ไม่คิดจะทักทาย

1311 Words
"......." ภายในห้องประชุมเงียบกริบ ไม่มีแม้แต่เสียงพูดคุยซุบซิบ ทุกคนต่างนั่งนิ่งไม่ไหวติง จ้องมองมาที่ชายหนุ่มและหญิงสาวอย่างอึ้งๆ เพราะก่อนหน้านี้ท่านประธานคนใหม่ของบริษัท ยังทำหน้าเคร่งขรึม วางมาดนิ่งน่าเกรงขาม แต่เวลานี้กับยิ้มกว้างออกมาราวกับเป็นคนละคน "ขอตัวนะคะ" ข้าวหอมไม่แสดงท่าทีใดๆออกมา เธอยังคงพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ "เดี๋ยวสิ"ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น หยุดหญิงสาวที่กำลังจะเดินออกไป ใจจริงเขาอยากคว้าเอวคอดนั่นมากอดไว้ซะมากกว่า อยากฟัดแก้มขาวนวลของเจ้าหล่อนอย่างที่เคยทำ แต่ตอนนี้เขาต้องใจเย็น เพราะมีคนที่นั่งอยู่บริเวณนี้ไม่ใช่น้อย "หนูเรียนอยู่ปีไหนหรอคะ? " เลขาหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านข้างหันขวับทันที เขารีบสะกิดเจ้านายหนุ่มให้รู้ตัว เพราะเหมือนเจ้าตัวจะเผลอใช้คำพูดและท่าทางที่เคยชิน แลดูสนิทสนมกับสาวสวยตรงหน้า จนลืมไปแล้วว่าต่อหน้าคนอื่นเขาเป็นคนจริงจัง แอบเข้มงวด และวางมาดนิ่งอยู่เสมอ "ปีสี่ค่ะ ขอตัวนะคะ" อีกคนพูดด้วยท่าทีสนิทชิดเชื้อ แต่อีกคนทำราวกับว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เธอไม่อยากญาติดีกับผู้ชายที่ชื่อ ‘พายุ’ เลยสักนิด! แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรกัน โลกถึงเหวี่ยงผู้ชายอัปรีย์คนนี้มาเจอเธอจนได้ อุตส่าห์หนีมาได้ตั้งครึ่งทศวรรษ! วันนี้ยังต้องกลับมาพบเจอกันอีก แถมเธอยังอยู่ในฐานะเด็กฝึกงาน ที่แน่นอนว่าเธอต้องทนเจอหน้าเขาไปอีกหลายเดือน...ข้าวหอมอยากกัดลิ้นตัวเองตาย! . . . "เป็นยังไงบ้างข้าว เพราะอิแปนเลย โดนว่าอะไรบ้าง? ดูสิหน้าซีดหมดเลย" เมื่อข้าวหอมเปิดประตูออกมาก็เจอกับเพื่อนซี้ทั้งสองของเธอที่นั่งรออยู่ด้านนอก กวางรีบวิ่งเข้ามาลูบหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้หน้าซีดเผือดราวกับคนโดนสูบวิญญาณ พร้อมทั้งเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง "ขอโทษนะมึง คือกูไม่คิดว่าจะได้เจอแด๊ดดี๊ในฝันของกูอ่ะ~ ขอโทษนะกูคลั่งเขาจริงๆ" เจแปนเข้ามาขอโทษข้าวหอมด้วยใจจริง แต่เธอเองก็ไม่ได้ติดใจเพราะรู้นิสัยของเพื่อนตัวเองดี แต่ที่อยากรู้คือเจแปน มันไปรู้จักและคลั่งไคล้เขาคนนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? และอะไรคือแด๊ดดี๊ที่ใฝ่ฝัน? "มึงไปรู้จักเขาได้ยังไง?" "มึงไปอยู่ถ้ำไหนมาอิข้าว ถึงไม่รู้ว่าคุณพายุผัวกูเขาเป็นถึงนักธุรกิจหนุ่มมาแรง ที่มีธุรกิจมากมายจนนับวันนี้พรุ่งนี้ยังไม่หมด หล่อ รวย ใจดี แถมสุภาพ ทรงแด๊ดดี๊สุดๆ อ่ะมึง~กูแพ้~" "ผู้ชายอะไรไม่รู้ ทั้งเก่ง ขยันทำงาน เพอร์เฟคมาก ล่าสุดมึง เขาเพิ่งเปิดตัวกระเป๋าตัวใหม่ที่มียอดขายทะลุทะลวง โอ้ย!" "กูรักเขา กูอยากเป็นเมียเขา~" "เลิกเพ้อเจ้อค่ะอิควาย!!" คงไม่ต้องเดาให้ยากว่าเป็นใครที่มาดับไฟเพ้อฝันของเพื่อนตัวดี "แหวะ!" เธออยากจะอ้วก แด๊ดดงแด๊ดดี๊อะไรก่อน สภาพ! ผู้ชายคนนี้นอกจากมีดีที่หน้าตาและฐานะทางการเงิน เธอก็มองไม่เห็นอย่างอื่นที่คนเขาเรียกว่า "ดี" เลยสักอย่าง ถ้าเปลี่ยนเป็นเรื่องเฮงซวย หรืออะไรชั่วๆ เธอก็คงไม่เถียง... "นี่มึงฟังเขาสัมภาษณ์ก่อน อ๊าย~" นักข่าว: ขออนุญาตถามถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบสินค้าตัวล่าสุดของคุณพายุได้ไหมคะ? "ก็ไม่มีอะไรมากครับ ผมแค่เอาดอกทิวลิปสีขาวที่คนบางคนชอบมาก มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบกระเป๋าที่เปิดตัวก่อนหน้านี้" นักข่าว: ว้าวๆ คนคนนั้น? ใช่คนของใจหรือเปล่าคะ ? "ใช่ครับ เขาเป็นคนที่ผมชอบ และเป็นคนที่ผมรอเขาอยู่ทุกวัน" บังเอิญจังเลยเนอะ ที่คนคนนั้นของเขา ดันชอบอะไรที่เหมือนกับเธอเลย... "พ่อคนชัดเจน มั่นคงในรัก กรี๊ด~ กูละอิจฉาผู้หญิงคนนั้นจริงๆ ต้องแต้มบุญสูงแค่ไหนเนี่ย" "ชะตาขาดน่ะสิไม่ว่า" ข้าวหอมแบะปากมองบนทันที "แต่เห็นชาวเน็ตโยงกันว่าน่าจะเป็นแฟนเก่าที่เป็นดาราอ่ะมึง ชื่อพลอยมั้ง เห็นออกมาเหมือนสัมภาษณ์คลุมเครืออยู่" เจแปนยังคงตั้งใจวิเคราะห์ข่าวสารที่มันตั้งใจติดตามมาพอสมควร แต่ข้าวหอมกลับไม่พูดอะไรต่อ ก็คงจะเป็นแฟนเก่าที่เขารักนักรักหนา ผู้หญิงที่เขาบอกว่าเหมาะสมกับเขามากกว่าเธอเป็นล้านเท่า ก็คงเป็นแบบนั้นจริงๆ คนแบบเธอต่อให้ตายเกิดใหม่สิบครั้งก็คงเทียบไม่ติด สองคนนั้นเหมาะสมกันจะตาย ... "แล้วนี่ไปทำงานต่อไหมข้าว" ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ เป็นเพื่อนสาวคนสนิทของเธอที่เอ่ยถามขึ้น เพราะตอนนี้เป็นเวลา17:00 น.ได้เวลาเลิกงานแล้ว เจแปนกลับไปก่อนหน้านี้เพราะเจ้าตัวมีธุระ จะยังเหลือแค่ข้าวหอมกับกวางที่เพิ่งเก็บของออกมายืนรอรถอยู่หน้าบริษัท "ใช่แล้ว อาทิตย์นี้รับ 5 วัน " หญิงสาวส่งยิ้มให้กับเพื่อนซี้ของเจ้าหล่อน "อย่าหักโหมมากนะ เดี๋ยวก็ตุยเย่ก่อนเรียนจบหรอก" ถึงกวางจะเป็นคนพูดห้วนๆ ฟังดูแข็งกระด้างแต่สำหรับข้าวหอมที่สนิทกับเพื่อนคนนี้มานานพอสมควร เธอกลับรู้สึกว่าทุกคำแนะนำของเพื่อนเธอมาจากใจที่เป็นห่วงเธอจริงๆ กวางเหมือนแม่คนที่สองของเธอมากกว่าเพื่อนด้วยซ้ำ เพราะอะไรนะเหรอ ? เพราะชอบบ่น... "เดี๋ยวจะต้องทำงาน อ่านหนังสืออีก แล้วนี่ตอนกลางวันก็ฝึกงาน จะเอาเวลาไหนนอน" "บ่นเก่ง~ " "เดี๋ยวหยิกเลย ดูสภาพขอบตาตัวเองด้วยนะ" "บ้าน่า ไม่เห็นคล้ำเลยสวยออก ฮ่ะ ฮ่าๆ เอาน่า... ก็ไม่ได้ทำทุกวันแล้ว เดี๋ยวนี้ก็ลดลงมาเหลือห้าวันต่อสัปดาห์แล้ว เลิกบ่นๆ กลับบ้านได้แล้ว" ก่อนที่จะแยกกับเพื่อน ข้าวหอมยกกระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่ใส่สัมภาระ ชุดและเครื่องแต่งกายต่างๆที่เธอจะต้องใช้ในการทำงานขึ้นบนบ่า หญิงสาวยืนรอแท็กซี่อยู่หน้าบริษัทสักพัก เพราะระยะทางจากนี่ไปถึงที่ทำงานค่อนข้างไกล จึงจำเป็นต้องอาศัยรถในการเดินทาง "ไม่คิดจะทักทายกันเลยหรอคะ?" เสียงคุ้นเคยที่เธอไม่อยากได้ยินดังมาจากด้านหลัง ข้าวหอมค่อยๆ หันกลับไปอย่างช้าๆ เธอไม่แสดงสีหน้าตกใจเลยสักนิดที่เจอเขา เธอไม่อยากให้เขารู้ว่าเขานั้นยังคงมีอิทธิพลกับหัวใจเธออยู่? "สวัสดีค่ะอาพายุ" หญิงสาวยกมือไหว้คนตรงหน้าทันที ก่อนที่เธอจะหันหลังให้ชายหนุ่ม อยากให้ทักทายเธอก็กล่าวทักทายไปแล้วจะได้จบๆ เธอไม่อยากจะเสวนาต่อ จึงเลือกที่จะเมินเฉย หมับ! แขนเรียวเล็กถูกมือแกร่งจับให้หมุนไปมองเขาทันที "ทำไมข้าวต้องทำห่างเหินกับอาขนาดนี้ด้วยคะ ทั้งๆที่เรา_" "คุณอาอยากให้ข้าวทักทาย ข้าวก็ทำไปแล้ว ไม่ทราบว่าคุณอาต้องการอะไรอีกเหรอคะ? " ก่อนที่ชายหนุ่มจะพูดอะไรต่อ ข้าวหอมนั้นกลับรีบตัดบทสนทนาทันที พร้อมกับเอียงคอถามความต้องการของเขาด้วยท่าทียียวน แบบที่พายุเองไม่เคยเห็น!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD