อาถรรพ์เบญจเพสหรือลางบอกเหตุ

609 Words
เช้าของวันใหม่จันทร์เจ้าเอยรีบร้อนไปทำงานลงมาจากบ้านชั้นสองได้ก็วิ่งมาคว้าขนมปังปิ้งไปหนึ่งแแผ่นจากโต๊ะอาหาร "อ้าวไม่นั่งทานให้อิ่มก่อนล่ะลูก" จิตตราหันไปถามลูกสาวที่วิ่งออกประตูบ้านไป "ไม่ทันแล้วค่ะแม่นอนเพลินไปหน่อย" เธอวิ่งไปตะโกนตอบไป "ขึ้นรถขึ้นราดีๆนะลูก" "ไม่น่าเชื่อว่าลูกสาวเราจะเป็นคุณครูนะคะพ่อ ยังกับม้าดีดกระโหลก" จิตตราบ่นให้สามีฟัง "คงจะลืมไปว่าต้องไปทำงานเมื่อวานลางานนี่นะ" เกรียงไกรยิ้มมองตาม วันนี้เป็นอีกวันที่เธอพึ่งพาขนส่งสาธารณะ จันทร์เจ้าเอยเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขี่ผ่านในซอยให้ไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้าระหว่างที่รถคันที่เธอนั่งซ้อนท้ายอยู่กำลังแล่นไปตามความเร็วปกติก็มีรถกระบะคันหนึ่งวิ่งสวนมาด้วยความเร็วคล้ายว่าจะเบรคไม่อยู่ เมื่อคนขี่รถมอเตอร์ไซค์เห็นก็ร้องขึ้นมาเสียงดัง "เฮ้ยยย" แต่ทันใดนั้นเองจู่ๆรถกระบะคันดังกล่าวก็เบี่ยงตัวหลบออกไปได้อย่างรวดเร็วทำเอาทั้งคนขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างและจันทร์เจ้าเอยใจหายใจคว่ำไปตามกัน "มายังไงของมันเนี่ย เป็นอะไรไหมน้อง" คนขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างบ่นดังแล้วหันมาถามเจันทร์เจ้าเอย "ไม่เป็นอะไรค่ะพี่ โหย ขับรถได้หวาดเสียวมากแต่ไม่เป็นอะไรค่ะไปต่อดีกว่าหนูจะสายแล้ว" จันทร์เจ้าเอยถอนหายใจเพราะกลัวไม่ใช่น้อยเหมือนกันเพราะอีกแค่นิดเดียวรถที่เธอนั่งมากับกระบะคันนั้นก็จะประสานงานกันอยู่แล้วในระยะกระชั้นชิด เหตุการณ์ดังกล่าวอยู่ในสายตาของใคนคนหนึ่งที่มองดูด้วยความโกรธแค้นและผิดหวังที่ไม่เป็นไปตามคาดคิด เมื่อจันทร์เจ้าเอยถึงสถานีรถไฟฟ้าได้ก็รีบวิ่งไปซื้อตั๋วและขึ้นบันไดเลื่อนไปยังชานชาลาทันที ในเวลาเร่งด่วนแบบนี้ใครก็ต่างพากันวิ่งเพื่อไปรอขึ้นรถไฟฟ้า เธอเองก็เช่นกัน "ว้ายยยกรี๊ด" จันทร์เจ้าเอยถูกใครไม่รู้วิ่งเบียดจนเธอเซจนเกือบตกลงไปที่รางรถไฟแต่กลับมีมือที่มองไม่เห็นคว้าตัวเธอเอาไว้ได้จนปลอดภัยในที่สุด "ปรี๊ดดดดด" "เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณ" เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย บนสถานีเป่านกหวีดไล่ผู้คนที่มุงกันอยู่ให้ออกห่างแล้วมาดูถามไถ่จันทร์เจ้าเอย "มะไม่เป็นไรค่ะ มีใครไม่รู้วิ่งชนน่ะค่ะ" จันทร์เจ้าเอยยังอกสั่นขวัญแขวนอยู่กับเหตุการณ์เมื่อสักครู่ "เดินระวังหน่อยครับช่วงเวลารีบเร่งคนเยอะมาก มีเบียดมีชนกันเป็นธรรมดา แต่คุณพยายามอย่าไปยืนใกล้รางครับ อยู่ในเส้นที่กำหนดเท่านั้นนะครับมันอันตราย" เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบอกแก่เธอ "ค่ะ ขอบคุณค่ะ" เธอเองถึงแม้จะรีบแต่ก็มั่นใจว่าไม่ได้เดินใกล้รางรถไฟฟ้าขนาดนั้น แต่เธอรู้สึกเหมือนมีใครผลักเข้าอย่างแรง "ฮู้ววว วันนี้มันเป็นวันอะไรนะเพิ่งผ่านวันเกิดตัวเองมาแท้ๆ" จันทร์เจ้าเอยเป่าลมออกปากพึมพำในความโชคร้ายวันนี้ เมื่อขบวนรถไฟเคลื่อนตัวไป สายตาคู่เดิมยังคงจ้องมองที่เธอด้วยความเคียดแค้นและผิดหวังที่ไม่เป็นดั่งใจเหมือนมีใครมาขวางไว้อีกแล้ว "แส่นักนะมึง" เสียงนั้นแหบแห้งคำรามอยู่ในลำคอ ........................
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD