รักแรกพบ

1967 Words
อาย..... ฉันเดินมาถึงหน้าตึกคณะบริหารเพื่อรายงานตัวพร้อมกระเป๋าใบใหญ่สีชมพูที่ได้มาจากคุณครูที่โรงเรียนเพราะท่านเห็นว่าฉันต้องเอาของไปเยอะท่านเลยซื้อให้ฉัน หลังจากฉันจัดการตัวเองจนเสร็จฉันก็รีบลากกระเป๋าเดินออกมาจากมหาลัยและกว่าจะเดินมาถึงถนนก็เล่นเอาเหนื่อยเลยค่ะเพราะตอนมาฉันนั่งรถมาค่ะเพราะไม่รู้ทาง และในขณะกำลังจะข้ามถนนโดยไม่ทันระวังตัวเพราะมัวแต่มองถนนอีกฝั่ง ที่มีรถเยอะมากฉันเกร็งไปหมดฉันจึงตัดสินใจที่จะรีบข้าม เอี๊ยดดดดดด!!!! เสียงล้อรถยนต์ที่พยายามเบรคกำลังพุ่งมาที่ฉันอย่างเร็วฉันกอดกระเป๋าไว้แนบอกแล้วก็หลับตาเพราะคิดว่ามันต้องชนฉันแน่ๆ แต่...รถคันนั้นมันจอดอยู่ตรงหน้าฉันไม่ถึงคืบ นี่ฉันยังปลอดภัยใช่ไหม แต่ฉันยังไม่กล้าลืมตาจนกระทั่งได้ยินเสียงผู้ชายตะโกนมาด่าซึ่งคงจะด่าฉันไม่ใช่ใครหรอก "แม่งเดินข้ามถนนยังไงวะ!!!! " ฉันรีบลืมตาทันทีและจ้องมองไปที่ผู้ชายยืนเท้าสะเอวทำหน้าเหวี่ยงๆคนนั้นเขาหล่อมากหล่อจนฉันใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนไม่รู้ที่ใจเต้นแรงเพราะคำด่าที่เขาด่าหรือเพราะใจที่หวั่นไหวกับความหล่อของเขากันแน่ เขาสูงมากด้วยน่าจะประมาณ180เขาอยู่ในชุดนักศึกษา อย่าบอกนะว่าเขาเรียนที่นี่ "เอ่ออขอโทษนะคือเรามัวแต่คิดอะไรเพลินๆ ไปหน่อยขอโทษจริงๆ " ฉันตั้งสติก่อนจะรีบขอโทษเขาเพราะฉันผิดเองที่ข้ามถนนไม่ทันระวัง "แล้วเกิดฉันขับรถชนเธอขึ้นมาทำไงห๊ะยัยโง่ คนซวยคือฉันมั้ย" ขนาดโดนเขาด่าฉันยังเขินเลยค่ะโกรธไม่ลง สักพักก็มีผู้หญิงคนนึงเดินลงมาจากรถของเขาเธอใส่ชุดนักศึกษาเหมือนกันค่ะน่าจะเป็นแฟนของเขามั้ง เห้ออออกหักแล้วใช่ไหมรักแรกพบของฉัน เธอจ้องมองมาที่ฉันและกำลังเดินหน้าตึงมาหาฉันเหมือนจะมาหาเรื่องยังไงยังงั้นฉันมองเธอตอบอย่างไม่ละสายตาเช่นกัน "นี่เธอ มุกน้ำเน่าแบบนี้เค้าเลิกเล่นกันนานละนะ แหมมทำทีเป็นจะให้รถของมาร์คชนใช่ไหม ทำไม อยากให้เค้าสนใจใช่ไหมเลยต้องทำขนาดนี้น่ะ" "นี่เธอพูดอะไรฉันไม่เข้าใจ" "อย่ามาทำเป็นโง่แกรู้ว่ารถคันนี้เป็นรถมาร์คใช่มะแกเลยทำทีเป็นเดินข้ามถนนเพื่อให้มาร์คชนแล้วก็จะให้เขารับผิดชอบ" "ความคิดบ้าๆ ฉันไม่เอาชีวิตของฉันไปเสี่ยงทำเรื่องไร้สาระแบบนั้นหรอกนะ เอ๊ะหรือเธอเคยทำล่ะถึงรู้" "กรี๊ดดด นี่แกถือดียังไงมาว่าฉัน รู้มั้ยฉันเป็นใคร" "ฉันไม่อยากรู้และก็ไม่คิดที่จะรู้ด้วย ขอตัวนะฉันไม่มีเวลามาคุยกับเธอ" ฉันไม่มีเวลามาสนใจคนตรงหน้าเพราะตอนนี้มันบ่ายมากแล้วฉันต้องหาห้องเช่าให้ได้ภายในวันนี้ไม่งั้นฉันจะไปนอนที่ไหนล่ะโรงแรมเหรอราคาแพงจะตาย ฉันเดินไปลากกระเป๋าของตัวเองที่ยังอยู่ตรงกลางถนนและรีบเดินออกไปทันทีโดยไม่หันไปมองสองคนนั้นอีกแม้จะเสียดายที่ไม่มีโอกาสมองหน้าของเขาอีกครั้งก็ตาม ตอนนี้ฉันมายืนอยู่ตรงหน้าหอพักแห่งนึงที่ติดป้ายห้องว่างให้เช่าซึ่งมันไม่ไกลจากมหาลัยเลยฉันเดินมาไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ ฉันหวังว่าราคามันคงจะไม่แพงมากนักนะ ฉันเดินเข้าไปถามราคาค่าเช่าจากป้าเจ้าของหอพัก ราคามันแพงไปนิดจากที่ฉันตั้งงบไว้ แถมยังมีค่าประกันและต้องจ่ายล่วงหน้าอีกสามเดือนเบ็ดเสร็จก็เกือบหมื่นฉันจะทำยังไงดีล่ะ ฉันอยากพักที่นี่เพราะมันใกล้มหาลัยฉันไม่ต้องนั่งรถเมล์ให้เปลืองเงินเลยตอนพักเที่ยงก็ยังสามารถกลับมากินข้าวที่ห้องได้เพราะฉันคงไม่มีปัญญาไปกินอาหารในโรงอาหารของมหาลัย เมื่อกี้ตอนเข้าพบอาจารย์เสร็จฉันเลยลองเดินสำรวจโน่นนี่นั่นจนมาถึงโรงอาหารของคณะที่มันดูหรูหราเหมือนอยู่ในห้างและก็ต้องผงะกับราคาอาหารที่ติดไว้แต่ละร้านซึ่งมันราคาหนึ่งร้อยอัพทั้งนั้น แค่ข้าวไข่เจียวยัง120 ฉันทำกินเองยังไม่ถึง20บาทเลย ฉันขอต่อรองกับป้าเจ้าของหอบอกว่าฉันมาจากต่างจังหวัด พูดกันไปพูดกันมาป้าแกก็เป็นคนเชียงใหม่เหมือนกันเราคุยกันถูกคอท่านเลยยอมให้ฉันเช่าโดยไม่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้าแต่ขอแค่ค่าประกันเท่านั้นค่าเช่าสิ้นเดือนค่อยจ่ายก็ได้ ฉันโคตรดีใจที่สุดท้ายก็ได้ห้องพัก หลังจากจัดการเอาของขึ้นมาไว้และจัดการทำความสะอาดอีกรอบแม้ป้าแกจะบอกว่าทำความสะอาดแล้วก็ตาม ฉันง่วนอยู่กับการทำความสะอาดห้องลืมดูเวลา ตอนนี้เป็นเวลาเกือบหนึ่งทุ่มแล้วมิน่าฉันถึงรุ้สึกหิว ฉันเดินลงมาข้างล่างเพื่อหาร้านก๋วยเตี๋ยวทาน ฉันเดินมาตามทางเรื่อยๆ ซึ่งก็มีร้านอาหารเยอะแยะมากมายให้เลือกแต่ฉันก็เลือกร้านที่น่าจะอร่อยแล้วก็ราคาถูกเพราะฉันเห็นคนเกือบเต็มร้าน ฉันวางแผนไว้ว่าพรุ่งนี้ฉันคงต้องหางานทำเพราะแม้ว่าจะได้ทุนเรียนฟรีแต่ฉันก็ต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกเยอะไม่ว่าจะเป็นค่าชุดนักศึกษา ค่าโน่นนี่นั่นซึ่งต้องจ่ายเอง "ขอพี่นั่งด้วยคนนะคะน้อง คือไม่มีเก้าอี้ว่างเลยแล้วพี่ก็ดันสั่งก๋วยเตี๋ยวลุงแกไปแล้วด้วย" ขณะที่ฉันกำลังนั่งรอก๋วยเตี๋ยวอยู่จู่ๆ ก็มีพี่ผู้หญิงคนนึงเดินมาขอนั่งด้วยซึ่งฉันมองไปรอบๆ ก็ปรากฏว่าโต๊ะทุกโต๊ะคนนั่งเต็มหมดเหลือแค่โต๊ะฉันที่นั่งคนเดียวแล้วเก้าอี้ก็เหลืออยู่ "อะ เอ่อออค่ะ" ฉันยิ้มให้พี่ผู้หญิงคนนั้น เธอน่ารักมากเลยเธอยิ้มให้ฉันๆ ก็ยิ้มให้เธอ เราสองคนไมได้คุยอะไรกันเพราะพี่เขาก็ก้มเล่นมือถือของตัวเองอยู่ ส่วนฉันเหรอไม่มีอะไรให้เล่นหรอกเพราะฉันไม่มีมือถือ ก็นั่งมองอะไรไปเรื่อยจนไปสะดุดตากับผู้ชายคนนึงที่เดินตาตื่นเข้ามาและเหมือนกำลังมองหาใครสักคนจนสายตามาหยุดอยู่ที่พี่ผู้หญิงที่นั่งอยู่กับฉัน "ก้านค๊าบบบบ ทำไมไม่รอเค้าล่ะ" สรุปก็ใช่จริงๆเขาเดินมาหาพี่ผู้หญิงที่มาขอนั่งกับฉันเมื่อกี๊ สงสัยจะเป็นแฟนกันค่ะ "ก็เห็นมัวยืนแจกไลน์สาวๆ อยู่เลยไม่อยากเสียเวลายืนรอ" พี่ผู้หญิงพูดกับเขาแต่ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาจากมือถือ "เค้าไม่ได้เอาไลน์เค้าให้ซะหน่อย น้องๆ พวกนั้นเค้าขอไลน์ขอเบอร์ไอ้มาร์คต่างหาก" "แล้วหินก็ให้??? " พี่ผุ้หญิงเงยหน้าขึ้นมามองแฟนของเธอพร้อมกับพูด "อื้มมมให้ดิ" "เดี๋ยวมาร์คได้ด่าให้เบอร์เค้าไปเรื่อย" "มันไม่ด่าหรอกไอ้มาร์คอ่ะมีแต่จะขอบใจเค้า" ว่าแต่ มาร์คนี่ชื่อคุ้นๆนะเหมือนได้ยินจากไหน??? "รู้ใจเพื่อนจังเลยนะ" "แหมมมเค้าคบกับมันมาตั้งแต่อนุบาลทำไมจะไม่รู้ เออว่าแต่ตัวสั่งอะไรไปรึยัง" "สั่งละสั่งก๋วยเตี๋ยวไก่" "สั่งกี่ชาม" "ชามเดียว" "แล้วเค้าล่ะทำไมไม่สั่งเผื่อ" ฉันแอบลอบมองผู้ชายคนนี้อ้อนพี่ผู้หญิง คือน่ารักนะคะผู้ชายพูดเสียงอ้อนๆแบบนี้กับแฟนตัวเองดูเค้าสองคนเหมาะสมกันดี "ใครจะไปรู้ว่าจะกินนึกว่าเห็นนมจนอิ่ม" "โอ๊ยยเค้าไม่กินนมใครหรอกกลัวท้องเสียเค้ากินแค่นมตัวเองคนเดียวก็พอ" "บ้าพูดอะไรอายคนอื่นมั่ง" ฉันฟังยังอายแทนเลยค่ะ>< "เราเรียนคณะบริหารน่ะ" "ห๊าาา!!!! " ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงทำหน้าตกใจ "นี่เรียนปีเดียวสาขาเดียวกับหินเลยนะเนี้ยะโลกกลมจริงๆ " "แฟนพี่ก็เรียนที่มอนี้เหรอคะ" "จ๊ะพี่ก็เรียนมอนี้แต่เรียนบัญชีน่ะอยู่ปีสาม" "โห ปีสามแต่หน้าเด็กมากเลยค่ะ" "ขอบคุณนะที่ชมแฟนฉัน ฉันไม่เรียกเธอว่ายัยเตี้ยก็ได้" นี่ฉันต้องขอบคุณเขาใช่ไหม??? "เอ่ออ ตกลงเราอายุเท่ากันใช่ไหมคะ" ฉันหันไปถามผู้ชายชื่อหิน "อืมมใช่" ขณะที่เรากำลังนั่งคุยกันจู่ๆ ก็มีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาและถือวิสาสะนั่งลงข้างๆ ฉันพอฉันหันไปมองก็แทบจะหงายหลังตกเก้าอี้เพราะเขาคือผู้ชายเมื่อกลางวันที่ฉันเกือบจะโดนรถเขาชน "ไอ้เชี่ยหินมึงเอาเบอร์กูไปให้ใครเยอะแยะวะแม่งโทรหากูจนกูต้องปิดเครื่องไอ้สัส!!! เค้าเจอกันอีกแล้วววววว อ่านจบแล้วขอกำลังใจด้วยจ้า^^
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD