ตอนที่ `1
ทุกคนรู้ ผู้หญิงทั่วประเทศรู้ว่าโรงแรมชื่อดังอย่าง แอพเพอริทิป มีเจ้าของเป็นมาเฟียและไม่ใช่มาเฟียธรรมดาเพราะเขาคือคุณชายมาเฟียที่ทั้งหล่อ รวยและทรงอำนาจภายนอกเขาอาจดูเป็นคุณชาย
แต่ใครจะไปรู้ว่าภายใต้ใบหน้าหล่อเหลานั่นจะแฝงไปด้วยความดุดันและร้ายกาจที่เกินกว่าคน คนหนึ่งจะพึงมี
“คุณชายครับ นายท่านโทรมาครับ”
ราชมือขวาของฟรานซิส เดินถือโทรศัพท์เข้ามาในห้องด้วยท่าทางประหม่าเล็กน้อยเนื่องจากก่อนหน้านี้
ฟรานซิสสั่งว่า ห้ามเข้ามารบกวนโดยเด็ดขาด
“กูบอกไปว่าไง”
“แต่นายท่านบอกว่า ถ้าคุณชายไม่รับ ท่านจะบินมาหาเองนะครับ”
ฟรานซิสถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ วางมีดในมือลง หันไปรับโทรศัพท์จากคนสนิท
“อาทิตย์นี้พ่อโทรหาผมสามคร้ังแล้วนะครับ”
“ทำไม ฉันจะโทรกี่ครั้งแล้วเกี่ยวไรกับแก”
“แล้วพ่อโทรมามีไร”
“ฉันก็โทรมาเตือนแกน่ะสิว่าเย็นนี้ต้องไปรับหนูขนมผิงที่สนามบิน”
เป็นอีกครั้งที่ฟรานซิสลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่
เมื่อสามวันพ่อของเขาโทรมาสั่งให้เขาคอยดูแลผู้หญิงคนหนึ่ง และเขาก็ปฏิเสธออกไปทันทีโดยไม่ต้องคิดแต่พ่อเขาดันมีข้อต่อรองที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้อย่างใจต้องการ
“แกฟังฉันอยู่มั้ยไอลูกเวร”
“รู้แล้วหน่าพ่อ ผมไม่ลืมหรอกครับ”
“ดี แล้วแกต้องไปรับด้วยตัวเองและดูแลด้วยตัวเองเท่านั้นเข้าใจใช่มั้ย”
“ครับ แค่นี้นะ ผมยุ่ง”
คนสนิทของฟรานซิสเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มองไปรอบๆห้องที่แทบไม่มีเอกสารอะไรหลงเหลืออยู่เลย ซึ่งนั่นหมายความว่าตอนนี้เจ้านายเขาว่าง ชนิดที่ว่าไม่มีอะไรให้ทำเลยทีเดียว
“เราต้องไปรับยัยผิงผิงนั่นกี่โมงนะ”
“เกรงว่าเธอจะชื่อขนมผิงนะครับ”
ดวงตาคมเหล่มองลูกน้อง ราชจึงรีบก้มหน้าแล้วรายงานเวลาเที่ยวบินของขนมผิงออกไปอย่างรวดเร็ว
“เครื่องของคุณขนมผิงลงตอนห้าโมงเย็น ฉะนั้นเราควรออกจากโรงแรมบ่ายสามโมงครับ”
ฟรานซิสเหลือบมองนาฬิกา ตอนนี้บ่งบอกว่าเป็นเวลาบ่ายสองแล้วแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพอมีเวลาที่เขาจะได้ทำกิจกรรมแก้เครียดจากการประชุมมาราธอนตลอดเช้าวันนี้
ก๊อก ก๊อก
“คุณชายครับ คุณริต้ามาถึงแล้วครับ”
คริสคนสนิทอีกคนเปิดประตูเข้ามาพร้อมด้วยนางแบบสาวสวยในชุดเดรสลายเสือดาวที่ตั้งใจใส่มาเพื่อพบฟรานซิสโดนเฉพาะ
“คุณชายครับ ผมเกรงว่าจะไม่ทันเวลาไปรับ...”
ฟรานซิสโบกมือไล่ราชให้ออกไป สัญญานดังกล่าวเลยทำให้เขาต้องเดินออกจากห้องไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
---------
“พี่ราช พี่ว่าเราจะไปรับคุณขนมผิงทันมั้ย”
คริสถามขึ้นเมื่อทั้งคู่เดินออกมาจากห้องทำงานของฟรานซิส
“มึงคิดว่าทันมั้ยล่ะ”
ราชตอบพลางนวดขมับตัวเองไปมา เขาจะไม่เครียดเลยถ้าคนที่ต้องไปรับ ไม่ใช่แขกคนสำคัญของนายท่าน
(ขนมผิง)
ฉันชื่อขนมผิง ลูกสาวคนกลางของตระกูลอัมราสว่างคาตา ธุรกิจของบ้านฉันเป็นธุรกิจที่ฉันรู้จักมันดีแต่ไม่เคยได้ใช้มันเลยสักครั้งนั่นคือ ธุรกิจถุงยางอนามัย
และตอนนี้ฉันต้องบินมาดูแลบริษัทที่เมืองไทยแทนน้องสาวตัวดีที่อยู่ๆก็ดันขอลาพักร้อนสามเดือน
“ขนมผิงเป็นไงบ้าง ถึงที่พักรึยัง”
เสียงนุ่มละมุนจากปลายสายถามขึ้น เธอคือคุณหนูช่อม่วง ผู้หญิงที่เรียบร้อยและใจเย็นที่สุดเท่าที่ฉันเคยรู้จักมาและเธอคือพี่สาวแท้ๆของฉันเอง
“ยังเลย นี่เลยเวลามาครึ่งชั่วโมงแล้วด้วย คุณพ่อจ้างคนแบบนี้มาได้ยังไง เสียเวลาฉิบ”
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เนื่องจากก่อนหน้านี้มีคนส่งข้อความมาขู่ทำร้ายฉันและพี่สาว
คุณพ่อเลยจ้างคนมาคอยดูแลฉันใหม่ เห็นบอกว่าคนนี้เก่งกว่าบอดี้การ์ดทุกคนที่ฉันเคยมี เป็นลูกชายเพื่อนพ่ออะไรนี่แหละ ฉันเองก็ไม่อยากสนใจเท่าไหร่นัก
“พูดจาไม่สุภาพเลยนะขนมผิง”
นี่แหละพี่สาวฉัน แม่ฉันเสียตั้งแต่ฉันยังเล็ก พี่ช่อม่วงเลยเปรียบเสมือนแม่คนที่สอง
จำได้ว่าตอนเด็กๆฉันและลูกชุบ น้องสาวเคยโดนพี่ช่อม่วงให้ยืนกระต่ายขาเดียวเกือบยี่สิบนาทีเพียงเพราะพวกฉันเผลอพูดคำหยาบ
“พี่ช่อช่วยหาเบอร์ คนที่พ่อจ้างมาหน่อยได้มั้ย”
“ได้จ๊ะ แต่คงอีกสักพักใหญ่เลยนะ ตอนนี้พี่ติดธุระสำคัญ”
“ค่ะ”
เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง ยังไม่มีมีวี่แววว่านายนั่นจะโทรมา ทำงานแบบนี้มันน่าไล่ออกจริงๆ
ในขณะที่ฉันกำลังเดือดดาลอยู่ในใจ พี่ช่อม่วงก็ส่งเบอร์ของเขามาพอดี ฉันเลยรีบกดโทรออกอย่างไม่ลังเล
“ฮัลโหล คุณอยู่ไหนแล้ว ฉันรอมาจะครบชั่วโมงแล้วนะ”
“รอไม่ได้ก็กลับเองสิวะ!!”
