“คุณพ่อเรียกลินมาหามีอะไรเหรอคะ” เธอเอ่ยถามคุณพ่อพร้อมกับหย่อนตัวนั่งลงข้างๆคุณแม่
เมื่อคืนคุณพ่อโทรมาหา บอกให้วันนี้เข้ามาหาเพราะอยากคุยเรื่องสำคัญด้วย สีหน้าของคุณพ่อตอนนี้ดูเครียดเล็กน้อย คงหนีไม่พ้นเรื่องการขึ้นรับตำแหน่งแน่นอน มันพลอยทำให้เธอรู้สึกกดดันตามไปด้วย
“ตอนนี้หลายคนเริ่มลงชื่อคนเห็นด้วยว่าลูกไม่เหมาะกับตำแหน่งนี้ ถ้าคะแนนเสียงเยอะ พวกเขาจะถอนหุ้นออกจากบริษัท อีกหนึ่งข้อเสนอของพวกเขา พวกเขาเสนอชื่อคนจากตระกูลที่มีชื่อเสียงมาให้พ่อเลือก ถ้าพ่อตกลงให้คนนั้นดูแลไปพร้อมกับลูก พวกเขาจะไม่ถอนหุ้น”
กดดันจัง…
เธอเผลอจิกมือตัวเองเพื่อระบายความรู้สึกกดดัน การต่อต้านของคนกลุ่มนั้นทำให้เธอคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ อีกอย่างการขึ้นรับตำแหน่งและดูแลทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่าย เธออ่อนแอเกินไปสำหรับตำแหน่งผู้นำ
ไม่อยากทำมันแล้ว
อยากหนีไปไกลๆจากหน้าที่พวกนี้
ทว่าก็ไม่สามารถทำได้ เธอเกิดมาพร้อมหน้าที่ หลายคนอิจฉาชีวิตของเธอ หากแต่ไม่เคยรู้เลยว่าชีวิตของเธอมันกดดันมากแค่ไหน
เป็นมิลินไม่ง่ายเลย…
“ที่พ่อเรียกลูกมาเพราะอยากคุยเรื่องนี้ ลูกคิดว่ายังไง เห็นด้วยกับพวกเขาไหม”
“อันที่จริงลินไม่อยากทำด้วยซ้ำ” เธอเปิดใจคุยกับพ่อตรงๆ
“ลินรู้ว่าตัวเองหนีไม่พ้นหน้าที่นี้ ตอนนี้ลินกดดันมากเพาาะกลัวตัวเองทำได้ไม่ดีพอ ยิ่งโดนกดดันเรื่องนี้ด้วย มันทำให้ลินเครียดค่ะ ลินรู้ว่าคุณพ่ออยากให้ลินดูแล แต่ถ้ามีคนอื่นที่เก่งและสามารถทำได้ดีกว่าลิน ลินก็พร้อมให้เข้ามาดูแลด้วยกัน”
“แต่ความคิดของพ่อมันไม่ใช่แค่นั้น”
เธอมองคุณพ่อนิ่งๆ
“สามเดือนนี้พ่อจะให้ลูกศึกษาดูงานกับเขา และอยู่ในสถานะคู่หมั้น”
กึกก
เธออึ้งจนพูดไม่ออก คู่หมั้นอย่างนั้นหรือ… คุณพ่อกำลังจับเธอคลุมถุงชนกับเขาคนนั้น เธอไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเขามาก่อน ชื่อก็ไม่รู้จัก แถมนิสัยใจคอเป็นยังไงยังไม่รู้เลย
เรื่องขึ้นรับตำแหน่งว่าหนักแล้ว เรื่องนี้ก็หนักพอๆกัน
สถานะคู่หมั้น… แสดงว่าในอนาคตเธอและเขาคนนั้นที่คุณพ่อกำลังพูดถึง ต้องแต่งงานกันใช่ไหม?
“คะ…คุณพ่อจะให้ลินหมั้นกับเขาเหรอคะ”
“พ่อไม่วางใจ ถึงอยากให้ลูกกับเขาหมั้นกัน ส่วนเรื่องแต่งงานก็หลังจากที่ลูกขึ้นรับตำแหน่งเสร็จแล้ว อย่างน้อยอยู่ในฐานะลูกเขยบ้านเรา มันก็น่าจะโอเคกว่าการให้เข้ามาช่วยดูแลโดยไร้สถานะ”
“แต่ลินยังไม่พร้อมสำหรับเรื่องนั้น”
“พ่อรู้ เรื่องนี้มันใหญ่มากสำหรับลูก แต่ถ้าพ่อไม่ทำแบบนี้ ไม่รู้ในอนาคตทางนั้นจะชุบมือเปิบหรือเปล่า ปู่ลูกไว้ใจให้พ่อดูแลหน้าที่ตรงนี้ และพ่อก็อยากให้ลูกดูแลมันต่อจากพ่อ”
หน้าที่ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง…
“โดยการให้ลินหมั้นและแต่งงานกับใครก็ไม่รู้น่ะเหรอคะ?”
“อีกไม่นานลินจะได้รู้จักเขา พ่อนัดเขามาทานข้าวเย็นด้วยกัน หวังว่าลินจะไม่เทนัดนะ”
เธอคงกล้าทำแบบนั้นอยู่หรอก ลำพังแค่ใช้ความคิดตัวเองยังไม่ได้รับโอกาสเลย คุณพ่อคาดหวังกับเธอไว้สูง เป็นลูกคนเดียวของตระกูลนี่เหนื่อยมาก ภาระหน้าที่ทุกอย่างถูกยัดเยียดมาให้โดยไม่เต็มใจทำ แต่ก็ไม่สามารถหลีกหนี ทำได้แค่ก้มหน้ายอมรับและทำมัน
ใครๆต่างใฝ่ฝันอยากเป็นแบบเธอ แต่กลับไม่มีใครรู้เลยว่าการเป็นเธอมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นอกจากจะเหนื่อยแล้วยังต้องทนรับแรงกดดันจากคนในองค์กร
แค่เริ่มต้นยังรู้สึกเหนื่อยขนาดนี้ ระหว่างทางจะสาหัสขนาดไหน…
“ไม่มีวิธีอื่นเหรอคะคุณพ่อ”
“วิธีนี้เวิร์กที่สุดแล้ว มันอาจจะเป็นการฝืนใจลูก แต่นี่เป็นทางออกทางเดียว”
“เขารับทุกอย่างของลินได้เหรอคะ?”
คาร์มินชะงักลงไปชั่วขณะ ก่อนจะดึงสายตากลับไปมองลูกสาว และมิลินก็พูดขึ้นอีกครั้ง
“เขาคนนั้นที่พ่ออยากให้หมั้นและแต่งงานด้วย รับทุกอย่างของลินจริงๆใช่ไหมคะ” เธอไม่ใช่ผู้หญิงเพอร์เฟกต์ หากเขาคนนั้นรับทุกอย่างที่เธอเป็นได้ก็โชคดี กลัวว่าเขาจะรับไม่ได้มากกว่า
“ก่อนถึงวันหมั้นจริง ก็ลองศึกษาดูใจกันไปก่อน พ่อไม่สามารถให้คำตอบนี้แทนใครได้”
“ลินก็ให้คำตอบคุณพ่อเรื่องหมั้นกับแต่งงานไม่ได้เหมือนกันค่ะ” บทเธอจะดื้อรั้นก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน สีหน้าคุณพ่อหลังจากได้ยินเธอบอกแบบนั้นแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจ
“ลินไม่ใช่สิ่งของ ที่คุณพ่อคิดจะยกให้ใครก็ได้ตามอำเภอใจ”
“มิลิน…”
คุณแม่วางมือลงหลังมือของเธอแล้วเรียกปราม พอเธอหันไปมองก็ส่ายหน้า บอกให้เธออย่าพูดจาแบบนั้นกับคุณพ่อ
ถึงลุคของเธอจะดูเรียบร้อยและอ่อนหวาน แต่จริงๆแล้วดื้อรั้นพอตัว อะไรที่ไม่ชอบเธอจะต่อต้าน ปกติคุณพ่อตามใจและไม่บีบบังคับ แต่เรื่องนี้คงยากเพราะดูจากสีหน้าของคุณพ่อตอนนี้
“เรื่องหมั้นลินยอมก็ได้ แต่เรื่องแต่งงานลินขอเป็นคนตัดสินใจเองได้ไหมคะ ระหว่างนี้ลินจะดูเขาไปก่อน ถ้ามันไม่โอเคลินจะถอนหมั้น คุณพ่อโอเคไหม” ไม่อยากทะเลาะกับคุณพ่อ เธอยอมให้แค่เรื่องเดียว ส่วนเรื่องแต่งงานจะเป็นคนตัดสินใจเอง
“อืม” คาร์มินตอบสั้นๆ ไม่อยากทะเลาะกับลูกสาวเหมือนกัน ลำพังแค่การพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเหมาะสมกับตำแหน่งหรือไม่ก็เครียดและกดดันพอแล้ว เรื่องไหนที่พอจะยอมให้ได้ก็ยอมๆไป
“คุณพ่อคิดอะไรอยู่คะคุณแม่ ถึงจะให้ลินแต่งงานกับใครก็ไม่รู้” เธอบ่นกับคุณแม่สองคนระหว่างลงมาหาอะไรดื่มข้างล่าง
“เอาน่า คุณพ่อคงคิดมาดีแล้ว หลายวันมานี้คุณพ่อเครียดกับเรื่องนี้มาก เป็นห่วงลินเรื่องงานด้วย พ่อเขากลัวลินเครียดและจะกดดันตัวเอง”
พอได้ยินคุณแม่พูดแบบนั้นก็พลอยทำให้เธอรู้สึกผิดกับคุณพ่อ ที่พูดจาไม่น่ารักด้วยก่อนหน้านี้
“พ่อไม่อยากให้ลินเครียดเลยหาทางช่วย แม่ว่าดีเหมือนกันนะ มีคนเข้ามาช่วย ลินจะได้ไม่เครียดและกังวลว่าจะทำได้ไหม”
“คุณแม่เคยเห็นเขามาก่อนเหรอคะ?”
“เคยเห็นตอนที่แม่บินไปร่วมงานเลี้ยงหนึ่งที่อิตาลีกับคุณพ่อ ตัวจริงหล่อเหมือนคุณพ่อสมัยหนุ่มๆเลย หรืออาจจะหล่อกว่า” มิราหันไปพูดแล้วยิ้มกับลูกสาว
“แม่จะบอกว่าถ้าเรื่องหน้าตา แม่ให้คนนี้ร้อยเต็มสิบ ส่วนเรื่องอื่นลินต้องไปศึกษาเอาเอง”
“พูดซะอยากเห็นหน้าเขาเลย จะหล่อสมกับที่คุณแม่ของลินให้ร้อยเต็มสิบรึเปล่า”
“ไม่ผิดหวังแน่นอนจ้ะ”