
“ฉันก็ไม่ค่อยรู้จักเหมือนกัน เดี๋ยวเราเดินดูอะไรเล่นๆ แถวนี้ พอหิวค่อยหาของกินก็แล้วกันนะ”
ลินยื่นมือไปหาเพื่อรับกระเป๋าสะพายมาช่วยถือให้เป็นคำตอบ ก่อนที่วิวรรญาจะพาเดินดูนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย ได้จับจ่ายของเล็กๆ น้อย มาสองสามชิ้น ถึงได้เดินเข้าร้านเคเอฟซี ซึ่งหญิงสาวเห็นว่าราคาถูกกับเงินในกระเป๋าของตัวเองที่สุด
“นายอยากกินอะไรก็เลือกได้นะ ไม่ต้องเกรงใจฉันเลี้ยงได้”
เพราะเห็นคนส่วนหนุ่มจ้องมองรายการในมืออยู่นานด้วยท่าทีไม่ใคร่จะสะดวกใจนัก วิวรรญาเลยรีบเปิดทางให้ กระนั้นลินก็ยังไม่กล้าจะสั่งเองอยู่ดี จึงเป็นหน้าที่ของอีกคนที่สั่งเองเสร็จสรรพและกะให้พอกระเพาะคนสวนที่รู้ว่ากินเยอะกว่าตัวเองมาก
“ใช้มือก็ได้ไม่มีใครว่าหรอก”
เมื่อเห็นเขาจับส้อมกับมีดมาถือแล้วมองมาหา วิวรรญาเลยพาใช้มือจับชิ้นไก่มาฉีกจิ้มซอสแล้วส่งเข้าปากไป โดยไม่สนว่าจะมีใครมองมา ลินเลยวางของในมือแล้วทำตามอย่างชอบใจ
ชั่วโมงหนึ่งเต็มๆ ที่ทั้งสองใช้ไปในร้านอาหาร แต่ก็ยังไม่มีสายเรียกเข้าจากปาลิน วิวรรญาเลยชวนลินเดินเข้าซูเปอร์ซื้อของเข้าบ้านเป็นการฆ่าเวลารอ
“ไม่เป็นไรค่ะคุณซี ถ้ายังแก้ปัญหาไม่เสร็จก็ตามสบายเลยค่ะ แจมกลับบ้านก่อนก็ได้ คะ...อาทิตย์หน้าแจมไม่ว่างค่ะ ได้ค่ะ...งั้นเป็นอาทิตย์ต่อไปก็แล้วกันนะคะ เจอกันที่บ้านคุณพ่อก่อนแล้วค่อยว่ากันนะคะ สวัสดีค่ะ”
ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมงปาลินก็โทรมาขอโทษขอโพยที่ยังสลัดตัวออกจากปัญหาไม่ได้ และนัดแนะพบกันครั้งใหม่ ที่วิวรรญาก็ตอบรับอย่างไม่ตำหนิอะไรแม้แต่คำเดียว ก่อนจะชวนคนสวนหนุ่มกลับ
“นายช่วยแวะบ้านคุณพ่อก่อนนะ ฉันอยากจะไปลาท่าน”
เพราะเมื่อเช้าก็ได้คุยกับพ่อไม่กี่คำ ลูกที่แทบจะไม่มีเวลาได้อยู่ใกล้ๆ พ่อเลยอยากจะไปหาอีก
“คุณท่านยังไม่กลับง่ายๆ หรอกค่ะคุณแจม สองสามทุ่มหรือไม่ก็เที่ยงคืนโน่นล่ะค่ะ ส่วนคุณปิ่นออกไปช้อปปิ้งกับคุณแยมและจะเลยกินข้าวเย็นที่บ้านโน่นเลย จะกลับก็คงจะสองสามทุ่มเหมือนกันค่ะ”
แม่บ้านรายงานตามที่เคยเห็นมา เมื่อวิวรรญาไปถึงแล้วถามหาพ่อกับแม่เลี้ยง ดวงหน้าสวยมีแววเศร้าน้อยๆ แต่ก็เก็บงำเอาไว้แล้วเดินนำลินไปหารถเพื่อกลับบ้านบึง ในเวลาบ่ายแก่ๆ
สองขาเรียวขาว สลัดรองเท้าออกแล้วยกขึ้นมากอดไว้กับอกก่อนจะนอนตะแคงหันไปหาหน้าต่างซึ่งมักจะเป็นท่านั่งประจำของหญิงสาวไปแล้วในความคิดของคนสวนหนุ่ม จากนั้นในรถก็ไม่มีเสียงใครเล็ดลอดออกมาเลยแม้แต่แอะเดียว
“นายช่วยออกทางคู่ขนานทีสิ ฉันอยากเห็นแม่น้ำบางปะกง”
กระทั่งใกล้ถึงสะพานบางปะกง วิวรรญาถึงได้หันไปบอกคนขับด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยและเขาก็ทำตามอย่างว่าง่าย
“เพื่อนฉันบอกว่าถ้าเรากลั้นหายใจจากตีนสะพานแล้วอธิษฐานในสิ่งที่เราอยากได้ไปจนพ้นสะพาน เราก็จะได้ตามที่เราขอ”
ลินหันมาเลิกคิ้วให้หลานเจ้านายอย่างแปลกใจ แต่กลับเห็นร่างเล็กๆ กำลังสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วกลั้นไว้ตั้งแต่รถแล่นขึ้นสะพานไปกระทั่งสุดถึงได้พ่นลมหายใจออกมาดังๆ ทำเอาเขาอดหัวเราะออกมาด้วยความขำไม่ได้
“คุณแจมขออะไรบ้างครับ”
เขานึกสนุกขึ้นมาเลยหันไปถามพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม ทว่าใบหน้าสวยใสกลับไร้ซึ่งรอยยิ้มเมื่อคิดถึงคำขอของตัวเองขึ้นมา
“ฉันขอให้คุณพ่อกับคุณแม่กลับมารักกันเหมือนเดิม แล้วเอาฉันไปอยู่ด้วยเหมือนเดิม แล้วให้คุณพ่อคุณแม่มีน้องๆ ให้ฉันสามสี่คน ฉันจะได้มีเพื่อนเล่นบ้าง และให้ท่านรักฉันรักน้องๆ ของฉันมากๆ ให้ครอบครัวของเราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป อย่าได้พรากจากกันไปไหนอีก”
ตรงท้ายประโยคนั้นลินรับรู้ได้ว่าน้ำเสียงหลานเจ้านายสั่นเครือเต็มที และเมื่อเขาหันไปมองก็เห็นหยดใสๆ ไหลออกมาตกลงไปหาหัวเข่าทั้งสองข้างที่สองมือบางเกาะเกี่ยวเอาไว้ เขาจึงเอื้อมมือไปดึงทิชชูออกจากกล่องสองสามแผ่นส่งไปให้
มือบางเองก็รับมาซับน้ำตาออก ตามด้วยอาการสกัดกลั้นอารมณ์เศร้าหมองออกไปจากใจ เพราะรู้ดีว่าไม่มีวันที่คำอธิษฐานของตัวเองจะเป็นจริงขึ้นมาได้
“เป็นไงบ้างแจม ไปเที่ยวกับพ่อซีสนุกมั้ย”
อรพินกำลังนั่งแยกผักออร์แกนิกที่ผู้เป็นสามีเป็นคนเก็บมาจากสวนอยู่รีบทักทายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อหลานสาวลงจากรถได้
“สนุกค่ะ แจมไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะแล้วจะมาช่วยป้ามัดผัก”
วิวรรญารับคำแค่นั้นแล้วก็เดินขึ้นชั้นบนไปทันที ลินวางกล่องไก่ทอดเคเอฟซีที่หลานสาวซื้อมาฝากลุงกับป้าลงไม่ห่างตัว ก่อนจะนั่งลงใกล้ๆ กองผักเพื่อช่วยมัดด้วยความรู้งาน
ไม่นานหลานสาวเจ้านายก็เดินลงมาในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อกล้ามที่เขาเห็นว่าน่ารักน่ามองเหลือเกิน แต่ก็ไม่กล้าจะจ้องนาน
กระนั้นก็ยังไม่วายแอบชำเลืองมองร่างผอมบางที่นั่งขัดสมาธิมัดผักช่วยป้าอย่างคล่องแคล่วเป็นระยะๆ และก็มักจะพบแต่ความหงอยเหงาเศร้าซึมติดตัวอยู่ไม่ห่างไปจากกายหญิงสาวเลย