5

1269 Words
ชเนตตีมาหยุดยืนหน้าประตูห้องของสุภัทรา เด็กหญิงมองผ่านช่องประตูที่เปิดแง้มมองดูมารดาทุ่มตัวร้องไห้บนเตียงด้วยความสงสาร ความที่อยากปลอบโยนผู้ให้กำเนิดให้คลายความหมองเศร้า เธอจึงตัดสินใจผลักบานประตูแล้วเดินเข้าไปภายในห้องนั้น “แม่จ๋า แม่” ชเนตตียืนเรียกมารดาข้างเตียง เสียงของคนเป็นลูกติดสั่นเครือ “แม่อย่าร้องไห้นะแม่ แม่อย่าร้อง” สุภัทราหันมามองต้นเสียงทั้งน้ำตา ก่อนที่เธอจะดีดตัวลุกนั่ง สายตาที่มองไปยังชเนตตีเต็มไปด้วยความโกรธ คนเป็นแม่กระชากแขนของลูกสาวสุดแรง ก่อนจะฟาดมือลงบนก้นของชเนตตีหลายครั้งติดกัน “เพี้ยะ…เพี้ยะ…แกนะแก ฉันคิดว่าแกเกิดมาแกจะทำให้พ่อของแกกลับมาหาฉัน แต่ที่ไหนได้เขากลับทิ้งฉันไปอยู่กับเมียใหม่ แกมันเป็นตัวกาลินีของฉัน เพี้ยะ…เพี้ยะ” สุภัทราตีบั้นท้ายของชเนตตีนับไม่ถ้วน เธอตีไปพูดไป ราวกับว่ากำลังหาที่ระบายความรู้สึกของตัวเอง ชเนตตีปล่อยโฮออกมาแต่ก็ไม่ได้สะบัดตัวหนีหรือร้องห้ามมารดา เด็กหญิงยืนให้สุภัทราตีแต่โดยดี “แม่…ฮือ…ฮือ” ชเนตตีร้องไห้กับความเจ็บปวดที่ได้รับ “เนยให้แม่ตี แม่ตีเนยเลย ถ้ามันทำให้แม่หยุดร้องไห้ ทำให้แม่สบายใจ…ฮือ” คำพูดของชเนตตีที่ปนกับเสียงสะอื้นไห้ ทำให้คนเป็นแม่หยุดทำร้ายลูกสาว สุภัทรานิ่งงันกับวาจาของเด็กไร้เดียงสาที่เธอแทบจะไม่ให้ความรักความอบอุ่นเท่าที่ควร แถมยังทิ้งขว้างให้อยู่ตามลำพังที่บ้าน ส่วนตัวเธอก็ออกไปเที่ยว ไปสังสรรค์กับเพื่อน ไม่สนใจไยดีลูก “เนย” สุภัทราเรียกชื่อเล่นของบุตรสาวเสียงเบา น้ำตาร่วง ถอยร่นร่างไปนั่งริมเตียงแล้วปิดหน้าร้องไห้ ปล่อยโฮออกมาอย่างสุดจะกลั้น “แม่จ๋า” ชเนตตีเดินเข้าไปใกล้และทรุดกายนั่งข้างมารดา ใช้แขนเล็กๆ ของตนโอบกอดร่างของสุภัทรา “แม่จ๋า แม่อย่าร้องไห้ เนยไม่อยากเห็นแม่ร้องไห้ เนยรักแม่ รักมากที่สุดในโลก” สำหรับชเนตตี สุภัทราคือบุคคลที่เธอสามารถจับต้องได้ สามารถกอดและหอมได้มากกว่าบิดาที่จะได้กอดหรือหอมยากยิ่งเหลือเกิน หรืออาจจะไม่ได้รับเลยตลอดทั้งชีวิต เธอจึงรักมารดามากถึงแม้ว่าผู้เป็นแม่จะไม่เคยแสดงออกถึงความรักกับเธอก็ตาม “เนยลูกแม่ แม่ขอโทษนะ แม่ขอโทษ” คงจะไม่มีคำไหนที่สุภัทราจะเอ่ยได้เหมาะเท่าคำนี้ เธอเคยคิดจะใช้ชเนตตีในการแก้แค้นหทัยชนกด้วยการให้ลูกสาวของเธอกลั่นแกล้งลูกสาวทั้งสองคนของมารหัวใจ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ทำสักทีเพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องงานที่ค่อนข้างรัดตัว ทว่าเวลานี้สุภัทราไม่หลงเหลือความคิดนั้นแล้ว เหตุการณ์ในบ้านหลังนั้นในวันนี้ทำให้เธอตระหนักว่า ตนไม่มีทางได้หัวใจและร่างกายของสิโรจน์ แล้วเหตุใดสุภัทราจะต้องไปยื้อแย่งสิ่งที่ไม่มีทางเป็นของเธอ สุภัทรามีสิ่งหนึ่งที่มีค่ามากกว่าสามีหลายเท่า นั่นคือเลือดเนื้อเชื้อไขของตน ชเนตตีคือของขวัญจากฟ้าที่ดลบันดาลมาให้ เธอทิ้งขว้างและไม่ใส่ใจลูกสาวมานานถึงสิบสองปี ถึงเวลาแล้วที่เธอจะหันกลับมามองและสนใจลูกสาวคนนี้ แทนที่คอยหาวิธีนำสามีของตนกลับมา “แม่ไม่ต้องขอโทษเนย แม่ไม่ได้ทำอะไรผิด เนยรักแม่ แม่อย่าร้องไห้นะ เนยไม่อยากเห็นแม่ร้องไห้” ยิ่งได้ฟังคำพูดของชเนตตี น้ำตาก็ยิ่งไหล