วันแต่งตั้งทายาทรุ่นที่ 11 @แก๊งเรดอายดราก้อน ญี่ปุ่น
“ตื่นเต้นไหมครับพี่ฮารุ” เสียงเอ่ยถามจากน้องชายคนเล็กทำให้เด็กชายวัยเจ็ดขวบต้องหันมามองก่อนจะยิ้มให้โดยไม่ได้ตอบออกไป
นิสัยของฮารุโตะจะเป็นเด็กที่ไม่ค่อยพูด นิ่ง เงียบ ใจเย็น และใจดี เขาไม่ค่อยโมโหอะไรง่ายๆ ซึ่งหากใครทำให้เขาโมโหได้ นั่นแสดงว่าคนคนนั้นสุดๆ แล้วจริงๆ คือไม่น่ารำคาญสุด ก็ดื้อสุดๆ หรือเลวสุดๆ นั่นเอง
ฮารุโตะจึงเป็นนายน้อยที่ทุกคนรักมาก เพราะเขามีเมตตาและไม่ตัดสินใครจากครั้งแรก แม้จะมีมุมอ่อนโยนอยู่มาก มุมดุดันของเด็กชายก็มีเช่นเดียวกันเพราะการถูกฝึกให้เป็นคนที่คอยระวังตัวเองอยู่เสมอ ทำให้ในบางครั้งเขาก็ดูเป็นคนเลือดเย็นในบางที
เด็กชายวัยเจ็ดขวบเดินขึ้นไปบนเวทีเพื่อรับสร้อยประจำตัว ซึ่งแสดงถึงการเป็นทายาทรุ่นต่อไปของแก๊ง โดยสร้อยเส้นนี้นั้นก่อนหน้านี้มันเคยอยู่ที่คอของทานตะวัน แต่พอเมื่อทานตะวันเอามาคืนไทโย ซาโตมิกลับไม่ขอรับสร้อยเส้นนี้และบอกผู้เป็นสามีว่าให้เขาเก็บไว้เองเพื่อมอบให้กับลูกชายคนแรกของพวกเขาต่อไป
“นายน้อยจะพูดอะไรกับทุกคนไหม” ไทโยเอ่ยขึ้นมาหลังจากสวมสร้อยคอให้ลูกชายไปเพื่อแสดงว่าตอนนี้ลูกชายของเขาคือทายาทรุ่นต่อไป โดยมีลูกชายอีกสองคนยืนขนาบซ้ายและขวาลูกชายคนรองเพื่อแสดงว่าอนาคตของพวกเขาทั้งสองคนจะปกป้องทายาทรุ่นที่ 11 ด้วยชีวิต
“สวัสดีครับทุกคน ถ้าเมื่อไหร่ที่ผมขึ้นรับตำแหน่งแทนคุณพ่อ ผมจะทำเหมือนที่คุณพ่อทำอยู่ ผมจะไม่ให้พวกเราถูกเรียกว่า ไอ้พวกยากูซ่าขี้คุก อีกเป็นอันขาด” คำพูดของฮารุโตะสร้างความตกใจให้กับเหล่าสมาชิกเบื้องหน้าเขาเป็นอย่างมาก ก่อนจะมีเสียงปรบมือที่เริ่มต้นด้วยอิชิดะ จากนั้นเหล่าสมาชิกคนอื่นๆ ก็พากันปรบมือชื่นชมตาม
พวกเขาไม่คาดคิดว่าเด็กชายอายุเพียง 7 ขวบจะสามารถมีความคิดที่มากถึงขนาดนี้ ส่วนซาโตมิที่มองขึ้นไปบนเวทีที่มีลูกชายทั้งสามคนและผู้เป็นสามียืนอยู่ก็มองด้วยความเป็นห่วง เธอหวังในใจลึกๆ ว่าฮารุโตะจะเลือกเส้นทางชีวิตตัวเองให้ได้เหมือนผู้เป็นพ่อที่สามารถทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาตั้งแต่เกิดไปพร้อมกับความฝันของตัวเองที่อยากทำ
“คุณแม่เป็นอะไรคะ” ฮารูนะเอ่ยถามขึ้นมา เมื่อเห็นสีหน้าวิตกกังวลของผู้เป็นแม่แทนที่จะมีความดีใจที่เห็นน้องชายฝาแฝดของตนขึ้นรับตำแหน่งทายาทรุ่นที่ 11
“เปล่าค่ะ” ซาโตมิหันมาบอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะยิ้มให้บางๆ
“ฮานะเชื่อนะคะว่า นากิและนาโตะ จะไม่มีทางทิ้งให้ฮารุเผชิญปัญหาต่างๆ เพียงลำพังอย่างแน่นอน และหนูที่เป็นพี่สาวของพวกเค้าก็จะไม่มีวันทิ้งให้น้องๆ เผชิญปัญหาและทุกข์เพียงลำพังเช่นเดียวกันค่ะคุณแม่...ฮานะสัญญา” คำพูดที่โตเกินเด็กเจ็ดขวบของลูกสาวคนโตทำให้ซาโตมิยิ้มออกมาได้
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แม่ขออย่างเดียวจากพวกลูกๆ พวกเราห้ามทิ้งใครไว้ข้างหลังเพียงลำพังเป็นอันขาด พวกลูกต้องช่วยกันผ่านอุปสรรคข้างหน้าไปให้ได้นะคะ”
“ค่ะ คุณแม่ สัญญาด้วยเกียรติคุณหนูใหญ่แห่งยูกิโอะ”
“ขอบใจนะลูก”
ในขณะที่แก๊งเรดอายดราก้อนกำลังเฉลิมฉลองกับการรับตำแหน่งทายาทรุ่นที่ 11 อยู่นั้น พวกเขาทั้งหลายไม่รู้เลยว่าได้มีสองแม่ลูกมองมายังกลุ่มคนเหล่านั้นอยู่ห่างๆ ด้วยการแฝงตัวเข้ามาเป็นคนทำความสะอาด
“ดูหน้าพวกมันเอาไว้ และจำหน้าพวกมันไว้ให้ดี พวกมันคือคนที่ทำให้พ่อของเคนต้องตาย” ผู้เป็นแม่บอกกับเคนอิจิ ลูกชายวัยเก้าขวบของเธอด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น
“ครับ...แม่” เคนอิจิที่ไม่ได้สนใจคนบนเวทีแต่อย่างใด แต่เด็กชายกลับไปสนใจมองไปยังเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างผู้เป็นแม่ โดยที่เขาไม่รู้ว่าคนทั้งสองกำลังพูดคุยอะไรกัน แต่ใบหน้าของเด็กสาวทำให้เขามองอย่างไม่กะพริบตาเลยทีเดียว
“ไปกันเถอะเคน ลูกต้องไปพบกับคุณปู่และคุณอาของลูกต่อ” เคนอิจิที่กำลังเดินตามผู้เป็นแม่ไปยังคงหันหลังไปมองเด็กสาวคนนั้นจนลับสายตา เขาคิดว่าตัวเองตกหลุมรักเด็กสาวคนนั้นไปแล้วล่ะ
“ฮารูนะ...แล้วเจอกัน” เคนอิจิพูดขึ้นมาในใจก่อนจะเดินตามหลังผู้เป็นแม่ไปติดๆ โดยที่สายตายังเหลือบมองไปยังเด็กสาวที่เขาพอรู้ประวัติมาพอสมควรจากผู้เป็นแม่ที่ได้บอกเขาไว้ว่าเหล่าคนพวกนี้ทำให้ผู้เป็นพ่อของเขาต้องจากเขาไปตลอดกาล