ตอนที่ 4
‘จะต้องบอกทำไม ไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย’ คิดแล้วก็ส่ายหน้าไปมาเบาๆ และตัดสินใจถือกระเป๋าเดินออกจากห้องไป ทว่าสุดท้ายแล้วเธอก็เดินย้อนกลับมาบอกพยาบาลว่าจะออกไปข้างนอกสักชั่วโมง เผื่ออีกคนตื่นขึ้นมาช่วงนั้นจะได้ไม่ตกอกตกใจว่าเธอหายไปไหน
รุ้งตะวันเดินไปยังลานจอดรถที่วังเวงชอบกล เจ้าตัวเลยรีบเร่งฝีเท้าไปอย่างเร็วแล้วมองซ้ายมองขวาก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่ง สักพักก็ขับรถออกจากโรงพยาบาลไปเยี่ยมมารดา ทว่าเธอขับรถมาได้ไม่ถึงยี่สิบนาทีโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง ื
“สวัสดีค่ะเฮีย”
“ทำไมหนูรุ้งต้องหยุดงานด้วยล่ะ” เฮียเจต เจ้าของสมูทคลับถามกลับด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก เมื่อโคโยตี้สาวสุดฮอตของผับมาลาหยุดงานโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า แต่ถึงแม้จะไม่พอใจก็ยังคงนึกห่วงหญิงสาวที่คงมีเหตุจำเป็นมากถึงได้ลาหยุดทีสามวัน
“รุ้งมีธุระค่ะเฮีย ว่าแต่จีจี้ไม่ได้บอกเฮียเหรอคะ”
“หนูจีจี้บอกเฮียแล้ว แต่เฮียไม่อยากจะเชื่อว่าหนูรุ้งมีธุระ เพราะปกติหนูรุ้งไม่เคยมีธุระสำคัญเลยนะจ๊ะ” พูดจบก็หันมองโคโยตี้สาวอีกคนที่เปิดประตูเข้ามา เฮียหัวงูยิ้มมุมปากแล้วหันมาสนใจกับอีกคนที่กำลังคุยผ่านทางโทรศัพท์
“หนูรุ้งพูดว่าอะไรนะจ๊ะ เฮียไม่ได้ยินเลย”
“รุ้งบอกว่ารุ้งก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วเหมือนกันค่ะ ถ้าเฮียไม่เชื่อว่ารุ้งมีธุระ” รุ้งตะวันทำหน้าเมื่อยใส่โทรศัพท์ แล้วใช่ว่าเธอจะไม่รู้เฮียเจตคิดอะไรกับเธอ
“หนูรุ้งพูดแบบนี้ หนูรุ้งโกรธเฮียใช่ไหมจ๊ะ” คำพูดของเฮียหัวงูทำให้จิรันธรเบ้ แล้วไม่บอกก็เดาเลยว่าเฮียหัวงูให้เด็กไปตามเธอเข้ามาพบทำไม
“รุ้งเปล่าโกรธเฮียนะคะ” พูดจบก็ลอบถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
“เฮียดีใจที่หนูรุ้งไม่โกรธเฮีย”
“แล้วเฮียมีอะไรอีกเปล่าค่ะ พอดีรุ้งขับรถอยู่”
“เฮียไม่มีอะไรแล้ว แต่หนูรุ้งขับรถดีๆ นะจ๊ะ เฮียเป็นห่วง” พูดจบก็รอให้ทางนั้นพูดอะไรกลับมาก่อนจะได้วางสาย ทว่ารุ้งตะวันไม่ได้ตอบอะไรมาคนรอฟังเลยทำหน้าผิดหวังและยังถูกตัดสายไปแบบดื้อๆ
เฮียหัวงูเลยหันไปทางจิรันธรที่ก็ถามทันทีว่าให้เด็กไปตามมาทำไม แล้วพอได้คำฟังจิรันธรถึงกับทำหน้าโกรธใส่ไปทันที เพราะเฮียเจตเซ้าซี้จะเอาคำตอบเรื่องที่เสนอเงินเสนอบ้านให้เธอกับรุ้งตะวัน แลกกับการเป็นเมียเก็บ
“หนูจีจี้ลองคิดดูดีๆ อีกทีนะจ๊ะ เฮียสัญญาว่าจะให้เงินมากกว่าใคร มากกว่าหนูรุ้งก็ได้” เฮียหัวงูหว่านล้อม ทำท่ากะลิ้มกะเหลี่ยใส่
“เฮียเลิกคิดแบบนี้ได้แล้ว เพราะฉันกับเพื่อนไม่มีวันยอมไปเป็นเมียของเฮียหรอก แล้วถ้าเฮียยังไม่เลิกถามเรื่องนี้อีก ฉันกับเพื่อนจะลาออก” พูดจบก็เปิดประตูออกไปด้วยความหงุดหงิดระคนโกรธเคืองที่ต้องเข้ามาให้เจ้าของผับยื่นข้อเสนอแบบไม่นี้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว ส่วนเจ้าของผับก็ทำได้เพียงแค่ยืนทำหน้าเสียดาย แต่แม้จะโดนปฏิเสธมาหลายครั้งแล้วแต่ตนจะความพยายามต่อไปเพื่อให้ได้สองสาวมาเป็นเมียเก็บ
จิรันธรเดินออกมาเจอสองสาวคู่ซี้ที่พากันมองมาที่เธอด้วยสายตาเหยียดๆ เลยทำให้อารมณ์โกรธที่เธอพยายามข่มกลั้นไม่ให้ด่าเจ้าของผับไปก่อนหน้านี้ปะทุเดือดขึ้นมา
“เข้าไปออดอ้อนเอาเงินเฮียมาแน่” ฉัตรลดา โคโยตี้น้องใหม่ของสมูทคลับพูดขึ้นแล้วมองอีกฝ่ายด้วยหางตา พลางเหยียดปากออกอย่างรังเกียจอีกฝ่ายที่อยากได้เงินจนต้องเอาตัวเข้าแลก
“ฉันก็ว่างั้นแหละ” ฉัตรลดาหันมาหัวเราะคิกคักกับเพื่อนซี้เมื่อพูดจบเลยทำให้คนที่เดินไปเตรียมตัวขึ้นเวทีหมุนตัวเดินกลับมายืนกอดอกมองสองสาวปากหมา
“มองอะไร!” ฉัตรลดาถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ พลางมองตอบอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงกลัว เพราะตนกับเพื่อนไม่ชอบแม่สาวโคโยตี้รุ่นพี่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วตั้งแต่เข้ามาทำงานที่สมูทคลับ
“ฉันสิต้องเป็นฝ่ายถามแกสองตัวว่าเป็นอะไรมากไหม ถึงมายืนเห่าใส่คนอื่นแบบนี้” จิรันธรย้อนถามสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม
“นังจีจี้!” ฉัตรลดาตวาดกร้าว จ้องหน้าอีกฝ่ายอยากจะกินเลือดกินเนื้อ
“แล้ว...” จิรันธรไหวไหล่น้อยๆ อย่างไม่สนใจกับท่าทีมองจิกกัดนั่น
“แกกล้าดียังไงมาว่าฉันเป็นหมา” ฉัตรลดาตวาดใส่ พลางขยับเข้ามาใกล้ศัตรูที่เธอตั้งมั่นไว้ว่าจะเขี่ยมันออกจากสมูทคลับไปให้ได้!
“ด่าว่าคนที่ชอบเห่าลับหลังคนอื่นอย่างแกสองตัว ไม่เห็นต้องใช้ความกล้าอะไรเลยนี่”
“แก...นังจีจี้” เจ้าของเสียงเงื้อมือขึ้นสูงหมายจะตบสั่งสอนโคโยตี้รุ่นพี่แต่ก็พลาดเป้าเมื่ออีกฝ่ายหลบทัน
“แกคิดดีแล้วใช่ไหมที่จะตบกับฉัน” จิรันธรสะบัดมือของโคโยตี้รุ่นน้องออกไปห่างตัวอย่างใจเย็น ระหว่างนั้นเสียงของของดีเจก็ประกาศให้เธอไปขึ้นเวที
“ฉันไม่ได้คิดแค่จะตบแกหรอกนังจีจี้ แต่ฉันจะเฉดหัวแกออกไปจากที่นี่พร้อมกับนังรุ้ง เพื่อนของแก!”
“ระวังตัวเอาไว้ให้ดีเถอะ” พาฝันคอยสนับสนุนเพื่อนที่ตอนนี้กำลังเป็นที่ชื่นชอบของเฮียเจต
“ขอบใจที่บอกให้รู้ตัวก่อนย่ะ แต่แกสองคนคงไม่ต้องเหนื่อยมาทำให้ฉันโดนไล่ออกหรอก เพราะถ้าจะออก ฉันออกเองได้” พูดจบจิรันธรหมุนตัวเพื่อไปขึ้นเวที ทั้งที่ใจจริงอยากจะอยู่ฉะกับแม่สองตัวนั่นก่อน ทว่าเธอเดินไปได้แค่สองสามก้าวก็ถูกหนึ่งในสองตัวยื่นมือมากระชากไหล่ให้หันกลับไปแล้วมันก็สะบัดมือฟาดใส่หน้าเธอ
“นังลดา” จิรันธรกำมือแน่น นึกอยากจะซัดหน้าสวยๆ ของอีกฝ่ายให้หงายเงิบไปซะตอนนี้แต่เสียงดีเจก็ดังไม่หยุด
“แกจะทำไมฉัน” ฉัตรลดาลอยหน้าลอยตาถามกลับ เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ๊มณี ภรรยาของเฮียเจตเดินออกมา
“ทำอะไรกัน!” เสียงกราดเกรี้ยวที่ดังนั่นทำให้สามสาวชะงัก
“เจ๊มณี” ฉัตรลดาและพาฝันถอยพรืดจากจิรันธรทันทีเมื่อได้ยินเสียงกราดเกรี้ยวของเจ๊มณี เมียจอมดุของเฮียเจต
“ฉันถามว่าพวกเธอทำอะไรกัน ทำไมไม่ตอบ!”
“ฉันเปล่านะคะเจ๊” ฉัตรลดารีบออกตัวปฏิเสธก่อนใครเพื่อน
“แล้วหล่อนล่ะแม่พาฝัน”
“หนูก็เปล่าทำค่ะเจ๊”
“ฉันไปขึ้นเวทีก่อนนะเจ๊ แล้วถ้าเจ๊ต้องการจะว่าอะไรฉันก็ให้เด็กมาตามไปพบที่ห้องทำงานแล้วกันนะคะ” พูดจบก็เดินออกไป โดยก่อนไปก็หันมองแม่สองสาวนั่นด้วยแววตาแข็งกร้าว แล้วก็เดาได้เลยว่ามันสองตัวจะต้องใส่ไฟเธอเป็นกระบุงแน่ แต่ใครจะสนล่ะในเมื่อคนเริ่มไม่ใช่เธอ