“คุณยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!” เสียงเขาเข้มขึ้นก่อนคว้าข้อมือภัทรญาที่กำลังจะออกไปจากห้องนั้น
“ครินต์...ฉันไม่โกหกคุณหรอกนะคะ พรุ่งนี้จะกลับมาตามสัญญา แต่ตอนนี้ฉันต้องรีบกลับ มีธุระสำคัญมากจริงๆ”
“อะไรกัน มาแล้วก็จะรีบไปเลยหรือ พอได้เงินก็อยู่ไม่ได้เลยว่างั้น”
“ฉันต้องรีบไปโรงพยาบาลค่ะ ฉันต้องไปคุยกับหมอเรื่องผ่าตัดหัวใจคุณพ่อ ฉันไม่ได้โกหกนะคะ”
เขาโน้มใบหน้าลงมาใกล้ “ผมไม่ได้ว่าคุณโกหก แต่ผมจะบอกว่าเมื่อคุณรับเงินก้อนแรกไปแล้วก็หมายความว่าคุณไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ด้วยตัวเองอีก นอกจากฟังคำสั่งจากผมเท่านั้น!”
“ครินต์...” ภัทรญาเสียงแห้งหายเหมือนหัวใจของเธอที่มันหล่นวูบลงไปเบื้องล่าง ยิ่งเห็นนัยน์ตาคมวับของครินต์ก็ยิ่งทำให้หนาวไปถึงขั้วหัวใจ
“ครินต์...แต่เรื่องนี้ขอร้องได้ไหมคะ ฉันมีความจำเป็นที่ต้องรีบไปจริงๆ ฉันต้องพบคุณหมอที่รักษาพ่อของฉัน ถ้าช้ากว่านี้ฉันเกรงว่า”
“ผมไม่ใช่คนใจจืดใจดำถึงขนาดนั้นหรอกนะเบล แต่ในเมื่อคุณรับข้อเสนอของผมแล้วก็ต้องเชื่อฟังเพราะตอนนี้ผมอยู่ในฐานะนายจ้างของคุณ ผมมีสิทธิ์จะให้คุณทำอะไรอย่างที่ผมอยากให้ทำ มีสิทธิ์ไม่ให้คุณไปไหนตามอำเภอใจก็ได้”
“แต่เรื่องนี้สำคัญมากนะคะ ชีวิตพ่อของฉันทั้งคน”
“อย่ากังวลไปเลยนะ ผมจะเป็นคนพาคุณไปเอง”
“คุณจะไปส่งฉันที่โรงพยาบาลอย่างนั้นเหรอคะ”
บทที่ 3
“ใช่...เพราะผมต้องพาคุณกลับมาที่นี่ คุณไปไหนไม่ได้อีกแล้วนะเบล”
“หมายความว่ายังไงกันคะ”
“หมายความว่า...คุณต้องอยู่ที่นี่ นับจากวันนี้เป็นต้นไป”
ภัทรญาย่นคิ้ว แสดงสีหน้าประหลาดใจ เธอชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง“ฉันต้องอยู่ที่นี่ ตั้งแต่วันนี้เหรอคะ ตะ...แต่ว่าฉันยังไม่ได้ทำสัญญากับคุณเป็นลายลักษณ์อักษรเลยนะคะ”
“แค่คุณรับเงินผมไปนั่นก็ถือว่าสัญญาระหว่างเราได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว หรือคุณจะเปลี่ยนใจ”
เธอส่ายหน้า “มะ...ไม่ค่ะ...ฉันยังยืนยันคำเดิมว่าจะทำตามข้อเสนอของคุณ”
“ก็แน่วแน่ดีนี่ แบบนี้ผมจะได้ไม่ต้องพูดอะไรมาก ไปกันเถอะ”
“ไปไหนคะ?”
“ก็ไหนคุณบอกว่าจะไปโรงพยาบาลนี่ไม่ใช่เหรอ ผมจะพาคุณไปยังไงล่ะ”
“ฉันไปเองได้ค่ะ อาจไม่ต้องลำบากให้คุณไปส่ง”
“ผมไม่ได้ลำบากอะไร ก็แค่พาคุณไปแล้วก็พาคุณกลับ”
“คุณจะไม่ให้ฉันเตรียมตัวเลยเหรอคะ จู่ ๆ ก็ให้ฉันมาอยู่ที่นี่ แล้วข้าวของเสื้อผ้าของฉันล่ะคะ”
“คุณอยากได้อะไรบ้างล่ะ ของพวกนั้นซื้อหาใหม่เอาได้ เสื้อผ้า เครื่องสำอาง หรือแม้แต่ชุดชั้นใน” นัยน์ตาเข้มเป็นประกายวาววามของครินต์เลื่อนไปทั่วใบหน้าร้อนผะผ่าวของภัทรญา เธอยังตื่นเต้นเวลาอยู่ต่อหน้าเขา มันเป็นความรู้สึกเก่า ๆ ที่ผุดขึ้นมา จั้งแต่ได้เจอเชาอีกครั้ง แทบไม่มีอะไรในตัวเขาเปลี่ยนแปลงไปเลย ทั้งความหล่อเหลา ท่าทีสุขุม และแววตาราวกับไฟหลอมละลายความเข้มแข็งของเธอได้อย่างร้ายกาจ เธอรู้ว่าว่าเขาร้ายกาจ แต่ไม่เคยลืมเขาได้แม้เป็นฝ่ายตัดใจเดินไปจากชีวิตของเขาเอง ทว่าครินต์จะเข้าใจความรู้สึกของเธอหรือเปล่า ขณะนั้นเขาขยับเข้าใกล้มากกว่าเก่า ภัทรญาถอยหลังแต่กลับถูกเขาตรึงไว้ด้วยมือหนาแกร่งที่จับข้อมือทั้งสองไว้ เหมือนมีกระแสไฟอ่อนจากตัวเขาไหลเข้าไปในตัวเธอ ปากได้รูปของเขาทำให้ภัทรญารำลึกถึงคืนวันเก่าๆ เธอเคยสัมผัสความวาบหวามจากจุมพิตของครินต์ แต่ไม่เคยปล่อยตัวไปตามอารมณ์กับเขา เธอไม่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับมาเฟียหนุ่ม และในเวลานั้นเขาก็ไม่เคยบีบบังคับให้เธอตอบรับการมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ครินต์เลิกคิ้ว
“ว่ายังไง...ที่ผมพูดคุณเข้าใจหรือเปล่าเบล”
“ขะ...เข้าใจค่ะ”
“ก็ดี...ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเถอะ” เขาดึงมือให้ภัทรญาเดินตามออกไปข้างนอก บอดี้การ์ดของเขาเดินตามออกมาส่งหน้าระเบียง ภัทรญาไม่สามารถปฏิเสธทุกความต้องการของครินต์ เธอยอมให้เขาพาไปโรงพยาบาล และเมื่อไปถึงก็พบว่าแม่ของเธอนั่งรออยู่ก่อนแล้วหน้าห้องผ่าตัด เมื่อเห็นลูกสาวลัคณาก็ลุกขึ้นและเข้าไปหา
“เบล...มาแล้วเหรอลูก...แล้วนี่...”
“อ๋อ...นี่คือครินต์ค่ะ”
“ผมเป็นแฟนของเบลครับ” ครินต์แนะนำตัวเองแต่ก็ทำให้ภัทรญานิ่งอึ้งไป ทว่าลัคณากลับยิ้ม
“สวัสดีค่ะ...ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ นี่เพิ่งได้รู้จักแฟนคนแรกของเบลเลยนะคะเนี่ย”
“ผมคบกับเบลมาก็เกือบปีแล้วล่ะครับ เพียงแต่ยังไม่ได้เปิดเผย ทั้งที่ผมก็พยายามให้เบลพามารู้จักกับคุณพ่อคุณแม่ แต่เบลมักจะบ่ายเบี่ยงอยู่เรื่อย”
“เบลเขาขี้อายค่ะ แต่แม่ก็ดีใจนะคะที่เห็นเขามีแฟน แล้วยิ่งในช่วงเวลาแบบนี้”
“แม่คะ” ภัทรญาเข้าไปจับมือมารดา “แล้วตอนนี้อาการของคุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ คุณหมอว่ายังไงบ้าง”
“คุณพ่อก็อาการยังทรง และรอการผ่าตัด เบลไปพบคุณหมอก่อนนะ คุยเรื่องค่าใช้จ่าย ก็น่าจะสูงเอาการอยู่”
“ถ้าอย่างนั้นเบลไปพบคุณหมอก่อนนะคะ แม่รอตรงนี้นะคะ”
ภัทรญาบอกมารดาก่อนเดินออกไปเพื่อพบนายแพทย์ที่จะทำการรักษาบิดา ลัคณาถอนใจแล้วนั่งลง ครินต์หย่อนตัวลงนั่งข้าง ๆ
“คุณพ่ออาการหนักเหรอครับ?”
“ก็หนักเหมือนกัน แต่หมอบอกว่าการผ่าตัดจะช่วยได้ถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์”
“ถ้าอย่างนั้นแล้วคุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลแล้วซีนะครับ เพราะยังไงคุณหมอก็ยังช่วยเหลือได้”