ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าของสองหนุ่มกับอีกหนึ่งสาวสวยก้าวเดินเข้ามายังผับหรูที่เป็นร้านประจำของทั้งสามคน จากบรรยากาศครึกครื้นแปรเปลี่ยนไปทันที ผู้คนภายในนั้นต่างหันมาสนใจเป็นตาเดียวกันเมื่อการปรากฏตัวของพวกเขาและเธอมาถึง ณ สถานบันเทิงแห่งนี้
เพราะไม่มีใครไม่รู้จัก เพลิง และ พายุ แก๊งหนุ่มฮอตประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ และอีกหนึ่งสาวจากคณะนิเทศศาสตร์อย่าง เฟียร์ พวกเขาได้รับขนานนามเป็นที่เลื่องลือว่าคือกลุ่มหนุ่มหล่อสาวสวยที่ทรงอิทธิพลประจำมหาวิทยาลัย King
เพลิง พายุ และ เฟียร์ เดินนำเข้ามาในผับก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะประจำ สายตาผู้คนที่มองมาไม่ได้ทำให้รู้สึกสะทกสะท้านหรือมีอาการประหม่าได้เลยสักนิด เพราะชินชาจนกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเขาไปแล้ว
และอีกหนึ่งหนุ่มฮอตที่จะขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือ ไฟ ที่เพิ่งเดินตามเข้ามาสมทบในกลุ่มเป็นคนสุดท้าย
ทันทีที่เจ้าของใบหน้าไม่สบอารมณ์นั่งลง เฟียร์เพื่อนสาวคนสนิทก็เอ่ยปากทักในทันที
“ไปฟัดกับหมาที่ไหนมาอีก” เสียงหวานใสเอ่ยถามเมื่อเห็นสภาพของชายหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้ามา ทั้งมีหยาดเหงื่อเต็มกรอบหน้าคมคาย รวมไปถึงเสื้อผ้าก็ดูไม่เรียบร้อยผิดแผกไปจากเดิม
ไฟ ชายหนุ่มที่มีนิสัยอารมณ์ร้อน จุดติดง่าย ราวกับเปลวไฟที่พร้อมลุกโชนอยู่ตลอดเวลา
“ไม่บอกกู” เพลิงเอ่ยโพล่งขึ้นมาขัดอีกฝ่ายที่กำลังยกแก้วเหล้ากระดกเครื่องดื่มเข้าปากด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
เพลิง คนที่เปรียบดั่งกองฟืนที่เป็นเชื้อไฟชั้นยอด แต่เมื่อใดที่ฟืนกองนี้ถูกก่อจุดไฟติดขึ้นมา เตรียมรับมือกับหายนะที่เกิดจากกองเพลิงกองนี้ได้เลย เพราะว่าเขาจะแผดเผาจนกว่าจะมอดไหม้ไม่เหลือซาก
“กูเอาอยู่” เสียงเรียบเอ่ยออกมาชิล ๆ พร้อมกระดกแก้วน้ำสีอำพันเข้าปากอย่างไม่สะทกสะท้านกับความขมปร่าบาดคอของมันเลยสักนิด
“กูเห็นแล้วว่ามันเอาอยู่ กูเลยปล่อยไม่เข้าไปร่วมวงด้วย แค่ไอ้ไฟคนเดียวมันก็เกือบจะตายคาร้านเฮียละ” ก่อนที่จะเข้ามาในร้านหางตาของพายุเหลือบเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแล้ว และเพราะคิดว่าเพื่อนของเขารับมือได้ถึงได้ปล่อยให้อีกฝ่ายออกโรงบู๊ฉายเดี่ยวไป
พายุ เปรียบดั่งสายลมที่รอวันโหมกระหน่ำ แม้ยามปกติจะเงียบสงบดูไม่มีพิษภัย แต่เมื่อไหร่ที่พายุลูกใหญ่ลูกนี้ก่อตัวขึ้น เตรียมรับมือกับความฉิบหายได้เลย
“มันเรื่องอะไรอีกล่ะ” เฟียร์ผู้หญิงเพียงคนเดียวของกลุ่มถามขึ้นพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มพลางส่งสายตาเบื่อหน่ายไปทางตัวต้นเรื่อง
“ก็แค่คนต่างถิ่นอยากมาเจอเจ้าถิ่น” ไฟเอ่ยบอกเสียงเรียบ
ทำเอาเฟียร์ได้แต่ส่ายหน้าไปมาด้วยความเอือมระอากับนิสัยหัวร้อนชอบมีเรื่องของเพื่อน
เฟียร์ หญิงสาวคนเดียวในกลุ่ม การที่เธอเข้ามาอยู่ในกลุ่มแก๊งหนุ่มฮอตได้ขนาดนี้ เพราะเธอเป็นถึงดาวคณะนิเทศศาสตร์มหาวิทยาลัย ASB แต่ดันไปมีเรื่องกับลูกเจ้าของสถาบันจึงทำให้ต้องย้ายมาเรียนที่มหาวิทยาลัย King ด้วยคำสั่งของพ่อ ซึ่งเธอเรียนที่เดียวกับลูกพี่ลูกน้องอย่างไฟ เพื่อให้ญาติคนนี้ช่วยคุมความประพฤติของเธอ
แต่ดูท่าแล้วใครจะคุมประพฤติใครกันแน่
และนี่คือจุดเริ่มต้นของแก๊งสามหนุ่มฮอตประจำมหาวิทยาลัยและอีกหนึ่งสาวสุดเฟียสประจำกลุ่ม
ทั้งสี่คนมักจะมาดื่มที่ผับ Evil อยู่เสมอ ยิ่งเวลาเริ่มดึกบรรยากาศภายในผับก็ยิ่งสนุกมากขึ้น
“โต๊ะนั้นมองมึงไม่วางตาเลยว่ะ” เสียงทุ้มของเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้างกายเอ่ยกระซิบบอกกับ เพลิง ชายหนุ่มที่กำลังตกเป็นเป้าสายตาของสาวสวยเซ็กซี่โต๊ะข้าง ๆ
แม้แสงสว่างภายในผับจะมีน้อยแต่ก็ไม่สามารถบดบังรัศมีความหล่อเหลาของเขาได้ ด้วยความที่เป็นคนผิวขาวถึงแม้จะอยู่ในที่มืดก็เผยออร่าความขาวกระจ่างให้เห็นอย่างชัดเจน ไหนจะผมสีเงินสว่างและคิ้วเข้มดกที่ขับเน้นรัศมีความหล่อให้เด่นชัดได้อย่างลงตัว ยิ่งล่อเป้าสายตาจากหญิงสาวทั้งผับได้เป็นอย่างดี
“หึ” เพลิงหัวเราะในลำคอออกมาด้วยท่าทีนิ่งเฉยก่อนจะยกแก้วเหล้าในมือขึ้นมาดื่มอีกครั้ง ดวงตาคมกริบจดจ้องไปยังหญิงสาวโต๊ะตรงข้ามด้วยแววตาที่ไม่บ่งบอกความรู้สึกใด ๆ
เล่นเอาอีกฝ่ายที่ถูกสายตาคมจ้องกลับดวงตาวาววับเพราะคิดว่าบางทีเพลิงอาจจะเล่นด้วย เธอชูแก้วในมือขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มและแสดงท่าทียั่วยวน สื่อความหมายว่าหญิงสาวพร้อมจะยอมพลีกายให้ชายหนุ่มในคืนนี้
ผิดกับเพลิงที่ไม่ได้มีความคิดอะไรกับเธอคนนั้นสักนิดเดียว เขาก็แค่… มอง
ทว่า… การกระทำทุกอย่างของทั้งคู่
อยู่ในสายตาของเพื่อนสาวคนสนิทอย่าง เฟียร์
ดวงตาเฉี่ยวคู่สวยมองไปยังเพลิงกับหญิงสาวโต๊ะตรงข้ามที่กำลังส่งสายตาหากันอยู่เนือง ๆ พลอยให้เธอเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาในทันที เฟียร์ไม่สามารถห้ามความรู้สึกไม่พอใจของตัวเองได้ แต่จำต้องเก็บอาการเอาไว้
ถึงอย่างนั้น เธอกลับไม่สามารถซ่อนสีหน้าที่บึ้งตึงให้เป็นเรียบเฉยปกติได้ เมื่อเพื่อนชายอีกคนอย่าง พายุ กำลังมองและสังเกตอาการของเฟียร์อยู่พร้อมกับรอยยิ้มปรากฏตรงมุมปากอย่างรู้ทัน
พอหญิงสาวเบือนหน้าหนีละสายตาจากร่างสูงแล้วหันกลับมาก็ปะทะเข้ากับดวงตาคมกริบของพายุ ส่งผลให้เธอชะงักนิ่งไปครู่หนึ่ง
ใบหน้าสวยเชิดขึ้นพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อรู้ว่าตัวเองโดนจับท่าทีได้จากเพื่อนสนิทอีกคนของกลุ่ม ร่างบางที่สวมชุดเกาะอกกระโปรงสั้นรัดรูปปกปิดแค่บั้นท้ายงามงอนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะเดินออกมาจากนอกผับในทันที
-ที่ลานจอดรถของผับ-
เฟียร์เดินมาหยุดยืนอยู่หน้ารถของตัวเองเพื่อสงบสติอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่น มือเล็กล้วงกระเป๋าถือเข้าไปหยิบพอตตัวใหม่ออกมาสูบเพื่อต้องการระบายความรู้สึกอัดอั้นภายในอก
ฟู่~~
กลุ่มควันสีขาวลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณลานจอดรถ เธอสูบสารเคมีต่าง ๆ เข้าปอดและพ่นออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้น ใบหน้าหวานแหงนขึ้นฟ้าพร้อมกับหลับตาเพื่อข่มอารมณ์ในจิตใจ แต่ก็ไม่วายนึกถึงภาพต้นเหตุเมื่อครู่อยู่ดี
ไม่นานนัก เสียงฝีเท้าหนักของใครบางคนก็เดินเข้ามาประชิดตัวจากทางด้านหลัง
“ออกมาไม่บอก” เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับขยับเข้ามายืนอยู่ข้างกายของหญิงสาว
“หึ” เฟียร์หัวเราะในลำคออย่างนึกขำ
“ไม่เห็น ? ตามัวมองอะไรอยู่ล่ะ” เสียงหวานเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดหงุดหงิดระคนจิกกัดเขาเล็กน้อย ดวงตาเฉี่ยวคู่สวยมองไปยังด้านหน้าพร้อมกับยกพอตขึ้นมาสูบและพ่นควันไปทางที่ร่างสูงยืนอยู่
ท่าทางหงุดหงิดรวมถึงคิ้วเรียวสวยที่ขมวดกันเป็นปมอยู่บนดวงหน้างดงาม ทำเอามุมปากหยักยกยิ้มให้กับเพื่อนสาวคนสนิทที่พ่วงมาด้วยตำแหน่งเพื่อนนอน
เพลิงรู้ว่าเธอกำลังอารมณ์เสียเพราะเขา และรู้ด้วยว่าจะต้องง้อเธออย่างไร
“ดูดด้วยดิ” เสียงทุ้มเอ่ยปากบอกพร้อมกับแบมือขอ
มือเล็กส่งพอตไปด้านข้างเอาให้อีกฝ่าย หากแต่ใบหน้าสวยยังคงมองตรงไม่หันไปหาคนข้างกาย เพราะเกรงว่าถ้าผินหน้าไปมองเธอจะยิ่งหงุดหงิดที่ได้เห็นสีหน้าเย้ยหยันนั่น
ทว่า...
“ไม่ใช่อันนี้” เสียงทุ้มเอ่ยปฏิเสธ
ดวงหน้าหวานเลิกคิ้วสงสัยก่อนจะหันไปมองร่างสูงข้างกายในทันทีเพราะไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร
ก่อนที่จะ…
หมับ !
มือหนาคว้าข้อแขนเรียวข้างที่เฟียร์ยื่นพอตให้พลางรั้งตัวเธอเข้าหา
และ… โน้มหน้าเข้าไปทาบทับกลีบปากเรียวเพื่อจูบในทันที