ไป๋ฉิงเหวินทำหน้าเหวอเมื่อฟังญาติผู้น้องเล่าเบื้องหลังคฤหาสน์เหวินเต๋อให้ฟัง “ที่แท้เจ้าของคฤหาสน์คือท่านอ๋องอสูร! ตายแน่! เราสองคนตายแน่ๆ” “ตายเตยอะไรเล่า? ข้าก็กลับมาตัวเป็นๆ อยู่นี่ไง? ว่าแต่...ทุกอย่างตามสัญญาเจ้าแพ้พนันข้าแล้ว รายได้ปีนี้ของเจ้าตกเป็นของข้า” มือปราบหนุ่มหน้าแทบไม่เหลือสีเลือด “เจ้ายังจะห่วงเงินพนันอยู่อีก คราวนี้เจ้าล่วงเกินท่านอ๋องใหญ่ ไหนจะไปทำสัญญาทาสกับเขาแล้วยังมีหน้าหนีออกมาอีก คิดว่าจะรอดไปง่ายๆ เช่นนั้นหรือ?” “เอาน่า...ไหนๆ ข้าก็ออกมาแล้ว เพื่อมิให้เขาตามหาข้าเจอ เดี๋ยวข้าจะซ่อนตัวอยู่แต่ในจวนแล้วรอไปเมืองหลวงกับพี่เจาหลิน แค่นี้เขาก็ไม่เห็นข้าแล้ว” ไป๋ฉิงเหวินตบต้นแขนเหลียงเจินซินอย่างแรง “ซินเอ๋อร์ เจ้าจะบ้าหรือไร? พ่อของเจ้าเป็นเจ้าเมืองเป่าจู เขาเป็นท่านอ๋องรัชทายาท ซ้ำยังเป็นแม่ทัพบูรพาคุมกอ