เสียงสะอื้นก็ยิ่งดัง ความเสียใจพุ่งสูงควบคู่ไปกับความรู้สึกผิดที่มีต่อลูกสาวตัวน้อยของตน “แม่จะไม่ร้องไห้แล้วลูก แม่จะไม่ร้อง” สุภัทราระงับเสียงสะอื้น ใช้มือปาดน้ำตาทิ้ง “แม่ไม่ร้องไห้แล้วเห็นไหม” “ดีค่ะแม่” เด็กหญิงยิ้ม “แม่อย่าไปบ้านโน้นอีกเลย ไปทีไรแม่ก็ร้องไห้กลับมาทุกที เนยไม่อยากให้แม่ร้องไห้” นับตั้งแต่จำความได้ วันไหนที่สุภัทราไปที่บ้านหลังนั้น วันนั้นแม่ของเธอจะต้องร้องไห้พกความเสียใจกลับมาบ้านทุกครั้ง ชเนตตีจึงไม่ต้องการให้มารดาต้องรู้สึกอย่างนั้นอีก “จ้ะลูก แม่จะไม่ไปบ้านนั้นอีกแล้ว ไม่ไปแล้วละ” เธอให้คำมั่นกับลูกสาว ต่อไปนี้สุภัทราจะรักสิโรจน์น้อยลงและรักชเนตตีมากขึ้น เธอจะรักคนที่มีความรักตอบกลับมาให้ตนเพราะคนๆ นี้จะไม่ทำให้เธอเจ็บปวดและเสียใจ สุภัทราจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับชเนตตี แต่ก็จะไม่ลืมว่าใครทำอะไรไว้กับตนและลูก ................... หนึ่งสัปดาห์ต่อมา เสียงชิงช้าไหวไม่ได้ทำให้คนที่เดินอยู่ริมรั้วเกิดความสนใจเท่าเสียงสะอื้นไห้ที่ดังมาควบคู่ เจ้าของเท้าที่กำลังก้าวเดินไปยังประตูบานเล็กที่เชื่อมต่อระหว่างบ้านเจริญวัฒนะวงศ์กับบ้านกิตติธรรมชะงักเท้า ก่อนที่เขาจะมองลอดช่องอิฐบล็อกของรั้วเพื่อมองดูว่า ใครคือเข้าของเสียงร้องไห้ “ทำไมเนยมานั่งร้องไห้อยู่ตรงนี้” ไอศูรย์ หรือเจย์ จักรบดินทร์ ลูกชายของพิสุทธิ์และวิมลพูดกับตัวเอง ก่อนจะก้าวเดินต่อไปยังประตู พอเปิดมันออกเขาก็ก้าวเท้าเข้าไปในอาณาเขตบ้านกิตติธรรม “มานั่งร้องไห้ทำไมตรงนี้เนย” ไอศูรย์ ชายหนุ่มวัยยี่สิบปีเอ่ยถามชเนตตีที่นั่งร้องไห้อยู่บนชิงช้า พอถามเสร็จเขาก็ทรุดกายนั่งลงข้างร่างเล็ก “พี่เจย์” ชเนตตีหันมามองหน้าเจ้าของเสียง “ร้องไห้ทำไม ใครรังแก” เขาถามเสียงนุ่มนวล “คุณพ่อตีค่ะ” เธอตอบเสียงเบา น้ำตาร่วงพรูเมื่อนึกเหตุการณ์เมื่อห้านาทีก่อน “แล้วคุณอาสินตีเนยเรื่องอะไร” “คุณพ่อหาว่าเนยแย่งตุ๊กตาของนก” ชเนตตีตอบ “แล้วเนยแย่งจริงหรือเปล่า” ไอศูรย์ถามอย่างรู้นิสัยของเด็กหญิงข้างกายตนจากคำบอกเล่าของวิมลผู้เป็นมารดา ที่มักจะมาเล่าเรื่องราวของคนข้างบ้านให้ตนฟังเสมอ และส่วนหนึ่งก็รับรู้มาจากปากของชนกนันท์ เด็กผู้หญิงวัยสิบสองปีที่เขาสนิทสนมด้วย “พี่เจย์จะเชื่อไหมคะว่า เนยไม่ได้ตั้งใจ” คนที่ร่วมอาศัยอยู่ในบ้านกิตติธรรม ไม่มีใครสักคนที่เชื่อว่าเธอไม่ได้แกล้งชนกนันท์และชญารัตน์ น้องสาวต่างมารดาของตน ไม่มีใครถามที่มาที่ไปของเรื่อง ทุกคนจะโทษเธอเพียงคนเดียว ยกเว้นสุภัทราที่จะเข้าข้างเธอหากรู้เรื่อง แต่เธอก็ยอมรับว่า บางครั้งตนก็เป็นฝ่ายแกล้งน้องสาวจริงๆ ทว่ามันก็น้อยครั้งมาก เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ในวันนี้ ก่อนหน้าที่ชเนตตีจะมานั่งร้องไห้อยู่ตรงนี้ เธอได้เดินถือหนังสือการ์ตูนเดินมาทางหลังบ้าน ตั้งใจว่าจะมานั่งอ่านหนังสือที่ศาลาไม้ระแนง แต่ยังไม่ทันถึงที่หมายเธอก็พบกับบางอย่างบนพื้น แล้วสิ่งที่เห็นก็ทำให้เธอรู้ว่า มันเป็นของใครเพราะในบ้านหลังนี้มีคนเดียวเท่านั้นที่หลงใหลสิ่งที่ตกบนพื้น เด็กหญิงจึงก้มลงหยิบตุ๊กตาบลายธ์ขึ้นมา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD