“เสียวไหมคะ...” เสียงครางกระเส่าของคนใต้ร่างนั้นทำให้คนที่กำลังขยับจังหวะทางด้านบนเลื่อนสายตาลงมาสบตากับเจ้าหล่อน อนาวินกระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
“เสียวสิคะ” เขาตอบเสียงหวาน เลื่อนมือขึ้นกอบกุมอกอวบของเธอคนนี้ ชายหนุ่มจำชื่อของเธอไม่ได้
“อืม...คุณวิน”
“ครับ” เขาตอบด้วยใบหน้าชวนฝัน สายตาเยิ้ม ๆ ที่ส่งให้เธอนั้นทำเอาคนตัวเล็กใต้ร่างอ่อนระทวย เธอมองเขาพร้อมกับยื่นมือขึ้นสัมผัสอกแกร่ง เลื่อนต่ำลงถึงหน้าท้องลอนหกแพ็กนี้ เขาเป็นที่หมายปองของสาว ๆ ในค่ำคืนนี้ ไม่คิดว่าจะมาอยู่ตรงหน้า แถมเซ็กซ์ที่เขามอบให้ก็ดีเสียยิ่งกว่าดีอีก
...บรรยากาศกลางคืนในเมืองหลวง ดวงดาวที่ส่องประกายระยิบระยับบนท้องฟ้านั้นทำให้ค่ำคืนนี้สวยงามราวกับฝัน โรงแรมหรูสูงกว่าสี่สิบชั้นนี้ไม่เคยวาดฝันว่าจะได้มาเหยียบ
“จะเสร็จแล้วค่ะ...” เสียงของเธอดังกระเส่า เร่งเร้าให้คนทางด้านบนขยับจังหวะแรงขึ้น ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง อนาวินขยับสะโพกแรง ๆ ส่งเธอขึ้นสวรรค์พร้อม ๆ กับเขา อนาวินปล่อยสายธารน้ำรักออกมาใส่เครื่องป้องกันทุกหยาดหยด ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาข้าง ๆ เธอ
...สาวสวยข้างกายหอบหายใจอย่างหนัก อกอวบขนาดใหญ่กระเพื่อมแรง ๆ ตามจังหวะหายใจ แต่พอเธอพลิกตัวเตรียมจะสวมกอดคนข้างกาย เขากลับลุกขึ้นเสียก่อน
“อ๊ะ...” เจ้าของร่างบางตกใจ เธอลุกขึ้นนั่งตามเขา มองคนตัวโตถอดถุงยางอนามัยออก “ทำอะไรคะ เหมือนคุณจะกลับเลย”
“_” เขาไม่ได้ตอบในทันที ชายหนุ่มชินกับคำพูดนี้ เขาไม่เคยนอนค้างที่ไหนกับใคร
“คุณวินจะกลับแล้วเหรอคะ”
“ครับ” ตอบเสียงเรียบ ลุกขึ้นยืนพร้อมกับโยนถุงยางอนามัยลงถังขยะ เดินตัวเปลือยไปคว้าเอาเสื้อผ้ามาสวมใส่ด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ต่างจากก่อนหน้านี้ราวกับคนละคน
“ทำไมรีบกลับคะ เราจะไม่นอนกอดกันหน่อยเหรอ” ว่าเสียงเศร้า เป็นผู้หญิงนั้นแสนลำเค็ญ เวลาถึงจุดสุดยอดฮอร์โมนแห่งความผูกพันธ์นั้นหลั่งเสมอ หญิงสาวอยากนอนกอดเขาอีกสักหน่อย
“ไม่จำเป็นครับ ผมกลับแล้ว” ว่าพร้อมกับควักเงินในกระเป๋าตังค์ราคาแพงออกมา แบงก์เทาหลายใบนั้นทำให้เธอตาโต ไม่ใช่เพราะอยากได้ แต่เป็นเพราะว่าเขาทำอย่างกับเธอมาขายตัว
“ฉันไม่ได้ขายตัวนะคะ”
“ผมไม่ได้บอกว่าคุณขายตัว” ว่าทั้ง ๆ ที่ยังไม่หยุดควักเงิน เขาแทบไม่ได้นับเสียด้วยซ้ำ ไม่มั่นใจว่าเลขาฯ ของเขานั้นเตรียมมาเยอะมากแค่ไหน
“แล้วที่ทำอยู่นี่คืออะไรคะ”
“ค่าปิดปาก”
