คลั่งรัก 3
“คุณพ่อคะ ผิงอยากเปลี่ยนคนดูแล”
“มีปัญหาอะไรรึเปล่าลูก”
ฉันเหลือบตามองเจ้าของใบหน้าหล่อนั่งกระดิกเท้าสบายใจ อวดหุ่นน่าหลงใหลอยู่บนโซฟาด้วยสายตาเหยียดๆ
“มีเยอะเลยล่ะค่ะ”
“ไหนขนมผิงลองบอกพ่อสิว่าฟรานซิสเขาไม่ดียังไง?”
เจอคำถามนี้เข้าไป ฉันถึงกับไปไม่เป็น จะให้ฉันบอกพ่อว่า ไม่ชอบเขาเพราะเขามาขโมยจูบฉันก็กระไรอยู่
“แล้วพ่อมีเหตุผลอะไรถึงสนับสนุนเขาคะ”
“ฟรานซิสเขาเป็นลูกเพื่อนสนิทพ่อ ไว้ใจได้ที่สำคัญเขายังเก่งด้านต่อสู้ และยังฉลาดมากเลยนะลูก”
ฉันกรอกตามองบนกับคำยกยอของพ่อ
“แต่หนู...”
“ทำเพื่อพ่อเถอะนะ พ่อจะได้สบายใจ ไม่ต้องเป็นห่วงลูก”
ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ในเมื่อพ่อขอร้องขนาดนี้ ฉันจะกล้าปฏิเสธได้ยังไงกัน
“ก็ได้ค่ะ”
“ดีมาก พ่อมีนัดกับมิสเตอร์อเล็ก พ่อไปก่อนนะลูก”
“ค่ะ รักพ่อนะคะ”
หลังจากวางสายพ่อ ฉันเลยทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตรงข้ามกับฟรานซิสด้วยอาการเซ็งสุดๆ
“ทำไม? อยู่กับฉันมันน่าหนักใจขนาดนั้นเลย”
“มาก”
“หึหึ แต่เราคงต้องอยู่กันไปอีกนาน ฉันชักชอบรสบลูเบอร์รี่แล้วด้วยสิ”
เขาพูดพลางโยนองุ่นเข้าปาก และคำพูดนั้น ทำให้หน้าฉันร้อนผ่าวไปหมด รสบลูเบอร์รี่ที่เขาพูดถึงคือรสลิปมันฉันเอง
“ขอโทษที่เผลอจูบเธอ ตอนแรกฉันแค่จะแกล้งเล่น ไม่คิดว่าจะ...”
“หยุดพูดถึงเรื่องนั้นเถอะ ฉันโตที่อังกฤษ ฉันไม่ใส่ใจเรื่องแบบนี้หรอก”
ฉันว่าพลางก้มหน้างุดๆ พยายามท่องในใจว่าเหตุการณ์เมื่อครู่มันเป็นอุบัติเหตุ
ปากฟรานซิสแค่พลาดมาโดนปากฉัน ไม่ใช่การจูบสักหน่อย
“เหอะ คงจูบกับคนอื่นจนเป็นเรื่องธรรมดาสินะ”
“ใช่สิ ก็มันเป็นการทักทาย”
“เหอะ”
ฉันมองตามหลังฟรานซิสที่อยู่ๆก็หงุดหงิด เดินกระฟัดกระเฟียดออกไป
“อะไรของเขา”
ระหว่างที่ฉันยังงุนงงกับท่าทางของฟรานซิสเสียงอ๊อดหน้าประตูก็ดังขึ้น
ติ๊งน๊อง ติ๊งน๊อง
ฉันหันมองซ้าย ขวาแต่ก็ไม่พบใครเดินออกมาเปิดประตู
ถ้าจำไม่ผิด แม่บ้านที่ฟรานซิสให้มาเตรียมห้องให้ฉันลงไปเอาอะไรสักอย่างด้านล่างกันนี่นา
ติ๊งน๊อง ติ๊งน๊อง
“ค่า กำลังออกไปเปิดค่ะ”
ด้วยความรำคาญเสียงรัวกระหน่ำกดอ็อดที่ยังคงดังไม่หยุด ฉันเลยตัดสินใจเดินไปเปิดเอง
แอร๊ด
“ทำไมเปิดช้าแบบนี้ยะ คอยดูนะ ฉันจะฟ้องฟรานให้ตัดเงินเธอ”
ผู้หญิงตรงหน้าฉันสะบัดผมดัดลอนถึงกลางหลัง ใบหน้าประโคมด้วยเครื่องสำอางจัดเต็มพูดด้วยน้ำเสียงไม่รื่นหูก่อนที่หล่อนจะเงยหน้ามองฉันเสียอีก
“เอ๊ะ นี่เธอเป็นใคร”
“เอ่อ คือ...”
“คงเป็นเด็กที่ฟรานซิสเรียกมาคั่นเวลาตอนฉันไม่อยู่สินะ”
“-0-“
เหลือเชื่อเลยว่าผู้หญิงหน้าตาดี ดูไฮโซจะมีกริยาที่น่ารังเกียจได้ถึงขนาดนี้
“เหอะ ร้อนเงินมากสิท่า รับงานตอนเย็นซะด้วย”
ผลั๊ก
เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าร่างกายฉันไวกว่าสมอง ตอนนี้แม่นั่นเลยลงไปนอนกองกับพื้นเพราะโดนฉันถีบเข้าเต็มๆ
“อีกระหรี่”
“เธอเรียกชื่อตัวเองทำไม”
“ฉันจะตบสั่งสอนแกและจะส่งคนของคุณพ่อมายำแกซ้ำคอยดู”
“เอาสิ ถ้ากล้า”
ผู้หญิงคนนั้นยันตัวลุกขึ้น กำลังจะพุ่งมาตบฉันแต่กลับต้องชะงักเมื่อมีคนเดินเข้ามา
“มีเรื่องอะไรกันรึเปล่าคะ”
แม่บ้านสองคนที่ลงไปเอาของ เดินเข้ามาพอดี พวกเธอมองเราทั้งคู่ด้วยสีหน้าตกใจ
“พวกแกมาก็ดี ไปจับนังนี่ไว้”
“คงไม่ได้หรอกค่ะ”
“ใช่ค่ะ อย่ามีเรื่องกันเลยนะคะ”
แม่บ้านสองคนนั้นพูดขึ้น พยายามประนีประนอมให้เธอเย็นลง
“ฉันให้คนละห้าพัน ไปจับมันไว้”
“ไม่ได้ค่ะ ใจเย็นๆก่อนดีกว่านะคะ”
“ทำไม!!? น้อยไปหรอ หมื่นนึง ฉันจ่ายเงินสดตอนนี้เลยก็ได้”
“มันไม่ได้เกี่ยวกับเงินหรอกค่ะ แต่พวกดิฉันทำแบบนั้นไม่ได้ มันไม่ถูกต้อง”
ดูเหมือนผู้หญิงคนนั้นจะเริ่มโกรธจัดแต่เวลานี้ฉันนับถือแม่บ้านของฟรานซิสมากที่พวกเธอไม่เห็นแก่เงิน
“ได้ พวกแกไม่จับ ฉันจัดการเองก็ได้”
เมื่อหาตัวช่วยไม่ได้เธอเลยพุ่งตรงเข้ามาหาฉันอีกครั้ง ง้างมือขึ้นหมายจะตบแต่ดีที่ฉันจับไว้ทัน
“ทำอะไรกัน!!!”
“คุณชาย!”
“ฟราน”
“ฉันถามว่าทำอะไรกัน!!?”
ทุกคนสะดุ้งเฮือกรวมถึงฉันด้วย เมื่อท่าทางของฟรานซิสดุดันขึ้นกว่าเวอร์ชั่นปกติหลายเท่า
“คือผู้หญิงคนนี้อะค่ะฟราน”
“อย่ามาใกล้ผมริต้า”
ฉันแอบเผลอหลุดขำหน้าตาเหวอหวาของผู้หญิงคนนั้นเมื่อโดนฟรานซิสสั่งเสียงดุ
“ส่วนเธอมานี่”
ฟรานซิสลากแขนฉันให้เดินไปฝั่งห้องนอนเขาซึ่งฉันเองก็พยายามดิ้นแต่ไม่มีวี่แววว่าจะหลุดจากมือเขาได้เลย
“ปล่อยฉันนะ ฉันเดินเองได้”
ในที่สุดฟรานซิสยอมปล่อยฉันเมื่อเราเข้ามาอยู่ในห้องเขา
“เธอจะไปมีเรื่องกับริต้าทำไม”
ฉันตวัดสายตามองฟรานซิสเขม็งเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด
“นายควรไปจัดการคนของนาย ไม่ใช่ลากฉันมาด่าแบบนี้!”
“อย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉันนะผิงผิง!!”
“นายก็อย่ามาตะคอกใส่ฉันนะไอ้มาเฟียโรคจิต!!”
เอาวะ ตายเป็นตายแต่คนอย่างขนมผิงไม่มีทางตกเป็นรองใครแน่นอน
“คราวหลังอย่ามามีเรื่องในบ้านฉันอีก”
ฉันถลึงตาใส่ฟรานซิสผลักอกเขาสุดแรงด้วยความโมโห
“ฉันไม่ใช่คนเริ่ม เมียคุณนู้นเป็นคนเริ่ม”
“ริต้าไม่ใช่เมียฉัน”
ฟรานซิสข่มตาลงเหมือนพยายามสงบสติอารมณ์
“มันเรื่องของคุณ ไม่เกี่ยวกับฉัน คุณจะมีเมียกี่คนก็ไม่เกี่ยวกับฉัน”
“มันจะอะไรนักหนาวะ ก็แค่ขอว่าอย่ามีเรื่องแค่นี้เอง”
“แต่ฉันไม่ได้เริ่ม!!!”
ฉันตะโกนออกไปสุดเสียง กำหมัดตัวเองแน่น
คุณเคยรู้สึกเจ็บใจในเรื่องที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนทำแต่ต้องมาแก้ไขตัวเองมั้ย ตอนนี้ฉันรู้สึกแบบนั้นแหละ
“ริต้าเขาเป็นคนแบบนี้ เธอก็อย่าไปสนใจสิ”
“เหอะ นายก็พูดง่ายนะ ห่วงกันมากก็อบรมกันดีๆสิ”
“มันไม่ใช่แบบนั้น”
“ไปเคลียร์กับคนของนายเถอะ อย่ามายุ่งกับฉัน”
ฉันดึงข้อมือตัวเองออกจากมืิอฟรานซิสมองหน้าเขานิ่ง
“ทำไมเข้าใจอะไรยากแบบนี้วะผิงผิง”
“อย่ามาเรียกฉันว่าผิงผิง เราไม่ได้สนิทกัน”
พูดจบ ฉันเลยเดินออกมาจากห้องเขาโดยไม่หันกลับไปมองเขาอีก
บ้าจริง นี่ขนาดอยู่ด้วยกันวันแรก ฉันยังต้องมาเจออะไรเฮงซวยขนาดนี้แล้วต่อไปฉันจะอยู่ได้ยังไงกัน
——————-