Ryu Talk : “อ๊ะส์ๆๆ ระ ริว..แรงๆ อ๊าส์ๆ!!”
“อึก อ๊าส์ๆ จะ จัดให้ อ๊ะส์ๆๆ!!!!”
พั่บๆๆ!!! เสียงร้องครางดังไปทั่วห้องทำงานของประธานบริษัทริวออโต้ บริษัทโชว์รูมรถที่ใหญ่ที่สุดและมีอำนาจมากที่สุด ร่างสูงของชายหนุ่มหน้าตาหล่อทะเล้นบิดเบี้ยวไปด้วยความซาบซ่านที่กำลังขยับเขยื้อนตัวเองกระแทกเข้าออกกับร่างกายหญิงสาวที่นอนรออยู่ที่โซฟาตัวกว้าง บทรักที่เกิดขึ้นทุกวันที่นี่แต่ผู้หญิงที่อยู่ใต้ร่างกลับเปลี่ยนหน้าไม่มีวันซ้ำ ร่างสูงบีบขย้ำเนินเนื้ออกอย่างรุนแรงพร้อมกับกระแทกร่างกายหนากับร่างบางที่เริ่มจะไม่ไหวแล้ว ร่างสูงเร่งจังหวะทันทีอย่างรู้งานก่อนจะที่ร่างบางจะกระตุกเกร็งทันทีและเป็นจังหวะที่ร่างสูงกระแทกๆ เน้นๆ อีกสี่ห้าครั้งก็กระตุกเกร็งทันทีอย่างสุขล้น พร้อมกับเหงื่อที่ชโลมกายจนชุดสูทสีเทาเปียกชื้นไปหมด ร่างสูงถอดแก่นกายออกแล้วนั่งพิงกับโซฟาอย่างหอบๆ ก่อนจะดึงเครื่องป้องกันออกจากแท่งร้อนของตัวเองทิ้งลงถังขยะ ก่อนจะแต่งตัวให้ดูเข้าที่แล้วเสยผมสีน้ำตาลเข้มของตัวเองที่มีแต่เหงื่อขึ้นไป มองร่างบางที่สวมเสื้อผ้าอย่างเหนื่อยๆ
“ริว..ด้าเหนื่อยจังค่ะ?”
“เหนื่อยก็กลับไปสิ..ใครว่าอะไรล่ะฮึ”
“ริวอ่ะ ใจร้ายกับด้าตลอดเลยนะ”
“อือ ฉันจะทำงาน..โอเคนะ”ร่างบางมองร่างสูงที่เดินไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองก่อนจะเงยหน้ามองร่างของสาวที่ควงส่าสุดเมื่อไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเจอที่ผับ ริวแสะยิ้มแล้วก้มหน้าทำงานต่ออย่างนิ่งๆ..
สวัสดีครับผมชื่อว่า ‘ริว’ เป็นนักธุรกิจที่กำลังมาแรงอยู่ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นโชว์รูมรถที่ผมชอบมากที่สุดในชีวิต ผมชอบการแข่งรถ ชอบรถและรองลงมาก็ผู้หญิง ใช่ผู้หญิง?? คือสิ่งที่ผมปรารถนารองลงมาจากรถนะ ผมเปลี่ยนผู้หญิงเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า วันหนึ่งผมจะควงพวกเธอไม่ต่ำกว่าห้าหรือหก..แน่นอนจบลงด้วยการมีความสุขบนเตียง เห็นผมเป็นแบบนี้แต่ผมป้องกันนะครับไม่งั้นผมคงมีลูกเป็นร้อยหรือไม่ก็ติดโรคไปแล้วล่ะ ผมเป็นผู้ชายเจ้าชู้ใช่ทุกคนคิดแบบนั้น ผมเป็นพวกไม่ชอบผูกมัดกับใครและก็ไม่เคยรักใครจริงหรือชอบใครเป็นพิเศษ ผมคิดเสมอว่าตัวผมไม่จำเป็นต้องมีครอบครัวเหมือนกับเพื่อนของผมสองตัว ‘เซฟ’ ที่ตอนนี้รักเมีย เอาใจเมีย ห่วงเมียและอีกอื่นๆ อีกมากมาย และอีกคน ‘โจชัว’ ที่ตอนนี้แทบจะอุ้มเมียโดยไม่ต้องให้เดินเอง แถมเมียมันยังท้องแล้วด้วยนะ และใช่...ผมที่เห็นเพื่อนเป็นแบบนั้นผมเลยคิดว่าผมไม่อยากมีชีวิตแบบนั้น ชีวิตที่ต้องมีเมีย มีลูก ผมชอบความสบาย..เรื่อยๆ กับผู้หญิงและพวกเธอก็ไม่ต้องการอะไรเลยนะนอกจากสิ่งที่เธอต้องการคือ...??? นั่นแหละ ไม่ต้องบอกก็รู้กันอ่ะนะ ผมคงจะเด็ดละมั้งเนอะหรือไงก็ไม่รู้ หึๆ ผมเซ็นเอกสารเสร็จก็เตรียมตัวไปที่ผับของเซฟที่วันนี้ผมก็จะไปหาเหยื่อไง แต่ไม่ต้องหาระดับผมก็มาหาถึงที่อ่ะ คนมันหล่อนี่น่าเนอะ 5555 ผมกดต่อสายโทรหากายลูกน้องคนสนิทให้เข้ามาในห้อง
“ครับคุณริว?”
“พรุ่งนี้รถจะเข้ามาใหม่สิบคัน แกตรวจสอบแทนฉันด้วยนะ..”
“ครับ”
“แล้วที่สนามแข่งเป็นไงบ้าง?”
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ ตอนนี้กำลังตกแต่งด้านนอกให้ดูน่าเข้าร่วมแข่งครับ”
“อือ โอเคจัดการให้เรียบร้อยด้วย” ผมสั่งกายแล้วเดินออกจากโชว์รูมของตัวเองที่ตอนนี้แขกใหญ่ๆ และคนที่กระเป๋าหนักกำลังเลือกดูรถอย่างสนใจ ผมเดินล้วงกระเป๋ากางเกงออกนอกโชว์รูมอย่างเร่งรีบ
พลั่ก!!
“โอ๊ยย..”
“เฮ้ เป็นอะไรหรือเปล่า?” หญิงสาวตรงหน้าล้มลงทันทีที่เดินชนกับผม ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมามองผมอย่างตกตะลึง ผมมองใบหน้าน่ารักที่หน้าจิ้มลิ้ม ผิวขาวตัวเล็ก รูปร่างสมส่วน ผมสีดำยาวถูกก้าวเป็นม้วยๆ ขึ้นไป แต่งตัวด้วยเสื้อยืดสีฟ้ากับกางเกงยีนสีดำขาสั้นกับรองเท้าผ้าใบสีขาว เธอลุกยันตัวเองขึ้นเธอสูงแค่หน้าอกผมเองก่อนจะหยิบกระเป๋ามาสะพายเหมือนพวกนักท่องเที่ยวเลยล่ะ
“โอเคไหม? ขอโทษด้วย ฉันไม่ระวังเอง”
“อะ ไม่คะ ฉันเองที่ไม่ระวัง” เธอดูนะเขินอายกับการมองผมแต่ผมก็เฉยๆ นะเพราะก็ไม่ได้สนใจกับผู้หญิงที่แต่งตัวธรรมดาๆ อะนะ ผมเดินสวนเธอไปที่รถเฟอร์รารี่สีน้ำตาลที่เพิ่งไปพ่นมาใหม่ก่อนจะมุ่งตรงไปที่ผับของเซฟทันที
“อ้าวมากันพร้อมแล้วเหรอ?”
“อือ..” ผมมองโจชัวกับเรรันเมียมันที่กำลังท้องได้ประมาณ 5 เดือนแล้วมั้ง ส่วนเซฟก็นั่งกอดมินญาอย่างยิ้มๆ
“อิจฉาเว้ย หันไปทางไหนก็เจอแต่คนกลัวเมีย!!”
“ไอ้ริว!!”
“5555 พร้อมเพรียงกันเลยเว้ย” เซฟกับโจชัวตะคอกผมอย่างหงุดหงิด ผมหัวเราะออกมาก่อนจะนั่งลงกินเหล้าทันทีอย่างอารมณ์ดี
“แล้วแกไม่คิดจะมีเมียบ้างหรือไง พวกฉันไปไกลแล้วนะ..”
“พูดคำนี้มานานแล้วปะว่ะเซฟ ฉันไม่ผูกมัดเว้ย..ชอบแค่บนเตียงพอ จบ!!!”
“เหอะ ระวังเถอะปากแบบนี้จะได้เจอของหนัก”
“ปากดีแบบนี้ แกควรจะเก็บไว้พูดกับลูกตอนคลอดดีกว่ามั้งโจ..”เรรันกับมินญาถึงกับหัวเราะทันทีกับคำพูดของผมที่พูดตอกโจไป
“ว่าแต่ที่โชว์รูมว่าไงบ้าง?”
“ก็โอเคนะเซฟ ตอนนี้ฉันกำลังยุ่งเรื่องสนามแข่งอยู่อ่ะ” ผมยกเหล้าขึ้นดื่มแล้วมองเซฟกับมินญาที่ส่งยิ้มให้กันอย่างหวาน..หยด
“น้องมินครับ..เมื่อไหร่จะมีหลานให้พี่อุ้มเหมือนเรรันซะทีละครับ?”
“พี่ริว..พูดอะไรค่ะ มิน..”
“เออไอ้เวรริว..พูดเวรอะไรว่ะ? เมียฉันยิ่งเครียดๆ อยู่..โธ่ๆ เมียจ๋า ก็เมียเล่นไล่ผัวไปนอนนอกห้องทุกคืน จะเอาเวลาที่ไหนไปปล่อยลูกในท้องเมียล่ะฮึ จุ๊บๆ”
“พะ พี่เซฟ ทำอะไรน่าเกลียดนะ!!!”
“55555” พวกผมหัวเราะทันทีที่มองมินญาหน้าแดงไปหมดกับคำพูดของเซฟที่พูดตรงเกิ๊น..ไอ้เวรพูดซะไม่เกรงใจเพื่อนเลย ผมหันไปมองเรรันที่กำลังคุยกับโจชัวพร้อมกับลูบท้องตัวเองเบาๆ ท้องโตแล้วล่ะ
“เรรันล่ะ โอเคป่ะ?”
“ก็โอเคนะริว โจเองก็..อยากให้คลอดลูกเร็วๆ เพิ่งจะ 5 เดือนเอง ยังไม่ถึงเวลาคลอดซะหน่อย ทำเป็นใจร้อน!!”
“นี่ใครบ้างจะไม่ใจร้อนล่ะ ลูกนะเว้ย..นะครับลูก แม่ว่าพ่ออีกแล้วอ่ะ” โจก้มไปจูบท้องเรรัน มินญากับเซฟก็ทำหน้างอนง้อกัน จนผมได้แต่ยิ้มกับเพื่อนทั้งสองที่มีความสุขกับเมียตัวเอง ก่อนที่เราจะนั่งพูดคุยกันจนถึงดึก ผมก็มุ่งตรงกลับคอนโดหรูชั้นที่สูงที่สุดแล้วถอดเสื้อออกมองวิวด้านนอกอย่างนิ่งๆ ก่อนจะได้ยินเสียงกดออดดังขึ้นมา ผมเดินไปเปิดพร้อมกับแสะยิ้มทันทีกับสิ่งตรงหน้า
“รูมเซอร์วิสบนเตียง..มาส่งแล้วค่ะ”
“หึๆ”
เฮ้ออออ..มีความสุข (บนเตียง) อีกแล้วสิเรา
ลงเว็บแล้ว
Hrom Talk :สวัสดีค่ะฉันมีชื่อว่า ‘หอม’ อายุยี่สิบปี เพิ่งจะเรียนจบม. ปลายมามาดๆ แต่ก็ต้องระเห็จตัวเองหนีจากบ้านมาในที่ที่ไม่เคยมา เหตุที่ต้องหนีมาก็เพราะพ่อกับแม่อยากให้ฉันแต่งงาน!! ใช่ จะให้แต่งงานกับผู้ชายที่เปรียบเสมือนพี่ชายของฉันอย่างพี่แทนที่อายุมากกว่าฉันถึงเจ็ดปี ฉันไม่อยากโดนคลุมถุงชน ก็เลยเลือกที่จะหนีมาหาเพื่อนที่อยู่ที่นี่ แต่ความบังเอิญทำให้ฉันชนกับผู้ชายคนหนึ่งที่หล่อมาก..หน้าตาทะเล้น มีผมสีน้ำตาลเข้มซอยละต้นคอ ดูดีและที่สำคัญเขาทำให้หัวใจของฉันเต้นรัวทันทีที่ได้เจอกัน ฉันอยากเจอเขาอีกครั้งนึงนะ ฉันรู้สึกจะชอบเขาอ่ะ..อย่าคิดว่าฉันเป็นเด็กใจแตกนะเพราะตัวฉันเองก็ยังไม่เคยชอบใครมาก่อนเพราะส่วนมากจะมีผู้ชายคนอื่นมาชอบฉันมากกว่า แต่ฉันไม่เคยสนใจใครเป็นพิเศษแต่กำลังจะชอบเขาผู้ชายคนนั่น ใช่ๆ ถ้าฉันกับเขาได้อยู่ด้วยกันบางทีเขาอาจจะกลายมาเป็นคู่ชีวิตของฉันและคราวนี้พ่อกับแม่ก็จะได้เลิกจับฉันคลุมถุงชนกับพี่แทน ก็จะให้แต่งงานกับคนที่เรานับถือเหมือนพี่ชายได้ไงล่ะ อีกอย่างฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่แทนไปมากกว่านั้นเลย ฉันนั่งรอเพื่อนฉันตั้งแต่เมื่อคืนเพราะเพื่อนของฉันไปต่างจังหวัดและตัวฉันก็นั่งอยู่ที่หน้าโชว์รูมรถที่ชนกับเขาคนนั้นตลอด ก่อนจะมองร่างสูงของเพื่อนสาวที่แต่งตัวสวยมากๆ กำลังทำหน้าดีใจสุดๆ
“ยัยหอม!!!”
“เฟรน!!” เราสองคนเดินเข้าไปกอดกันทันที ยัยเฟรนก็ขอโทษฉันใหญ่ที่กลับมาไม่ทันปล่อยให้ฉันนั่งรอที่นี่จนถึงเช้า ฉันกับเฟรนเป็นเพื่อนกันมานานแล้วล่ะ พอเรียนจบเฟรนก็มาเรียนต่อที่นี่แต่ฉันไม่ไงเพราะพ่อกับแม่อยากให้ฉันแต่งงาน เฟรนพาฉันกลับคอนโดของตัวเองก่อนจะให้ฉันเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง
“โหคุณลุงกับคุณป้านี่ อยากให้แกแต่งงานขนาดนี้เชียวเหรอ?”
“เอออ่ะดิ ฉันถึงต้องหนีมาไง”
“อือๆ แล้วแกเอาไงต่ออ่ะ?”
“ก็ยังไงฉันขออยู่กับแกก่อนแล้วกัน เดี๋ยวหางานได้แล้วจะย้ายไป..”
“เฮ้ยแกอยู่ได้นะหอม”
“เหรอ แล้วแฟนแกล่ะ? ฉันไม่อยากเป็นก้างนะ พรุ่งนี้ฉันจะลองไปหางานทำดู” เฟรนพยักหน้ารับแล้วพาฉันให้เข้าห้องนอนไปพักก่อนเพราะเดินทางมาไกลแถมเมื่อคืนก็ไม่ได้นอน ฉันนอนก่ายหน้าผากอย่างนิ่งๆ ที่โชว์รูมรถนั่นมีรับสมัครงานด้วยนะ ฉันจะไปสมัครแล้วกันเพื่อได้ขึ้นมาจะได้ไม่ต้องลำบากยัยเฟรนด้วย เฮ้อออ.. เช้านี้ฉันก็กรอกใบสมัครที่โชว์รูมริวออโต้ ใช่บริษัทที่ฉันมาสมัครงาน ฉันมองป้ายรับสมัครที่รับตั้งอายุยี่สิบห้าขึ้นไปและฉันก็เลือกที่จะโกหกไปว่าอายุยี่สิบห้าแล้ว ฉันมาลองสมัครเป็นพริตตี้นะ..เพราะเห็นมีรับสมัครแค่ตำแหน่งเดียว ลองดูไงเนอะ.. ฉันนั่งรอสัมภาษณ์งานที่หน้าห้องประธานอย่างนิ่งๆ และใช่มีแต่ผู้หญิงที่สวยเซ็กซี่มาสมัคร แต่ต่างจากฉันที่เหมือนเด็กกะโปโลแถมพวกเธอออกมายังยิ้มแย้มว่าตัวเองต้องได้เป็นพริตตี้แน่นอน แต่ทำไมถึงเข้าไปนานจัง บางคนออกมาผมที่ทำดีๆ ก็กระเซิง เสื้อผ้าก็หลุดลุ่ย แปลกจริง???
“ต่อไปคุณเนริกาค่ะ” ฉันยิ้มแล้วลุกขึ้นไป เออ..เหลือแค่ฉันคนเดียวใช่ไหมอ่ะ? ฉันเดินเข้าห้องไปก็ต้องตกตะลึงเป็นหลายล้านๆ เท่า เมื่อผู้ชายตรงหน้าที่ตอนนี้กำลังดูอะไรในแฟ้มกำลังเงยหน้ามองฉันอย่างงุนงง แต่ฉันนี่สิใจเต้นรัวๆ ทันที..ผู้ชายคนนั้นเป็นเจ้าของที่นี่เหรอ? จริงเหรอที่เขาเป็นเจ้าของโชว์รูมรถอ่ะ
“เฮ้..เธอ!!”
“อะ เออขอโทษค่ะ” เขาเรียกสติฉันอย่างหงุดหงิด ฉันเลยเดินไปนั่งที่โต๊ะตรงข้ามเขาที่กำลังอ่านประวัติส่วนตัวฉันอย่างนิ่งๆ ใบหน้าหล่อทะเล้นไล่สายตาลงแฟ้ม ฉันลอบยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ได้เจอเขาอีกครั้ง
“เธอชื่ออะไร?”
“ค่ะ เนริกา”
“รู้ แต่ชื่อเล่นอ่ะชื่ออะไร”
“อะ เออ..หอมค่ะ”
“หอม??”
“ค่ะ”
“หมายถึง..หอมแก้มอะไรแบบนี้” เขาทำหน้างุนงงกับชื่อของฉันแต่ก็ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
“จะมาสมัครเป็นอะไร?”
“ฉันมาสมัครเป็นพริตตี้ค่ะ”
“เหอะ..อย่างเธอเนี้ยนะไปเป็นพริตตี้รถของเล่นเด็กเหอะ!!”
“แต่ฉันอายุ 25 แล้วนะ”
“โกหก!! อายุเธออ่ะไม่ใช่ 25 แต่เป็น 20 ต่างหาก”
“!!!!”
“หึคิดจะโกงอายุอ่ะยาก เพราะฉันอ่ะมันเชี่ยวชาญเรื่องผู้หญิง หึๆ” ใบหน้าหล่อทะเล้นยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วโยนแฟ้มประวัติฉันทิ้งไปก่อนจะกอดอกมองฉันอย่างเยาะเย้ย
“ตะ แต่ฉัน..อยากเป็นพริตตี้”
“เหรอ? ขอเหตุผลหน่อยสิ เด็กอย่างเธอที่เพิ่งจะอายุ 20 ทำไมถึงอยากเป็นพริตตี้?”
“ก็ฉัน..ไม่มีงานทำ”
“แล้วทำไมไม่เรียนต่อ เอาวุฒิม.6 มาสมัครด้วย แสดงว่าเพิ่งจบมาหมาดๆ” รู้ดีจริง..ฉันก้มหน้าลงอย่างไม่รู้จะพูดยังไงต่อดี เขามันรู้ลึกไปไหมอ่ะ? คนอะไรแค่มองแว็บเดียวก็รู้แล้วว่าฉันอายุเท่าไหร่ แสดงว่าคงจะเชี่ยวชาญเรื่องผู้หญิงอย่างที่บอกเลยนะสิ
“ก็ฉัน..จน” เออโกหกไปก่อนแล้วกัน
“....”
“พ่อกับแม่จะให้ฉันแต่งงานกับอาเสี่ยพุงย้อย” ขอโทษนะคะพี่แทน...
“ฉันเลยหนีงานแต่งมา ไม่มีใครที่ช่วยฉันได้..อีกอย่างฉันก็ไม่มีงานทำด้วยก็เลยมาสมัครงานหลายที่แล้วแต่เขาก็ไม่รับ ฉันเลยจำเป็นต้องโกงอายุตัวเองขอโทษด้วยค่ะ” เขามองฉันอย่างนิ่งๆ โอ๊ย..โกหกได้หน้าตายมากหอม แล้วไงล่ะ..เขาจะเชื่อไหมเนี้ย!! ทำตัวให้น่าสงสารๆ เขาจะได้รับฉันเข้าทำงานนะ ฉันอยากอยู่ใกล้ๆ เขาอ่ะ
“แล้วไงเธอจะให้ฉันรับเธอเป็นพริตตี้..จะบอกให้นะฉันไม่อยากติดคุกที่เอาเด็กอายุยี่สิบมาเป็นพริตตี้หรอก”
“คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ค่ะ ฉันทำเป็นหมดนะ..ทำงานแม่บ้านก็ได้นะคะ” ฉันยกมือไหว้เขาที่มองฉันด้วยสายตาจิกๆ ใบหน้าหล่อทะเล้นยิ้มมุมปากก่อนจะเก็บของบนโต๊ะ
“แน่ใจ”
“ค่ะ” เขาถอนหายใจออกมาก่อนจะลุกขึ้นแล้วกระดิกนิ้วให้ฉันตามเขาไปที่หน้าโชว์รูม
“ขึ้นรถดิ..”
“เออ จะไปไหนค่ะ?”
“เดี๋ยวก็รู้ จะไปไหม?”
“อือค่ะ” ฉันเข้าไปนั่งในรถสปอร์ตสุดหรูของเขาทันที รถนี้วันนั้นที่เจอกันไม่ใช่คันนี้..อย่างว่าเขาเป็นเจ้าของโชว์ รูมรถนี่น่าก็ต้องเปลี่ยนรถบ่อยๆ อยู่แล้ว เขาขับรถไปจอดที่คอนโดสุดหรูที่สวยมากๆ เลยล่ะ ฉันเดินตามเขาเข้าไปในลิฟต์ไปชั้นที่สูงที่สุดก่อนจะมาหยุดที่หน้าประตู ก่อนที่เขาจะเปิดประตูเข้าไปในห้องขนาดกว้างฉันตกตะลึงกับห้องของเขาที่สวยและเห็นวิวไปทั่ว
“สวยจัง..”
“ฉันจะให้เธอมาเป็นแม่บ้านทำความสะอาดห้องของฉัน โอเคป่ะ?”
“เอ๋??”
“แม่บ้านของฉันเพิ่งลาออกไป เธอทำได้เปล่า..ก็ทำอาหารเช้า ซักผ้า เก็บกวาด เหมือนพวกแม่บ้านเขาทำกันอ่ะ ทำได้ไหม?” เขามองฉันพร้อมกับเท้าเอว ฉันที่ได้ฟังก็พยักหน้ารับ..แค่นี้เองสบายมากสำหรับฉันอ่ะ
“ดี แล้วเธอพักที่ไหน?”
“อะ เออ..ก็”
“ว่าไง พักที่ไหน?”
“ฉันพักที่สถานีรถไฟ”
“บ้าหรือเปล่า เป็นเด็กผู้หญิงไปนอนที่นั่นได้ไง”
“กะ ก็ฉันไม่มีที่พัก” ฉันจำต้องโกหกอีกแล้วเพื่อเขาจะสงสารและก็เป็นจริงนะ ถึงจะไม่รู้ว่าเขาเป็นคนยังไงนิสัยยังไง แต่การที่เขาช่วยฉันแบบนี้ฉันก็ถือว่าเขาเป็นคนมีน้ำใจมากเลย
“เฮ้อออ..ยัยเด็กบ้าเอ๋ย แล้วทำไมฉันจะตัองช่วยเธอด้วยว่ะ!!”
“ขะ ขอโทษค่ะ”
“ตามมา!!” เขาเดินนำฉันไปก่อนจะเปิดประตูไปที่ห้องนอนที่กว้างและสวยอีกแล้ว
“ห้องฉัน เธอต้องเข้ามาทำความสะอาดทุกวัน..เข้าใจไหม?”
“ค่ะ” เขาปิดประตูลงแล้วพาเดินไปอีกห้องนึงที่อยู่ตรงข้ามกับห้องของเขา สวยมากแต่เล็กกว่าห้องนอนของเขานะ
“ส่วนนี้ห้องเธอ..”
“อะ เอ๋?? อะไรนะค่ะ”
“เออ ห้องเธอไปย้ายของที่สถานีรถไฟมานอนที่นี่ฉันอนุญาต และไม่ต้องกลัวว่าฉันจะทำอะไรเธอ..เพราะฉันไม่นิยมกินเด็ก” ฉันพยักหน้ารับแล้วเดินตามเขาไปที่โซฟาก็มองเขาที่กำลังหยิบน้ำขึ้นดื่มอย่างนิ่งๆ
“ริว..”
“เอ๋ค่ะ?”
“ฉันชื่อริว พรุ่งนี้เธอเริ่มงานได้..ทำทุกอย่างและฉันจะให้เงินเดือนเธอ เข้าใจไหม?”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“อือ ไปพรุ่งนี้เธอต้องมาถึงนี้หกโมง ฉันจะบอกพนักงานข้างล่างว่าเธอจะมาเป็นแม่บ้านคนใหม่ของฉัน” เขาโบกมือไล่ฉันแล้วเดินหมุนตัวเข้าห้องไป ฉันรีบออกจากห้องมาพร้อมกับกระโดดอย่างดีใจสุดๆ
“ริวเหรอ? “ ฉันมองไปที่ประตูหน้าห้องอย่างยิ้มๆ เอาล่ะ..หอม สู้ๆ