ฉันกำหมัดแน่นเมื่อได้ยินสิ่งที่ปลายสายพูด ฉันไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นใคร รู้แค่ว่าเขาคือคนดูแลฉัน ระหว่างที่ฉันอยู่เมืองไทย
“คุณคงลืมไปแล้วว่าพ่อฉันจ้างคุณมาทำไม”
“เหอะ ยัยคุณหนูเอาแต่ใจ”
“คุณว่าใครเอาแต่ใจ!!”
หน็อย มันจะมากไปแล้วนะ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครพูดจาสุนัขไม่รับประทานกับฉันขนาดนี้มาก่อน
“รออยู่ตรงนั้น ห้ามกระดิกถ้าไปถึงไม่เจอเธอ รับรองฉันจะหั่นเธอเป็นชิ้นส่งคืนให้พ่อเธอแน่ๆ”
“ไอ้ ไอ้...”
ปลายสายตัดไปโดยที่ฉันยังไม่ทันได้พูดจบ ฉันเลยต้องสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อควบคุมอารมณ์
ใช้เวลาพักใหญ่กว่าอารมณ์ฉันจะกลับมาเป็นปกติ และในขณะที่ฉันกำลังจะต่อสายหาพ่อเรื่องคนดูแลเฮงซวยที่พ่อจ้างมา กลับมีผู้ชายในชุดสูทสีดำสองคนวิ่งตรงมาที่ฉันด้วยความรีบร้อน
“สวัสดีครับคุณขนมผิง”
ฉันเลิกคิ้วมองผู้ชายสองคนที่ยืนหนื่อยหอบอยู่ตรงหน้าก่อนจะเป็นฝ่ายถามออกไปเอง
“พวกนายคือคนที่พ่อฉันจ้างมาหรอ”
“เอ่อคือ...”
“ทำไมถึงช้ากันขนาดนี้ รู้มั้ยว่าเวลาฉันมีค่าแค่ไหนและรู้ไว้ว่าฉันไล่พวกนายออก”
“คุณไม่มีสิทธิ์มาไล่ลูกน้องผมออก”
เสียงทุ้มของใครบางคนเรียกให้ฉันหันไปมอง สิ่งแรกที่ต้องยอมรับคือผู้ชายคนนี้หล่อมากถึงแม้หน้าตาจะดูไม่ใช่คนดีสักเท่าไหร่แต่ความกร้าวใจนั้นอยู่ในระดับเกินร้อยเลยทีเดียว
“นี่ลูกน้องคุณ?”
ฉันเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ ยกมือขึ้นกอดอกมองหน้าเขาเชิดๆอย่างที่ฉันชอบทำ
ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ผู้ชายคนนั้นกลับยืนมองหน้าฉันนิ่ง ไม่ยอมตอบ
“ฉันพูดกับคุณอยู่นะ!”
“คุณมาดูแลบริษัทถุงยางที่เมืองไทยสินะ”
“ใช่ ทำไม?”
“แล้วคุณผู้หญิงพกถุงยางมาด้วยรึเปล่าครับ”
“O_o ไอ้ทุเรศ”
ผู้ชายคนนั้นหัวเราะชอบใจกับท่าทางโวยวายของฉันก่อนจะเดินล้วงกระเป๋าออกไป
“เชิญครับคุณขนมผิง”
“ฉันไม่อยากไปแล้ว เจ้านายพวกคุณมันโรคจิต”
“ไม่หรอกครับ คุณชายเป็นคนดี”
“ใช่ครับ คุณชายใจดีมาก เขาแค่แหย่คุณเล่นแหละครับ”
ฉันมองผู้ชายทั้งสองคนตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาพูด สายตาพวกเขามันบ่งบอกชัดเจนว่ากำลังโกหกเพื่อปลอบใจฉัน
แล้วนี่ฉันต้องฝากชีวิตสามเดือนไว้กับคนอย่างนายนั่นหรอเนี่ย ให้ตายเถอะ ฉันคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว
——————-