3

1578 Words
“ข้าวผัดปูอร่อยไหม” เขายื่นหน้ามาหา ยิ้มใส่ตาเธอ เปลี่ยนเรื่องกะทันหันจนคนฟังตั้งรับแทบไม่ทัน พยักหน้าบอกว่าอร่อยไปเสียแล้ว “แล้วจะทำให้กินอีกนะ” เธอเดินหนี อ๊าย... ไปพยักหน้าบอกว่าอร่อยทำไมกัน ก่อนหน้าเธอเพิ่งบอกเขาไปว่าไม่กิน นี่ก็อายจะแย่อยู่แล้ว เหมือนกลับคำกลืนน้ำลายตัวเอง “ไม่ต้องอายหรอก หิวก็บอกว่าหิว หื่นก็บอกว่าหื่น” เขาตามมาตีบั้นท้ายของเธอ ดมิสาอุทาน หันมาทำตาเขียวใส่ “อาบน้ำกันไหม รู้สึกเหนียวตัวจัง” เธอส่ายหน้าดิก เริ่มถอยหนี เขาเดินเข้าหาปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ดๆ อย่างใจเย็น “จะ... จะทำอะไรน่ะ ปลดกระดุมเสื้อทำไม” “มีสองอย่างให้เลือก ไปอาบน้ำด้วยกันแล้วเข้านอน หรือจะเข้านอนกันเลย” “ถ้าไปอาบน้ำก็จะเข้านอนเลยใช่ไหม” เธออ้อมแอ้มถาม หมายถึงว่าเขาจะไม่ทำอะไรเธอแล้วใช่ไหม “อาบน้ำเสร็จก็เข้านอนเลย” ยอมแก้ผ้าอาบน้ำกับเขากับโดนเขาจับกิน แต่เดี๋ยวนะ! “เข้านอนเลย คือนอนเฉยๆ ใช่ไหม” “คิดว่าจะนอนเฉยๆ ได้ไหม” เขาปลดกระดุมจนหมดรัง เธอกลืนน้ำลายติดกันหลายครั้ง “งั้นไปอาบน้ำและเข้านอนเลยใช่ไหม” “อือ.. เข้านอนเลย” เขารับคำหลุบสายตาเจ้าเล่ห์ลงมองพื้น ดมิสามัวแต่ครุ่นคิดเรื่องการเข้านอนเลยไม่ได้สนใจ “ว้าย!” “สรุปว่าจะอาบน้ำก่อนใช่ไหม จะได้ไม่เหนียวตัว” “ยังไม่ได้ตอบตกลง กำลังคิดอยู่” “งั้นระหว่างคิดเราก็อาบน้ำไปด้วย” เขาจับเธอปลดเสื้อผ้าออกจากกาย ดมิสากรีดร้องสักพักก็สงบลง กลายเป็นเสียงครางแทน ไหนเขาว่าจะไม่ทำอะไรยังไงเล่า “อื้อ...” เธอจิกมือกับไหล่แกร่งของเขาเมื่อโดนกดไปกับผนังห้องน้ำ        ขาข้างหนึ่งถูกยกขึ้นเพื่อแยกแย้มให้เขาสอดแทรกกายเข้าหาเป็นจังหวะจะโคน ปากร้อนบดจูบไม่ยอมละห่าง แนบชิดเข้าหาเพื่อสอดแทรกล้ำลึก ดมิสารทวงสัญญาจากชัชวินทร์ ก็เขาบอกว่าอาบน้ำเสร็จจะนอนกันเลยยังไงเล่า ไหงเธอถึงโดนเขากดและตรึงร่างเอาไว้ไม่ยอมห่างแบบนี้ “ไหนบอกว่าอาบน้ำเสร็จจะเข้านอนเลย” “ก็นี่ไงเข้านอนเลย แบบนี้เรียกพาเมียเข้านอน” “นาย เอ๊ย! ที่รักขี้โกง” จะเผลอเรียกเขาว่านายเลยต้องรีบเปลี่ยนเป็นที่รัก เพราะแค่เธอเผลอเรียก เขาก็กดลำกายเข้าหามิดเม้นจนเธอสะดุ้งเสียวซ่านไปทั้งร่าง “แบบนี้แหละเรียกเข้านอน” เขาก้มลงมาหายิ้มใส่ตาเธอ ขณะที่สะโพกสอบยังขยับเป็นจังหวะรุกล้ำรุกรานหนักหน่วง เธอกัดปากร้องคราง จิกมือกับผ้าปูเตียงแน่น “ไม่น่าเชื่อคนแบบนาย อ๊าย... ที่รักเลย” เรียกผิดไม่ได้โดนกดจนจมเตียง เธอมองเขาแล้วค้อนควัก ดมิสารับรู้ได้ถึงอ้อมแขนที่กอดเธอแนบอก ก่อนที่จะหลับไปด้วยความเพลียเพราะโดนสูบพลังไปเกือบหมด รุ่งเช้าของวันใหม่ ชัชวินทร์พาเธอไปเก็บของที่หอพัก เธอจะไม่ไปก็ไม่ได้ เพราะถึงเขาไม่ฉุดก็เหมือนโดนฉุดนั่นแหละ สุดท้ายก็ต้องนั่งรถไปบ้านเขาอยู่ดี “อากาศที่บ้านชัชเย็นสบายเชียวนะ มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ด้วย” “ไม่เคยไปราชบุรีเลยสักครั้ง” เธอเป็นคนใต้อยู่ภูเก็ต ฐานะทางบ้านปานกลางบิดามีอาชีพค้าขาย “ก็กำลังจะพาไปนี่ไง แล้วจะติดใจ” “อวดอ้างหรือเปล่า” เธอพูดแล้วแอบอมยิ้ม “บ้านของชัชติดแม่น้ำ ร่มเย็น มีต้นไม้เยอะ รับรองว่าต้องชอบแน่ๆ” “ติดแม่น้ำด้วยเหรอ” “ใช่ครับ” “บ้านของมิติดทะเล” “ชัชก็อยากไปเที่ยวทะเล เอาไว้พาชัชไปกราบพ่อตาแม่ยายบ้างนะ” “แน้... วกมาเรื่องนี้อีกแล้ว” “อยากเจอ จะได้ฝากเนื้อฝากตัว” “พูดเป็นเล่นไป พ่อของมิดุนะ ไปแนะนำตัวเองว่าเป็นแฟน ได้โดนยิงกบาล” เธอพูดแล้วหัวเราะคิกๆ “ไม่กลัวหรอก อยากได้ลูกเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือสิ” “มิเหมือนเสือเหรอ” “ก็เหมือนนะ ตอนข่วนหลังชัชน่ะ” “บ้า!” เธอหน้าแดง นึกถึงประโยคของเขาก็เข้าใจว่าหมายถึงอะไร “ชอบคิดลึก หมายถึงเวลาโกรธแล้วชอบข่วนน่ะ คิดอะไรอยู่เหรอ” “ไม่ได้คิด” เธอเสมองออกไปชมวิวข้างทาง ใจอยากถามเขาเหมือนกันว่าเขามาอยู่กรุงเทพฯ คนเดียวเหรอ เพราะถึงแม้จะเป็นเพื่อนกันมาหนึ่งปีแล้ว เธอก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรของชัชวินทร์นัก “ชัชมาอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว เพราะต้องมาเรียนที่นี่ เป็นบ้านเก่าของคุณแม่น่ะ ทิ้งเอาไว้นานแล้ว ถ้าระหว่างเรียนมีเพื่อนร่วมบ้านก็คงดีนะ” แน่ะ! เขาพูดเหมือนจะชวนเธอไปอยู่ด้วย แต่นั่นแหละ ตราบใดที่เขายังไม่ชวน เธอก็อย่าคิดเข้าข้างตัวเอง “ที่รักไปอยู่ด้วยกันไหม” เธอหันขวับไปมอง หน้าตาเหลอหลา พ่อกับแม่เลี้ยงรู้ว่าไปอยู่กับผู้ชายก็โดนตีก้นลายน่ะสิ “ที่รัก” “ครับ” เรียกเขาแบบนี้แล้วรู้สึกเขินชะมัดเลย แถมยังรู้สึกจั๊กจี้เสียจริงๆ “ที่รักถ่ายคลิปเอาไว้จริงๆ เหรอ ลบออกได้ไหม” “ใครจะไปถ่ายอะไรแบบนั้นเอาไว้ เดี๋ยวหลุดขึ้นมาจะแย่” “ก็ชัชบอกว่าถ่ายเอาไว้แบล็กเมล์เรา” เธอเปลี่ยนสรรพนามเสียงแข็งใส่เขาทันที “พูดเล่นน่ะ” “ชัช” “คาดโทษที่รักเอาไว้ก่อนนะ” “เรื่องอะไร” “บอกให้เรียกที่รักไง” “พามิกลับบ้านเลย” “เรื่องอะไร” “โกหกมิทำไม” “ไม่โกหกจะยอมตามมาเหรอ” “คนเจ้าเล่ห์ ร้ายกาจที่สุด” “จองที่รักเอาไว้นานแล้ว ไม่ยอมให้ไปชอบคนอื่นหรอก” “มิชอบพี่นัส” “คาดโทษครั้งที่สอง ถึงบ้านโดนหนักแน่ มีผัวเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้วยังไปรักผัวคนอื่น” “เอาแต่ขู่” “ไม่เคยขู่ เอาจริง