“ฮะ...” คราวนี้เขาค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองเธอ สบตากับดวงตาคู่สวย แม้นใบหน้าจะทำศัลยกรรมมา แต่ส่วนล่างของเธอนี่บอกได้คำเดียวว่าดี
“ผมมีเมียแล้ว”
“ฮะ!!” จากที่ตกใจเมื่อครู่ คราวนี้เธอตกใจมากกว่าเดิมแถมเบิกตากว้างอีกด้วย “มะ หมายความว่ายังไงคะ”
“ตามนั้น ผมแต่งงานมีเมียแล้ว คุณไปอยู่ไหนมาไม่รู้จักผม เอานี่ รับไปแล้วก็เงียบไว้”
“อะไรคะ ไม่นะ...ทำไมคุณไม่บอกฉันคะ” เธอก้าวขาถอยหลังด้วยความตกใจ อนาวินเห็นอย่างนั้นก็ยักไหล่ขึ้นเบา ๆ เขาเปลี่ยนเป็นวางเงินลงบนเตียงนอนขนาดคิงไซซ์นี้
“เลือกเอาว่าจะรับเงินนี้ไว้ หรือปล่อยให้เมียผมรู้แล้วโดนฟ้องชู้ คุณก็คงรู้ว่ามันสามารถเรียกเงินได้มากแค่ไหน”
“นะ นี่...คุณ!” ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีผู้ชายแบบนี้บนโลก อนาวินไม่สนใจอะไรอีก เขาทำแบบนี้มาสิบปีตั้งแต่แต่งงานก็ไม่เห็นว่าจะโป๊ะแตก เมียเขาจับไม่ได้และไม่มีผู้หญิงหน้าไหนกล้าไปบอกภรรยาของเขาด้วย
...อนาวินเดินออกจากห้องโดยมีเสียงกรีดร้องของผู้หญิงดังตามหลัง เปิดประตูออกมาก็มีคนรอรับเขา เป็นเลขาฯ คนสนิทที่ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เรียกได้ว่าเป็นผู้กุมความลับชั้นยอด
“เสียงดังฉิบหาย” เขาเอ่ยพูดพลางส่ายหน้าเบา ๆ อนาวินล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง เห็นข้อความของภรรยาสาวที่ส่งมาหา
[กลับกี่โมงคะ]
“ผมเพิ่งประชุมเสร็จ” เขาพิมพ์ข้อความกลับโดยไม่รู้สึกผิดที่ตนโกหก เรียกได้ว่าโกหกจนเป็นนิสัย
ติ๊ง!
[โอเค กลับดี ๆ นะคะ] เขากดล็อกหน้าจอหลังจากที่อ่านข้อความของเธอเสร็จ อนาวินเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง เดินไปขึ้นรถเบนซ์คันหรูโดยที่เลขาฯ หนุ่มเป็นคนขับรถให้
...พอขึ้นมายังรถเขาก็คว้าเอาบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ อนาวินนั่งขาไขว่ห้าง หยิบบุหรี่คาบไว้ที่ปาก มือข้างหนึ่งยกขึ้นจุดไฟส่วนมืออีกข้างก็ยกขึ้นป้องไฟไม่ให้ดับ เขากดลดกระจกลงเล็กน้อย
“พรุ่งนี้มีงานไหม”
“มีประชุมบ่ายโมงครับ”
“อ้อ...” พยักหน้ารับเบา ๆ พร้อมกับพ่นควันสีขาวออกมา เขาเอนแผ่นหลังพิงเบาะรถ มองวิวทางด้านข้างถนน ขยับต้นคอเล็กน้อย วัยสามสิบห้านี้บอกตรง ๆ ว่ากระดูกเริ่มเปราะ ขยับนิดหน่อยก็รู้สึกเจ็บร้าว
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
“ไม่มีอะไร” ภานุมองเจ้านายหนุ่มผ่านกระจกมองหลัง เขาทำงานกับคนเป็นนายตั้งแต่เรียนจบ ซึ่งอนาวินก็อายุเท่า ๆ กันกับเขา เรียกได้ว่าพ่อของอีกฝ่ายนั้นต้องการคนดูแล ที่ไม่ต่างจากมือขวา แน่นอนว่าเขานั้นมีคุณสมบัตินี้และรู้ทุกอย่างของอีกฝ่าย
...อนาวินเป็นผู้ชายเจ้าชู้ เจ้านายนั้นเจ้าชู้ตั้งแต่เรียนมัธยม มีแฟนหลายคนพร้อมกัน เจ้าชู้เป็นที่หนึ่ง กะล่อนปลิ้นปล้อนหาตัวจับได้ยาก แต่อยู่ ๆ ก็เอ่ยปากบอกคนเป็นพ่อว่าอยากแต่งงาน ทำเอาคนทั้งบ้านมึนงง กระนั้นท่านประธานก็ยินดีที่เจ้าลูกชายนั้นจะเป็นฝั่งเป็นฝา คิดว่าคงหยุดเจ้าชู้ได้ แต่ที่ไหนได้...เสือไม่เคยสิ้นลาย
...อนาวินลงจากรถทันทีที่จอด เขาคว้าเสื้อสูทมาพาดที่ไหล่หนา โยนก้นบุหรี่ทิ้งที่สนามหญ้าหน้าบ้าน โดยไม่ลืมใช้ปลายรองเท้าหนังราคาแพงนี้ขยี้จนมันมอดไร้ควัน
“เจอกันพรุ่งนี้” เขาบอกลาเลขาฯ ก่อนจะเดินล้วงกระเป๋าเข้าบ้าน ด้วยท่าทีสบาย ๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น ตกแต่งสไตล์ยุโรปเรียบหรูราคาแพงตั้งแต่หน้ารั้วบ้าน
“กลับมาแล้ว” เสียงทุ้มลึกดังขึ้นปลุกร่างบางที่นอนหลับอยู่บนโซฟาให้ตื่นขึ้นมา แพรไหมงัวเงีย ยันฝ่ามือข้างหนึ่งกับโซฟา เธอลุกขึ้นนั่งอย่างช้า ๆ
“กลับมาละเหรอ”
“ครับ” อนาวินเดินเข้ามาใกล้ กดปลายจมูกลงที่กระหม่อมบางของเธอ “ทำไมไม่ไปนอนดี ๆ”
“รอพี่ไงคะ” เธอเงยหน้าขึ้นฉีกยิ้มหวาน “พี่ไปทำงานแล้วแพรจะนอนเฉย ๆ ได้ยังไง รู้สึกผิดแย่”
“หึ...” เขาหัวเราะเบา ๆ เลื่อนมือลงสัมผัสปลายคางของเธอ เชยคางมนให้เงยหน้าขึ้นมองเขา “ขึ้นไปนอนได้แล้ว”
“นอนด้วยกันสิ เหนื่อยไหม แพรนวดตัวให้” ว่าเสียงสดใส ก่อนที่เขาจะพยักหน้ารับเบา ๆ
“ดีเหมือนกัน” เขาเองก็รู้สึกเมื่อยไม่น้อย
“โอเค งั้นไปอาบน้ำนะ เดี๋ยวแพรเตรียมน้ำมันนวดให้”
“โอเค...” เธอนวดแผนไทยได้ ด้วยความที่ลงเรียนเพื่อไว้นวดเอาใจคนเป็นสามี เห็นเขาทำงานหนักก็อยากช่วยแบ่งเบาภาระให้ ถึงจะไม่ใช่การทำงานช่วย แต่ให้นวดผ่อนคลายก็ยังดี
...อนาวินอาบน้ำ เขามองตัวเองผ่านกระจก กระตุกยิ้มบาง ๆ อย่างคนพึงพอใจในความหล่อของตัวเอง ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำโดยไร้ซึ่งเครื่องนุ่งห่ม
“อุ๊ย! ตกใจหมดเลย” เล่นเอาภรรยาสาวนั้นตกใจ แพรไหมใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย แต่งงานกันมาสิบปีไม่เคยชินเสียที
“ตกใจอะไรขนาดนั้น” ว่าพลางหัวเราะเบา ๆ แพรไหมเป็นผู้หญิงหน้าตาน่ารัก ตาโต ปากเล็ก จมูกหน่อย ใบหน้าของเธอนั้นเล็กกว่าฝ่ามือของเขาด้วยกระมัง เธอมีผมสีน้ำตาลยาวสลวยถึงกลางหลัง ผิวขาวนวลเหมือนกับเดินถือหลอดไฟอยู่ตลอดเวลา แพรไหมเป็นผู้หญิงที่ดี ดูแลเอาใจใส่เขามาโดยตลอด กระนั้นใจมันก็ไม่คิดที่จะหยุด เขาชอบความตื่นเต้น ผู้หญิงสวย ๆ หุ่นเอ็กซ์ ๆ กว่าภรรยาของตน
“ตกใจนี่ แล้วทำไมไม่นุ่งผ้าขนหนูออกมา” เธอไม่อยากเลื่อนสายตาลงต่ำไปมากกว่านี้เลย เขินจนแก้มร้อนผ่าว
“หึ...” เขาส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะเดินไปที่เตียงนอน ทิ้งตัวลงนอนคว่ำหน้าลงใส่หมอนใบใหญ่ ก่อนที่แพรไหมจะคว้าเอาผ้าขนหนูผืนเล็กมาคลุมบั้นท้ายของเขาไว้
“อย่างนี้ทุกที เป็นผัวเมียกันก็จริงนะคะ แต่ว่าฉันตกใจนี่”
“ช่างเหอะน่า...รีบนวดเถอะ” ว่าอย่างคนตัดรำคาญ เธอมีนิสัยที่ค่อนข้างน่ารำคาญอยู่พอตัว ความหวังดีนั่นนี่ทำให้กลายเป็นคนขี้จุกจิก แต่ดีหน่อยที่เวลาเขาพูดเสียงเข้มเธอก็เริ่มรู้ว่าเขาไม่ชอบ
“เจ็บบอกนะ” เธอค่อย ๆ วางมือลงที่แผ่นหลังหนา ความกว้างของแผ่นหลังของเขานั้นน่าลูบไล้ หญิงสาวค่อย ๆ ลงน้ำหนักเบา ๆ เธอนวดไปพลางชวนเขาคุยไปด้วย
“ร้านได้เยอะแล้วนะคะ” เธอขอเงินเขาเปิดคาเฟ หลังจากที่อีกฝ่ายบอกว่ายังไม่อยากมีลูก แม้นอายุจะล่วงเลยมาจนเธออายุสามสิบสาม หากเขาไม่อยากมีลูกก็คงไม่มีแล้ว
“อืม” ตอบรับเสียงเรียบ ที่ไม่อยากมีลูกก็เพราะว่าตนยังไม่อยากหยุดเรื่องอย่างว่ากับผู้หญิงคนอื่น หากมีลูกก็คงเป็นการทำร้ายลูกทางอ้อม ส่วนเธอคนนี้...เขาไม่เคยรักเธอเลย
“พี่วินจะไปดูไหมคะ”
“ไม่ว่างเท่าไร”
“อ้อ...” เธอรู้สึกน้อยใจไม่น้อย ในบางครั้งก็ดูแลเทกแคร์เธอดี เอาอกเอาใจดีเป็นที่หนึ่ง แต่บางเรื่องก็เหมือนไม่สนใจเลย การแต่งงานมานานถึงสิบปีนี้ไม่รู้ว่าเขารู้สึกเบื่อหรือเปล่า แต่เธอรักเขาเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
...ยิ่งคิดแล้วก็อดที่จะนึกถึงวันที่เขามาจีบไม่ได้ ตอนนั้นเธอเรียนอยู่ปีหนึ่ง ส่วนเขานั้นอยู่ปีสี่ อนาวินเรียนอยู่ที่คณะบริหาร เขามีชื่อเสียงเพราะหน้าตาดี มีคนแชร์รูปภาพของเขาตลอดเวลาผ่านโซเชียลมีเดีย เธอพอรู้ว่าเขานั้นมีแฟนแล้ว แถมยังเคยได้ยินว่าเขามีแฟนหลายคนในคราวเดียวกัน แม้แต่ตอนที่มาจีบเธอ...เขาก็มีแฟนอยู่แล้ว
ในตอนนั้นเธอไม่เล่นด้วย เขาจึงไปบอกเลิกแฟนสาว และบอกกับเธอว่าจะไม่เจ้าชู้อีก หลังจากเขาเรียนจบเรื่องผู้หญิงก็เบาลง ไม่ได้ยินอีกเลย ซึ่งไม่นานหลังจากเธอเรียนจบเขาก็ขอเธอแต่งงาน ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วจนเธออดที่จะสงสัยไม่ได้ กระนั้นคนเป็นพ่อก็ดันหลังให้เธอเซย์เยส ตอบตกลงแต่งงานกับเขา แม้นจะแอบหวั่นใจว่าเขาจะเจ้าชู้เหมือนตอนเรียนไหม แต่พอแต่งงานมาสิบปีนี้ เธอก็ไม่ได้ยินข่าวว่าเขานอกใจนอกกายเธอ...อนาวินคงเปลี่ยนไปกระมัง