EP.10 ฟาเบียน...เจ้าสาวคนที่สี่
“ถ้าเธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฉันก็ไม่ควรพูด ต่อให้ฉันยิ้มจนปากฉีกถึงใบหูก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากแต่งงานกับฉันหรอก ก็เพราะใบหน้าอัปลักษณ์ของฉันยังไงล่ะ ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนได้เห็นก็ต้องหวาดกลัวด้วยกันทั้งนั้น”
“แต่หนูไม่เห็นกลัวเลยนี่คะ และหนูก็เชื่อว่าต้องมีผู้หญิงอีกมากมายที่จะมองข้ามรูปลักษณ์ภายนอกของท่านชีค เห็นเนื้อแท้ที่งดงามภายในจิตใจ ผู้หญิงที่พร้อมจะรักและเข้าใจ...”
“หุบปาก!”
ภัครติสะดุ้งโหยงเมื่อถูกตวาดเสียงดัง หัวใจร่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เพิ่งตระหนักว่าเธอกล้าตีฝีปากกับผู้เป็นนาย ถ้าเธอและป้าถูกไล่ออกจากคฤหาสน์คงต้องแย่แน่ๆ
“เธอยังเด็ก เด็กเกินกว่าจะเข้าใจว่าโลกแห่งความเป็นจริงมันไม่ได้สวยงามเหมือนเจ้าหญิงเจ้าชายในนิทานที่เธออ่านหรอกนะ เอาไว้เธอโตขึ้นกว่านี้จะเข้าใจ”
“หนูโตแล้วนะคะ หนูไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ปีนี้หนูกำลังจะอายุ...”
หญิงสาวยังพูดไม่ทันจบชีคหนุ่มก็ก้าวยาวๆ จากไปโดยไม่สนใจฟังสิ่งที่เธอพูดอีกเลย ภัครติได้แต่เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง ทำไมเขาทำราวกับเธอเป็นเด็กมัธยมปลาย ทั้งที่เธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว อีกไม่กี่วันเธอก็จะอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ แล้วทำไมคนรอบตัวถึงได้ชอบยัดเยียดความเป็นเด็กให้เธอนักนะ!
บริเวณหน้าคฤหาสน์ของชีคฮัยฟาอ์สวยงามดังเนรมิตจากการตกแต่งด้วยดอกไฮเดรนเยียสีม่วงอ่อน สีคราม และสีชมพูหวานสลับกันจนละลานตา ราวกับอยู่ในทุ่งดอกไฮเดรนเยียก็ไม่ปาน ริบบิ้นสีขาวและสีเขียวประดับตกแต่งร้อยรัดตามกิ่งไม้ทิ้งตัวสะบัดพลิ้วไปตามสายลมอย่างอ่อนช้อยชวนมอง กระดิ่งสีทองเล็กๆ ถูกผูกติดไว้ที่ปลายกิ่งไม้ ส่งเสียงกังวานผสานไปกับเสียงลมและเสียงเสียดสีของใบไม้ยามเอนล้อลู่ลม
สนามหญ้าทางทิศตะวันออกของคฤหาสน์เต็มไปด้วยกระโจมสีขาวขุ่นขนาดใหญ่หลายสิบหลัง ภายในกระโจมตกแต่งด้วยพรมเปอร์เซียสีแดงเลือดหมู โต๊ะไม้สีมะฮอกกานี และเบาะรองนั่งกับพื้นสีน้ำตาลแก่ กระโจมทั้งหมดรองรับแขกเหรื่อที่มาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวได้ราวๆ หนึ่งร้อยคน ซึ่งแขกที่มาร่วมงานในวันนี้ล้วนมีแต่ญาติมิตรคนสนิทเท่านั้น เพราะจะมีงานฉลองงานมงคลสมรสตามแบบสากลอีกครั้งที่โรงแรม ซึ่งคาดว่าน่าจะมีแขกเหรื่อมาร่วมงานมากกว่านี้นับพันคนเลยทีเดียว
งานแต่งงานขนาดเล็กเริ่มต้นขึ้นตามกรอบประเพณีของอาหรับโบราณ โดยเริ่มจากบ้านเจ้าบ่าวมีการกินเลี้ยงสังสรรค์กันถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน ส่วนทางบ้านเจ้าสาวก็จะนำเจ้าสาวไปไว้ในห้องกับญาติและเพื่อนสนิทที่เป็นหญิงสาว อาบน้ำแร่แช่น้ำนม ประทินโฉมเพื่อให้เจ้าสาวสวยและงดงามที่สุด
ในคืนสุดท้ายหรือที่เรียกว่าไลลาต อัล เฮนน่า เจ้าสาวจะสวมชุดปักด้วยดิ้นทอง นั่งบนเบาะเตคียา แล้วนวดน้ำมันหอมทั่วทั้งตัว วาดลวดลายเฮนน่าลงบนหลังมือและเท้า ปกติแล้วพิธีแต่งงานจะจัดขึ้นที่บ้านเจ้าสาว ทว่าชีคฮัยฟาอ์ขอให้จัดที่คฤหาสน์ของเขา ซึ่งทางฝ่ายเจ้าสาวก็ยินดีเป็นอย่างมาก การได้ดองเป็นทองแผ่นเดียวกับชีคฮัยฟาอ์นับว่าเป็นเรื่องดี ด้วยรู้กันลับๆ ว่าแท้จริงแล้วชีคฮัยฟาอ์คือบุตรชายคนโตของสุลต่านเชอร์กี สุไลมาน วาจดาห์ ผู้ปกครองประเทศเตอร์ฮานที่มั่งคั่งไปด้วยทรัพยากรใต้ดินมากมายมหาศาล
แม้จะยังไม่มีการยอมรับหรือแต่งตั้งชีคฮัยฟาอ์เป็นทายาทอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่การที่ชาวเมืองเจมินต่างยกย่องให้ชีคฮัยฟาอ์เป็นผู้นำปกครองผืนดินแห่งนี้ ก็นับว่าชายหนุ่มคือผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในคาบสมุทรอาหรับเลยทีเดียว
“ได้ข่าวว่าท่านชีคหน้าตาอัปลักษณ์ เหมือน...” ริมฝีปากสีแดงชาดเม้มเข้าหากันก่อนจะเอ่ยถามผู้เป็นบิดาออกไป “เหมือนอสูรร้ายจริงหรือเปล่าคะคุณพ่อ”
หญิงสาวผิวขาวผุดผาด ผมสีดำสนิทหยักศก ดวงตาคมเข้ม จมูกโด่งเรียวสวย เธอชื่อฟาเบียน เป็นนางแบบแถวหน้าในปารีส เลือดผสมระหว่างฟาอิกสถานกับฝรั่งเศสทำให้หญิงสาวสวยคมเย้ายวน เป็นที่หมายปองของเหล่าหมู่ภมรมากมาย เธอคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด ด้วยฐานะร่ำรวยระดับเศรษฐีของบิดาทำให้เธอไม่เคยรู้จักคำว่า ‘ไม่ได้’ แม้เพียงเสี้ยวขณะจิต
“ก็แค่แผลเป็นจะอะไรนักหนา ลูกแต่งงานกับท่านชีคไปสักพักก็ค่อยเกลี้ยกล่อมให้ท่านชีคทำศัลยกรรมสิ จะไปยากอะไร”
ยูซุปผู้เป็นบิดาตอบปัดอย่างไม่สนใจนัก มองออกไปนอกรถ ใจจดจ่ออยู่ที่คฤหาสน์หรู วันนี้เขาจะส่งตัวบุตรสาวอันเป็นที่รักให้แก่ชายหนุ่มผู้มีอนาคตไกล ฐานอำนาจของเขาจะมั่นคงและเป็นปึกแผ่นหากได้ลูกเขยที่เก่งกาจจนหาตัวจับได้ยากอย่างชีคฮัยฟาอ์
“คุณพ่อก็พูดได้นี่คะ คุณพ่อไม่ได้เป็นคนนอนกับท่านชีคเหมือนหนู” ฟาเบียนสะบัดเสียงตอบกลับบิดาอย่างไม่ชอบใจนัก
“อย่าให้มันมากนัก ที่ผ่านมาแกยังสร้างเรื่องให้ฉันปวดหัวไม่พออีกหรือไง เด็กในท้องของแกจำเป็นต้องมีพ่อ และพ่อของเด็กในท้องแกก็ต้องเป็นชีคฮัยฟาอ์เท่านั้น จะเป็นไอ้กุ๊ยข้างถนนที่แกใจง่ายไปนอนด้วยไม่ได้!”
เศรษฐีเฒ่าตะคอกห้วนอย่างไม่พอใจเท่าใดนัก บุตรสาวคนเดียวของเขาไปเป็นนางแบบ โชว์เนื้อหนังมังสาผิดจารีตประเพณีที่ดีงามของชาวมุสลิม เท่านั้นคงไม่นำความปวดร้าวมาให้เขา หากเธอไม่อุ้มท้องลูกไม่มีพ่อกลับมาที่บ้าน ใครเลยจะคิดว่าบุตรสาวที่น่ารักจะริอ่านพลีกายให้ชายที่ไม่ได้แต่งงานเป็นสามีภรรยา เรื่องนี้จำต้องเก็บเป็นความลับ มิเช่นนั้นรู้ไปถึงไหนคงได้อับอายไปถึงนั่น
ฟาเบียนชะงักเมื่อได้ยินบิดาพูดเช่นนั้น เธอเชิดหน้าขึ้นน้อยๆ พยายามควบคุมหยาดน้ำตาไม่ให้รินไหล “ชีวิตหนูเป็นของคุณพ่อ คุณพ่ออยากจะพาหนูขึ้นสวรรค์หรือลงนรกก็สุดแล้วแต่ความเมตตา”
เธอตอบเพียงเท่านั้นก่อนจะลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ มือข้างซ้ายยกขึ้นกุมท้อง สิ่งมีชีวิตตัวน้อยได้ถือกำเนิดในท้องของเธอถึงสี่สัปดาห์แล้ว บิดาวางแผนเอาไว้ว่าจะให้เธอแต่งงานกับชีคฮัยฟาอ์แล้วบอกกับใครๆ ว่าเปิดปุ๊บติดปั๊บ ตั้งครรภ์ทันทีหลังจากแต่งงานกับชีคฮัยฟาอ์เพียงหนึ่งเดือน ให้ฝากท้องและคลอดกับหมอประจำตระกูลที่ไว้ใจได้เท่านั้น เพื่อที่จะได้โกหกชีคฮัยฟาอ์ว่าเด็กคลอดก่อนกำหนด เพียงเท่านี้ครอบครัวของเธอก็ไม่ต้องพบกับความอับอายที่เธอตั้งท้องโดยปราศจากพ่อของเด็ก