เอากันจริงๆ ไม่เคยล้อเล่นเลย” “มิจะโกรธ” เธอพูดแค่นั้น ไม่กล้าบอกว่าโกรธที่รัก “ก็โกรธสิ ไม่เกี่ยวกับชัช ไม่ได้บอกว่าโกรธชัชเสียหน่อย” “โกรธชัชนั่นแหละ” “คาดโทษครั้งที่สาม” “จะข่มเหงกันให้ได้ใช่ไหม” “ไม่ได้ข่มเหงแบบนี้เรียกว่าแสดงความรัก” “บ้านชัชแสดงความรักกันแบบนี้เหรอ” “ครับ” เธอหน้าแดง อ้าปากค้างกับประโยคของเขา ดูพูดแต่ละอย่างสิ น่าตบปากนัก “หิวไหม” “ไม่หิว” “แต่เรายังไม่ได้กินอะไรกันเลยนะ นี่ก็บ่ายแล้ว” “หิวก็ได้” เธอรีบพูด เมื่อหันไปเห็นร้านไก่ย่างส้มตำข้างทาง เขาเลี้ยวรถเข้าไปเหมือนรู้ใจ เธอทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่แอบดีใจเพราะกำลังหิว ปากก็พูดไปแบบนั้นแหละ  จะไปแสดงออกได้ยังไงว่าหิว เดี๋ยวเขาก็จะหาว่าเดาใจเธอถูกอีก ยิ่งให้ได้ใจไม่ได้ ชอบแหย่เธอล้อเธออยู่เรื่อย “สั่งเต็มที่เลยนะ ชัชเลี้ยงเอง” “ที่รักก็ต้องเลี้ยงมิอยู่แล้ว” เธอยิ้ม เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้ เธอกินจุนะจะบอกให้ จะกินให้เขากระเป๋าฉีกไปเลย “เอาลาบไก่ น้ำตก ตับหวาน ส้มตำปูปลาร้าใส่ไข่เค็ม ซุปหน่อไม้ คอหมูย่าง ไก่ย่าง ตับย่าง ปลาดุกย่าง ยำรวมมิตร ต้มแซ่บกระดูกอ่อน ตำข้าวโพดกุ้งสด หมูมะนาว ข้าวเหนียวสองกระติก เอาแค่นี้ก่อนนะคะ” ชัชวินทร์ได้แต่มองตาปริบๆ เขาก็รู้ว่าเธอกินจุ แต่นี่มันเยอะเกินกว่าคนสองคนจะกินหมด หรือเธอจะสั่งแกล้งเขา “กินไม่หมด โดนทำโทษนะ” “มีปัญญาจ่าย ก็มีปัญญากิน” “สั่งยังกับช้างตกมัน” เขาแหย่ “บ้า!”  “ล้อเล่น กินเถอะ ถ้ายังไม่อิ่มสั่งมาอีกก็ได้นะ” “งั้นขอเมนูอีกนะคะ” “พอก่อนเถอะ” เขารีบปรามไม่ได้เสียดายเงินเลย แต่กลัวเธอจะท้องแตกตายเสียก่อน “ไหนบอกสั่งได้เต็มที่ไง” “กินที่สั่งให้หมดก่อน แล้วจะสั่งอีกกี่สิบจานก็ไม่ว่า แต่ร้านนี้อร่อยนะ เวลาขับรถกลับบ้าน ชัชชอบแวะกิน แต่วันนี้พิเศษกว่าวันอื่นๆ” “พิเศษกว่ายังไงเหรอ” “วันนี้มีคนพิเศษมากินด้วยไง” เขายิ้มใส่ตา เธอเสไปหยิบน้ำมาดื่ม          ชัชวินทร์เท้าคางมองคนตรงหน้า “มองอะไร” เธอเอ่ยถามเขา รู้สึกขวยเขินอย่างบอกไม่ถูก “มองเมียตัวเอง เมียสวย” “แน่ะ! พูดน่าเกลียด” เธอเหลือบไปมองรอบโต๊ะ กลัวคนอื่นจะได้ยิน       มีผู้ชายกลุ่มหนึ่งหันมายิ้ม ดมิสาเลยยิ้มตอบกลับไป ก่อนจะขมวดคิ้วหันมามองคนตรงหน้า เห็นเขาไม่พอใจ “แลกที่นั่งกัน” เขาบอกแต่ไม่ได้ขอความเห็นใดๆ ลุกขึ้นดึงเธอไปนั่งที่ของเขา และเขาก็มานั่งที่ของเธอแทน ก่อนจะยิ้มแยกเขี้ยวกลับไปให้ผู้ชายโต๊ะนั้น ผู้ชายโต๊ะดังกล่าวกลับไปนั่งคุยกันต่อไม่กล้าหันมายิ้มอีก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD