บทที่ 1 แรกพบสบตาพาไหวหวั่น EP.2

1177 Words
หญิงสาวคิดอยู่ไม่นานก็พลันนึกออกว่าเคยเห็นผู้ชายคนนี้จากหน้านิตยสารพวกซุบซิบคนดังนั่นเอง พอนึกหน้าออกชื่อของอีกฝ่ายก็วาบเข้ามาในสมองทันที เทวินทร์ อัครวิทย์ หนุ่มสังคมคนดังที่ถูกจัดอันดับให้เป็นชายหนุ่มในฝันของหญิงสาวอยู่ในขณะนี้ มิหนำซ้ำยังตกเป็นข่าวกับดาราสาวคนโน้นคนนี้อยู่เสมอ ซึ่งยายสาวไฮโซปากไม่มีหูรูดคนนี้ก็คงเป็นหนึ่งในคู่ควงของเขา หรือไม่งั้นอาจจะเป็นคู่รักของเขาก็ได้ ที่บอกว่ามาช่วยไม่ทัน คาดว่าคงกำลังทำอะไรกันอยู่ละมั้ง เพราะดูจากรูปการณ์แล้วน่าจะเป็นเช่นนั้น บุษบามินตราปรายตามองไปทางคนที่อยู่ในความคิดอย่างหยันๆ อคติเกิดขึ้นมาในใจทันควัน ตัวจริงของเขาก็คงไม่ได้แตกต่างจากข่าวคาวที่ลงในหนังสือนั่นสักเท่าไหร่หรอก ครั้นเห็นว่าควรจะไปจากตรงนี้ได้แล้ว หญิงสาวจึงยกมือขึ้นไหว้และเอ่ยขอตัวกับสตรีวัยกลางคน “คุณป้าคะ หนูคงต้องขอตัวก่อนนะคะ” “ขอบใจหนูอีกครั้งนะ พอจะบอกชื่อของหนูให้ป้าทราบหน่อยได้ไหมจ๊ะ” คุณหญิงไคริกาถามพลางมองหน้าสาวสวยที่ช่วยเหลือท่านไว้อย่างนึกเอ็นดู “หนูชื่อบุษบามินตราค่ะ” ชื่ออันแสนจะไพเราะของหญิงสาว ทำให้ใครบางคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นนึกชมในใจว่า รูปก็งามนามก็เพราะ คุณหญิงไคริกาหยิบนามบัตรจากในกระเป๋ายื่นให้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงปรานี “ป้าชื่อไคริกาจ้ะ ถ้ามีเรื่องอะไรต้องการให้ช่วยเหลือก็ติดต่อป้าได้ตามนามบัตรนี้เลยนะจ๊ะ” บุษบามินตรารับนามบัตรมาถือไว้แล้วจึงขอตัวกลับ ทันทีที่เดินมาถึงรถของตัวเองก็ต้องตกใจจนหน้าเผือดขาว เพราะเมื่อครู่เธอรีบร้อนลงจากรถจนกระทั่งลืมปิดประตู ดีนะที่ไม่มีใครมาเห็นเข้า แล้วจู่ๆ ใบหน้าสวยราวกับผู้หญิงของเทวินทร์ก็ผุดขึ้นมาในภวังค์ความคิด จนต้องสะบัดหน้าแรงๆ เพื่อขับไล่ภาพดังกล่าวออกไปโดยเร็ว และพานให้อารมณ์ของหญิงสาวดิ่งลงต่ำเกินพิกัด ความตั้งใจที่จะมาหาซื้อของต้องล้มเลิกไป จึงตัดสินใจขับรถปราดออกไปทันที นึกแช่งชักหักกระดูกชายหนุ่มในใจ เกลียดนักพวกผู้ชายเจ้าชู้ เห็นผู้หญิงเป็นสิ่งบำบัดความใคร่ ขอให้เป็นเอดส์ตายทีเถอะ! หญิงสาวใช่ว่าจะไม่รู้ว่าความคิดอคติส่วนหนึ่งมาจากเรื่องของพ่อ...พ่อที่เธอยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นใคร แต่เวลาเธอถามเรื่องนี้กับแม่ครั้งใด เจ้าตัวมักจะหลีกเลี่ยงไม่ตอบคำถามและได้แต่ร้องไห้แทน เพราะเรื่องราวคราวหลังครั้งเก่าก่อน เหมือนคอยสอนหัวใจให้เข้มแข็ง แอบเห็นแม่ร้องไห้ใจอ่อนแรง หวาดระแวงกลัวรักไปใจระทม หลังร่างของหญิงสาวรูปงามนามเพราะคนนั้นลับสายตาไปแล้ว เทวินทร์ก็อยู่คุยเป็นเพื่อนคุณหญิงไคริกาอีกพักใหญ่ เพื่อรอเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางห้างสรรพสินค้าที่จะมาซักถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อลงบันทึกประจำวันกับตำรวจในท้องที่ “ขอบใจมากนะตากายที่อยู่เป็นเพื่อนป้า” “ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอลาเลยนะครับคุณป้า” เทวินทร์เอ่ยลาเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงมาถึง และจะพาตัวคุณหญิงไคริกาไปตรวจเช็กร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อแสดงความรับผิดชอบ “ไปเถอะจ้ะ” ชายหนุ่มเดินกลับมายังรถแล้วก็นั่งคิดอะไรเงียบๆ โดยมีวิภาวีก้าวตามมานั่งอยู่เคียงข้าง ตัวเขารู้จักคุ้นเคยกับตัวคุณหญิงไคริกาเป็นอย่างดี เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อเด็กและยังดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิด้วย มูลนิธิดังกล่าวเน้นการช่วยเหลือเด็กที่ได้รับผลกระทบจากพ่อแม่ที่ติดเชื้อ HIV ซึ่งตัวเขาก็เป็นหนึ่งในผู้บริจาครายใหญ่ เทวินทร์ดำเนินธุรกิจโฆษณาด้านสื่อสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์ รวมทั้งรับทำเว็บไซต์ ที่แม้จะเปิดมาได้เพียงไม่กี่ปี แต่ก็สามารถสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับในวงการ มีลูกค้ามาใช้บริการอยู่ไม่ขาดสายจากผลงานคุณภาพหลายชิ้นที่ผ่านมา ทว่าข่าวลือเรื่องส่วนตัวของชายหนุ่มก็ดังไม่แพ้เรื่องงานเช่นกัน ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นไปตามข่าวนั่นเลยสักนิด อาจเป็นเพราะงานของเขามักจะเกี่ยวข้องกับเพศตรงข้ามอยู่เสมอ ดังนั้นข่าวส่วนใหญ่ที่กระจายออกไปสู่สาธารณชน ทำให้ตัวเขากลายเป็นหนุ่มไฮโซจอมเจ้าชู้ที่ควงผู้หญิงไม่เคยซ้ำหน้า แต่เจ้าตัวก็ไม่เคยสนใจจะแก้ข่าวแต่อย่างใด ที่ผ่านมาการที่ผู้ชายอย่างเขาจะมีความสัมพันธ์ทางกายกับผู้หญิงบ้างสักคน เป็นเพราะอารมณ์และความต้องการตามธรรมชาติของผู้ชายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่เคยมีความรักมาปะปนแม้เพียงน้อยนิด ความรักสำหรับเขา นับเป็นเรื่องไร้สาระและฉาบฉวย ชีวิตคู่ที่ไม่จีรังยั่งยืนของบิดามารดาก็เป็นตัวอย่างให้เห็น ใครต่อใครต่างเล่าให้ฟังว่า ก่อนแต่งงานบิดามารดาของเขาถูกมองว่าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก มีแต่คนมองด้วยความชื่นชมและอิจฉา ทว่าความรักของทั้งคู่ก็หวานชื่นอยู่ได้เพียงแค่สิบปี ซึ่งเป็นสิบปีที่เขามีความสุขที่สุด ต่อจากนั้นก็อยู่กันอย่างลุ่มๆ ดอนๆ ทะเลาะเบาะแว้งกันไม่เว้นแต่ละวัน สร้างปมให้เกิดในใจเขา ซึ่งตอนนั้นกำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่น กระทั่งเขาอายุสิบห้าปีทั้งคู่จึงหย่าขาดจากกัน “กาย ทำไมเงียบไปล่ะ ยังโกรธวิกกี้อยู่อีกหรือคะ” วิภาวีฉะอ้อนถามเสียงหวานอย่างเอาอกเอาใจ เมื่อเห็นชายหนุ่มเอาแต่นั่งเงียบไม่ยอมพูดยอมจาตั้งแต่กลับมาที่รถ เจ้าของใบหน้าสวยราวสตรีเบือนหน้าไปมองหญิงสาว สีหน้าฉายแววเบื่อหน่ายแกมระอากับการพูดจาไม่รู้จักระวังคำพูดของอีกฝ่าย “วิกกี้ ต่อไปนี้เวลาคุณจะพูดอะไรออกไปควรจะคิดก่อนพูด คุณป้าไคริกาจะคิดยังไงที่คุณพูดออกไปแบบนั้น” “ก็วิกกี้เป็นห่วง กลัวคุณจะเป็นอันตราย ถ้าเกิดมันมีอาวุธขึ้นมาจะทำยังไงล่ะคะ” หญิงสาวพูดน้ำเสียงออดอ้อน แต่กลับยิ่งทำให้คนฟังหงุดหงิดเพิ่มขึ้น เทวินทร์ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พลางปรายตามองเสื้อเชิ้ตเนื้อบางของหญิงสาวที่เวลานี้กระดุมสองเม็ดบนหลุดลุ่ย เผยให้เห็นร่องอกอวบอิ่มด้วย แววตาเฉยชาไร้ความรู้สึก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD