ตอนที่ 7 สัญญาเสร็จสมบูรณ์
อับอายเหรอ?
ไม่น่าจะใช่ เธอจะอับอายกับคำขอที่ถูกผู้อื่นล่วงรู้ได้อย่างไร มีเพียงสิ่งเดียวที่สามารถอธิบายได้ในตอนนี้คือความอัปยศ
เกียร์ ฟร้อนต์...
ผู้ชายที่หลอกล่อจนเธอตกหลุมพรางเขาอย่างง่ายดายเพราะความโง่เขลา
“นายหลอกให้ฉันทำสัญญาขายวิญญาณใช่ไหม” เธอถามเสียงสั่นเมื่อร่างกายถูกเขาพรมจูบไปทั่วราวกับกำลังชิมของหวาน แม้ว่าหัวใจจะหวั่นไหว หากแต่เธอก็ยังพอมีสติที่จะถามในสิ่งที่เธอต้องการรู้
“ผู้ที่มีความโลภมักจะทำสัญญากับซาตานเสมอ” เขาตอบอย่างเย็นชา ก้มเลียที่สะดือบุ๋มจนมีอาบิดเร่าด้วยความรู้สึกแปลกที่แล่นปราดไปทั่วร่างกาย
“นายเป็นซาตาน...” มีอากัดฟันพูดอย่างยากลำบาก ยังคงคิดไม่ถึงว่าคนที่เธอมีความรู้สึกดีๆ ให้จะเป็นคนที่ต้องการชีวิตของเธอมากที่สุด
“ซาตานเหรอ? หึ...เทวทูตหรือซาตานล้วนแต่เป็นเพียงแค่หนึ่งความคิด สาวน้อยเธอควรภูมิใจที่เลือกฉัน” เขาพูดอย่างภาคภูมิใจ ริมฝีปากยังคงก่อกวนไปทั่วร่างเปลือยเปล่าของมีอาอย่างอ่อนโยน
อ่อนโยนจนมีอาเกือบจะเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสอันวาบหวามที่เขามอบให้
เธอไม่มีแม้แต่แรงจะต่อต้าน ราวกับว่าทั้งร่างกายไม่เป็นของตัวเองอีกต่อไป
“นายจะทำอะไรฉัน”
“ฉันต้องอธิบายอีกไหม สาวน้อยเธอจะได้รับความปรารถนาในหัวใจและกับการเป็นทาสรับใช้ฉันตลอดไปไงล่ะ” ดวงตาสีแดงก่ำมองมีอาราวกับมองของเล่น แตกต่างกับเกียร์ในยามปกติโดยสิ้นเชิง
มีอาหลับตาลง พูดอย่างเย็นชา “ทำตามที่นายต้องการเถอะ”
“...” ชายหนุ่มมองใบหน้าสวยที่สงบนิ่งราวกับรูปปั้น ดวงตาสีแดงราวกับทับทิมเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง “ดื้อรั้น!”
“...” มีอากัดริมฝีปากตัวเองอย่างดื้อดึง มือทั้งสองข้างกอดหน้าอกไว้แน่นราวกับต้องการปกป้องตัวเอง
ทว่าสิ่งที่เธอทำราวกับเป็นการยั่วยุร่างปีศาจร้ายของเกียร์อย่างรุนแรง
“หึ...ได้สิ สาวน้อย มาลองดูกันว่าเธอจะได้รับประสบการณ์แบบไหน”
สิ้นคำพูดของเขามีอาก็ถูกจับกางแขน โซ่เหล็กสีเงินไม่รู้โผล่มาจากไหนมัดตรึงแขนทั้งสองข้างของเธอไว้กับหัวเตียง ในขณะที่เกียร์ถอดเสื้อผ้าและเปลือยเปล่าเช่นเดียวกัน เธอมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ทันใดนั้นไฟที่หัวเตียงก็สว่างวาบ มีอาจึงสังเกตเห็นว่าเหนือเตียงนอนคือกระจกบานใหญ่ที่เต็มไปด้วยลวดลายเถากุหลาบอันสวยงาม
เธอเห็นใบหน้าและร่างกายที่เปลือยเปล่าของตัวเอง รวมถึงร่างกายของเขา ท่าทางน่าสังเวชของเธอทำให้มีอาตัวชาและทำอะไรไม่ถูก หากแต่เกียร์กลับจับเรียวขาของเธอแยกออก มีอาเห็นเขาก้มศีรษะลง เวลาต่อมาตรงส่วนลึกลับที่สุดของกายสาวก็ถูกอะไรบางอย่างสัมผัสอย่างนุ่มนวล มีอาเกร็งไปทั้งตัวเมื่อเขาจับขาของเธอกางจนสุด ความร้อนและเปียกชื้นขยับแทรกเข้ามาในร่างกายของเธออย่างเป็นจังหวะ
ร่างบอบบางบิดเกร็งจนใบหน้าสวยเหยเก เธอมองเห็นท่าทางน่าอายของตัวเองในกระจก แต่กลับทำอะไรไม่ได้นอกจากมองความอัปยศของตัวเองต่อไป
ไม่เคยคิดเลยว่าคนที่เธอคิดจะมอบร่างกายให้เขาจะกลายเป็นซาตานร้ายตัวจริง
“อา...” มีอากระตุกเกร็งเมื่อความรู้สึกบางอย่างมาถึงขีดสุด เธอหลุบตาลงทว่ากลับสบเข้ากับดวงตาสีแดงของคนที่กำลังชิมร่างกายของเธอพอดี หญิงสาวอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีกับเสียงครางน่าอายที่เปล่งออกมาอย่างเผลอไผล
“ร้องออกมาสิที่รัก” เจ้าของดวงตาสีแดงกระตุกยิ้มอย่างชั่วร้าย แต่เมื่อมีอาเม้มริมฝีปากและเบือนหน้าหนี เขาก็สอดปลายนิ้วเข้าไปในร่างของเธออย่างรวดเร็ว
“อ๊า! สารเลว นายมันเลว! อึก!” มีอาร้องครวญครางด้วยความรู้สึกประหลาดที่ค่อยๆ กัดกินหัวใจ เขาเคลื่อนไหวนิ้วมืออย่างรวดเร็วจนเธอพูดไม่เป็นคำ ร่างกายส่วนล่างร้อนระอุและกระตุกไปตามจังหวะมือเขาอย่างน่าอับอาย ยิ่งเมื่อเธอเหลือบไปเห็นเงาสะท้อนของตนเองในกระจกเหนือศีรษะ ท่าทางที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนของตนเองกลับทำให้มีอากำหมัดแน่นด้วยความโกรธ
โกรธที่เธอทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากปล่อยให้เขารังแกแบบนี้
โกรธตัวเองที่ชอบเขาจนไม่รังเกียจสัมผัสน่าอัปยศเหล่านี้
นิ้วของชายหนุ่มค่อยๆ เพิ่มจำนวนและความแรงมากขึ้น จนถึงระดับหนึ่งที่เขาไม่สามารถแทรกมันเขามาในร่างกายของเธอได้แล้ว เขาก็ขยับนิ้วและเพิ่มความเร็วราวกับต้องการกลั่นแกล้ง
คราวนี้มีอาเสียสติโดยสิ้นเชิง
“อา...นาย มัน ชั่ว ร้าย อา...ได้โปรด เกียร์...”
เธอมองเห็นตัวเองในกระจกกรีดร้องอ้อนวอนเขาอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาคู่สวยมีน้ำตาเอ่อคลอ ท่าทางน่าสมเพชเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตอนที่ร่างกายของเธอกระตุกเกร็งด้วยความกระสันรัญจวนจากการเคลื่อนไหวอันดุเดือดของเขา ร่างอันสมบูรณ์แบบของเกียร์ก็เคลื่อนขึ้นมากอดและจูบเธออย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง
“ชอบใช่ไหม” เขาหัวเราะเสียงต่ำ สอดมือเปียกชื้นเข้าไปในปากของตัวเองและชิมมันราวกับของหวาน ท่าทางชั่วร้ายและแสนเซ็กซี่ของเขาทำให้มีอาหัวใจสั่นไหว “เธออร่อยไปทั้งตัวเลยมีอา...”
มือร้อนผ่าวบีบผ่านผิวเนื้อเปลือยเปล่าราว ทุกครั้งที่เขาสัมผัสความนุ่มนวลที่เต็มไม้เต็มมือก็มักจะเล่นกับพื้นที่ตรงนั้นจนกระทั่งมีอาร้องครางในลำคอจึงจะพอใจ
เขาฝากฝังร่องรอยสีเข้มไว้ทั่วผิวขาวซีดของมีอาราวกับต้องการประกาศความเป็นเจ้าของ เธอถูกเขี้ยวแหลมของชายหนุ่มกัดและปลายลิ้นร้อนไล้เลียชิมเลือดบนลำคอราวกับของหวาน ในตอนที่เขาลากคมเขี้ยวเลื่อนมาที่หน้าอกของเธอและขบลงบนปลายยอดสีหวานเบาๆ ร่างของมีอาก็สั่นสะท้านเพราะความอ่อนไหวกว่าปกติของเธอเอง
“เลือดเธอหวานมากที่รัก” ผมสีดำดกหนาเสียดสีกับคางเรียวทุกครั้งที่เขาดูดดึงหน้าอกของเธอ กลิ่นหอมประหลาดจากตัวเขาทำให้มีอาหลงใหลไปกับมันราวกับต้องมนตร์สะกด
“อึก...” มีอากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก สติค่อยๆ พร่าเลือนไปกับสัมผัสแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นบนร่างกาย
เธอโมโหที่ตัวเองมีความสุขไปกับสัมผัสเร่าร้อนของเขา ทุกครั้งที่เขาประทับริมฝีปากและครอบครองทุกตารางนิ้วบนร่างกายของเธอ ก็ราวกับว่าทั่วอณูผิวเต็มไปด้วยความปีติยินดีที่ไม่เคยมีมาก่อน
จนมีอาเริ่มสงสัยว่าตัวเธอชื่นชอบการถูกทรมานฝ่ายเดียวแบบนี้เหรอ
และไม่รู้ว่าเมื่อไรที่เธอเป็นอิสระจากโซ่สีเงิน มีอาถูกเขาจูบจนเกือบหมดลมหายใจ มือเล็กจึงเผลอโอบรอบคอของชายหนุ่มราวกับกลัวว่าเขาจะผละหนีไปในเวลาต่อมา
“จำไว้มีอา แองเจล เธอเป็นของฉันทั้งร่างกายและวิญญาณ” เกียร์กระซิบเสียงแหบ เวลาต่อมาปีกสีดำสนิทก็สยายเต็มแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามสวยงาม
มีอามองปีกสีสวยในกระจกอย่างตกตะลึง มือที่โอบรอบคอของชายหนุ่มเลื่อนไปแตะปีกสีดำอย่างแผ่วเบาราวกับต้องการพิสูจน์ว่ามันเป็นความจริงหรือไม่
ปีกสีดำนุ่มราวกับกำมะหยี่ เต็มไปด้วยพลังที่ทำให้เธอรู้สึกกลัวเล็กน้อย เมื่อประกอบกับใบหน้าหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์และชั่วร้ายของเกียร์ในตอนนี้ ก็สมบูรณ์แบบจนเธอไม่สามารถหาอะไรมาเปรียบเทียบได้
“นายเป็นซาตานจริงๆ เหรอ” เธอถามอย่างว่างเปล่า มองดวงตาสีแดงของเขาด้วยความกลัวในส่วนลึกของหัวใจ
“ทั้งใช่และไม่ใช่” เขาตอบอย่างเย็นชา แต่ขณะเดียวกันก็อ่อนโยนลงโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นว่ามีอามองปีกของเขาด้วยความชื่นชม “เธอพร้อมหรือยัง”
“พร้อม?” มีอามองเขา ใบหน้าแดงก่ำเมื่อมือของเกียร์เริ่มปัดป่ายไปทั่วร่างกายของเธออีกครั้ง
เวลาต่อมาการกระทำของเกียร์ก็ตอบความสงสัยของเธอในทันที
ปีกสีดำของเขาบดบังวิสัยทัศน์บางส่วนของมีอาและปกป้องเธอจากลมหนาว เมื่อเรียวขาของเธอถูกแยก มีอาจึงคิดว่าเขาจะใช้มือกลั่นแกล้งเธออีกครั้ง แต่คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้บางสิ่งบางอย่างที่ร้อนและมีขนาดใหญ่กว่าแทรกเข้ามาในร่างกายของเธออย่างเนิบช้า
“อา...เจ็บ...เจ็บมาก เกียร์ ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้ว” มีอาร้องครวญอย่างน่าสงสาร น้ำตาคลอเต็มหน่วยตามองดวงตาสีแดงก่ำของเขาด้วยแววตาเว้าวอน
เกียร์ก้มลงจูบริมฝีปากบางอย่างนุ่มนวล ชักจูงมีอาจนเธอเผลอไผลไปกับรสจูบของเขาอีกครั้ง เมื่อเขาถอนร่างกายที่เข้าไปได้เพียงครึ่งทางออก มีอาจึงผ่อนลมหายใจด้วยความโล่งอกและจูบตอบเขาอย่างกระตือรือร้น
หารู้ไม่ว่าเวลาต่อมา...
“อื้อ!” ร่างกายของมีอาก็ถูกเติมเต็มจนสุดทาง เธอเจ็บจนพูดไม่ออก
ความเจ็บปวดราวกับบางอย่างถูกฉีกทิ้งอย่างโหดเหี้ยมทำให้เธอร้องไห้และทุบเขาด้วยมือทั้งสองข้าง หากแต่เกียร์กลับบีบสะโพกของเธอเบาๆ และกระซิบเสียงแผ่ว “อย่าเกร็ง ที่รัก...”
“ฉันเจ็บ...” เธอพูดปนสะอื้น รู้สึกอึดอัดจนอยากจะตาย
“มันจะไม่ ค่อยๆ หายใจสิที่รัก” เขากระซิบ จูบริมฝีปากเธอเบาๆ ก่อนจะเลื่อนมาดูดปลายยอดสีหวาน
“อืม...” มีอาครางเสียงแผ่ว มองเห็นตัวเองกัดเล็บด้วยความรัญจวนในกระจก “เกียร์...”
“ฉันจะค่อยๆ ทำ” เขากระซิบ ริมฝีปากยังคงกระตุ้นจุดอ่อนไหวสองจุดของมีอาครั้งแล้วครั้งเล่า จนเธอลืมไปแล้วว่าเขายังคงแช่อยู่ในร่างกายของเธออย่างสมบูรณ์
เมื่อมีอาเริ่มชินกับการมีอยู่ของเขา เกียร์ก็เริ่มขยับสะโพกอย่างเนิบช้า
ความหน่วงหนึบทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วอย่างน่าสงสาร แต่ไม่กี่วินาทีต่อมามีอาก็สติแตกอีกครั้งเพราะเขาเริ่มเคลื่อนไหวอย่างเร่าร้อนยิ่งขึ้น
สะโพกแกร่งขยับและส่ายไปมาเล็กน้อยก่อนจะแทรกเข้าไปด้วยความเร็วและช้าสลับกันจนคนที่อยู่ใต้ร่างเริ่มทนไม่ไหว จังหวะตอกตรึงที่แสนยียวนนี้ส่งผลให้มีอาต้องขยับสะโพกตามเขาเพื่อปลดปล่อยตัวเองตามสัญชาตญาณ
“เกียร์...ฉะ...ฉันร้อนมาก” ร่างกายของมีอาเริ่มร้อนขึ้นอีกครั้ง ขณะที่เกียร์ขยับร่างกายเป็นจังหวะ ร่างบอบบางก็บิดส่ายไปมาด้วยความทรมาน
“ที่รักอย่าเกร็ง ปล่อยใจตามสบาย” เกียร์กระชับเอวเล็กและแทรกตัวเข้าไปให้ลึกยิ่งขึ้น มีอาตอบรับเขาอย่างรุนแรงเช่นกัน ทั้งคู่เคลื่อนไหวพร้อมกันได้อย่างราบรื่นราวกับว่าพระเจ้าสร้างเขาและเธอมาเพื่อกันและกันอย่างไรอย่างนั้น “มีอา พร้อมหรือยัง”
“เกียร์ ฉันร้อนมาก” หากแต่มีอาพูดอย่างทรมาน ร่างกายส่ายไหวไม่เป็นท่า มือทั้งสองข้างของเธอโอบรอบตัวเองและพยายามเอื้อมไปเกาด้านหลัง
การเคลื่อนไหวของเกียร์ทำให้แผ่นหลังของมีอาเสียดสีกับพื้นเตียงจนเกิดเสียงแสกสาก ความเร่าร้อนของฉากรักที่เห็นสะท้อนกระจก ความร้อนในร่างกาย กอปรกับความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นระหว่างคนทั้งคู่ทำให้มีอากรีดร้องเสียงแหลมและร่างกายกระตุกเกร็ง “อา...”
ทันใดนั้นอะไรบางอย่างก็ดุนดันหลังของมีอาและโผล่ออกมาอย่างรวดเร็ว ความร้อนและอึดอัดทั้งหมดสลายไป แต่กลับทำให้เธอตกใจจนตัวแข็งค้าง
ปีกสีขาวบริสุทธิ์ราวกับหิมะสยายเต็มแผ่นหลังของหญิงสาวสะท้อนในกระจกและนัยน์ตาสีแดงของคนที่เพิ่งพาเธอไปยังจุดสูงสุดของเซ็กส์ สีขาวและสีดำของปีกนกที่ตัดกันทำให้เกิดภาพที่สวยงามแปลกตาเป็นอย่างมาก
ในสายตาของเกียร์เขามองเธอราวกับไม่ได้ประหลาดใจกับมันมากนัก
ทว่ามีอากลับตกใจจนเกือบหมดสติ
ปีกสีขาว?
เธอมีปีกได้ยังไง
“เกียร์...”
“อืม...”
“ปีกของใคร?”
“ของเธอ”
“มันโผล่มาได้ยังไง”
“เธอเพิ่งตื่น” เขาตอบเสียงเรียบ
“ตื่น?”
ทันใดนั้นบางสิ่งบางอย่างในร่างของมีอาก็ค่อยๆ มีพลังอีกครั้ง หญิงสาวมองเกียร์ด้วยความไม่อยากเชื่อ “นายออกไปก่อนได้ไหม”
เกียร์แตะปีกสีขาวของมีอาอย่างเบามือ กระซิบด้วยน้ำเสียงชั่วร้ายเล็กน้อย “ปีกเธอยังไม่แข็งแรง ถ้าเด็ดทิ้งตอนนี้จะเป็นยังไงนะ”
“นาย อา...”
มีอาคร่ำครวญเสียงหลงเมื่อเกียร์คว้าเอวบางและขยับสะโพกอีกครั้ง จากเนิบช้าค่อยเป็นค่อยไป เพียงไม่กี่ลมหายใจก็กลายเป็นเร่าร้อนจนมีอารู้สึกร้อนไปทั้งตัวอีกครั้ง
คืนแรกของเธอและเขาสิ้นสุดเมื่อแสงตะวันแรกมาเยือน มีอาผล็อยหลับไปตอนไหนไม่อาจทราบได้ ทว่าเกียร์ซึ่งนอนกอดร่างเปลือยเปล่าของแฟนสาวในตอนนี้ดวงตากลับมาเป็นสีดำเหมือนเดิมแล้ว
ปีกสีดำของเขาโอบล้อมปีกสีขาวขนาดเล็กกว่าของมีอาไว้ราวกับสมบัติล้ำค่า แม้ว่าร่างกายของทั้งคู่จะเปลือยเปล่า หากแต่เพราะความอบอุ่นของปีกทั้งสองคู่จึงทำให้มีอานอนหลับในอ้อมแขนของเกียร์อย่างมีความสุข
เดิมทีหลังจากเขาพาเธอไปล้างตัวแล้วหญิงสาวพยายามร่ำร้องจะสวมเสื้อผ้า แต่เป็นเพราะปีกที่ไม่สามารถเก็บซ่อนได้ของมีอาทำให้เธอจำใจต้องนอนเปลือยเปล่าในอ้อมแขนของเขา
เกียร์ลูบไล้หน้าอกอวบอิ่มของมีอาพลางคิดในใจว่าเธอใส่บราไซซ์อะไร แต่เมื่อได้ยินเสียงคร่ำครวญในลำคอของเธอแผ่วเบา มุมปากก็โค้งเป็นรอยยิ้มอ่อนโยนที่แสนหายาก
เขาเลื่อนฝ่ามือจากหน้าอกคู่สวยไปยังเอวคอดและสะโพกโค้งมน อดขย้ำเบาไม่ได้
สามปีผ่านมาเขาเฝ้ามองเธอเติบโตและกลายเป็นคนที่เข้มแข็ง รอคอยวันที่เธอเติบโตเต็มที่และวางแผนกักขังเธอไว้ข้างตัวไปตลอดชีวิต
มีอา แองเจล...
เดิมทีเขาไม่รู้ว่าเธอมีสายเลือดของเทวทูตในร่างกาย แต่เป็นเพราะแรงดึงดูดและกลิ่นหอมในจิตวิญญาณของเธอที่ทำให้เขาหิวกระหายตลอดเวลาจึงทำให้เขาเริ่มวนเวียนรอบตัวหญิงสาวราวกับคนบ้า
ครั้งที่เท่าไรเขาจำไม่ได้ เมื่อเขาส่งเทียบเชิญแห่งความตายให้มีอาและได้เห็นความปรารถนาในส่วนลึกของหัวใจเธอ ชายหนุ่มก็รู้แล้วว่าสิ่งที่เขารอคอยมานั้นคุ้มค่า
แต่ถึงเธอจะไม่ปรารถนาที่จะเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวของเกียร์ ฟร้อนต์ เขาก็จะกักขังเธอให้อยู่ข้างกายเขาอยู่ดี
มีอา แองเจล เป็นได้แค่คนของ เกียร์ ฟร้อนต์ เท่านั้น
เทวทูตปีกสีดำในตำนานสื่อถึงความชั่วร้ายและความโชคร้าย หากแต่มีคนน้อยมากที่ทราบว่าไม่ว่าจะปีกสีดำหรือสีขาวก็ล้วนแล้วแต่เป็นเทวทูตแห่งสวรรค์ มีเพียงผู้ที่ไม่มีสายเลือดบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะไม่มีปีก
เดิมทีเขาคิดว่ามีอาอาจจะเป็นอย่างหลัง
รูปร่างสวยงาม จิตวิญญาณอันหอมหวาน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งยืนยันว่าคนผู้นั้นมีสายเลือดของเทวทูตไหลเวียนในร่างกาย
เนื่องจากมีอาเป็นเด็กกำพร้า เธอจึงไม่มีพ่อแม่ที่ช่วยทำพิธีล้างบาปให้ตั้งแต่เกิด พลังของสายเลือดจึงไม่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น ความจริงเขาวางแผนจะปลุกสายเลือดเธอมาหลายปีแล้ว แต่ไม่ใช่ด้วยวิธีน่ารังเกียจแบบนี้ ทว่าเนื่องจากเป็นเพราะเขาและเธอมีสัญญาทาสวิญญาณกันอยู่จึงทำให้เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ในท้ายที่สุด
สัญญาเป็นเพียงสิ่งเร้า ความปรารถนาของเขาต่างหากที่เป็นของจริง
ใครจะว่าเขาเลวก็ช่าง แต่เพื่อให้ได้รับเธอมาเป็นของเขา วิธีการไม่นับเป็นอะไรได้
และเมื่อพลังของมีอาถูกปลุก ความสัมพันธ์ระหว่างนายและทาสก็จะอ่อนลง สิ่งเหล่านี้สามารถลบล้างได้ด้วยสัญญาแต่งงานเท่านั้น
แน่นอนว่าเขาจะไม่บอกมีอาเรื่องนี้
เขาไม่มีทางยอมให้เธอหนีหายไปอย่างเด็ดขาด!