ปกติเขามักจะดื่มกาแฟยามเช้าที่ทำงานจากฝีมือเลขาฯ ชงให้ ซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟคั่วบดที่คัดสรรมาเป็นพิเศษนำเข้าจากต่างประเทศ แต่วันนี้เขาถูกเชิญมาเป็นเกียรติเปิดงานโครงการส่งเสริมธุรกิจและกระตุ้นตลาดการอนุรักษ์พลังงานโดยกลไกจัดการพลังงานในอุตสาหกรรม เมื่อไม่มีให้เลือก ร้านกาแฟทั่วไปก็ไม่ได้แย่อะไรนัก ขอให้เป็นการแฟสดร้อนๆ หอมกรุ่นก็พอดื่มได้
ความสงบในการดื่มด่ำสุนทรีย์รสจากกาแฟร้อนในมุมเงียบสงบที่สุดความคิดผุดบนใบหน้าหล่อเหลาแต่แล้วภาพนั้นกลับจางหายไปเมื่อความเงียบของเขาถูกรบกวนจากเสียงเจื้อยแจ้วของใครบางคนสลับกับเสียงหอบเหมือนผ่านการวิ่งผลัดคูณสี่ร้อยเมตรมาหมาดๆ ดังอยู่เหนือหัว ไม่มีใครเห็นว่าเควินหรี่ตามองไปที่ร่างหนึ่งอย่างคาดโทษ
“พี่แอนอยู่ไหนคะ เยลลีมาถึงร้านกาแฟแบล็กแคนยอนแล้ว แต่ไม่เห็นพี่แอนเลยค่ะ”
“พี่ก็นั่งคอยเราอยู่ในร้านก็ไม่เห็นเยลลีเหมือนกัน เราอยู่ตรงไหน พี่อยู่โต๊ะกลางร้าน”
“เยลลีก็เดินผ่านกลางร้านมาแล้วแต่ไม่เห็นพี่ มองหาทั่วร้านแล้วนะคะ มองทุกซอกทุกมุมแล้วแต่ไม่เห็นพี่แอนเหมือนกัน”
“อะไรกันร้านก็มีแค่นี้ทำไมไม่เห็นพี่”
เควินวางแก้วกาแฟร้อนหอมกรุ่นลงพร้อมหนังสือกลยุทธ์เชิงธุรกิจที่กำลังอ่านอย่างรำคาญพลางส่ายหน้า เพราะทำงานกับคนไทยมาถึงสามปีเขาจึงฟังและจับใจความรู้เรื่อง ทีแรกเขาตั้งใจว่าจะทนอีกสักพักยังไม่บอกแต่เจ้าตัวคงยังไม่รู้สึกว่ากำลังโชว์มุกตลกแป้กให้เขาขำไม่ออก
‘คนแบบนี้ก็มีด้วย’
สองมือที่หิ้วขนมพะรุงพะรังทำให้คนตัวเล็กหนักพอแรงแล้วยังมองหาลูกค้าไม่เจอ สีหน้าฉายแววกังวลพ่นลมหายใจยาวพรืดเพราะกลัวส่งของช้าโดยไม่เห็นดวงตาที่ลอบมองมาอย่างไม่พอใจ ถ้าลูกค้ารับอาไปจัดเบรกไม่ทัน เธอจะถูกตำหนิได้ ปกติเธอไม่เคยส่งสินค้าช้าให้ลูกค้ามาต่อว่าได้ แต่กวาดตามองไปทุกโต๊ะอีกครั้งก็ยังไม่เห็นวี่แววของคนที่มีลักษณะเหมือนลูกค้าคนสวยที่อุดหนุนขนมร้านเธออยู่สม่ำเสมอ
เขาเงยหน้ามองต้นเสียงที่มารบกวนความสงบในเมื่อไม่อยากทนแล้วจึงเอ่ยขึ้น “ที่นี่มันร้านกาแฟสตาร์บักส์ไม่ใช่แบล็กแคนยอน ร้านแบล็กแคนยอนอยู่ฟากโน้น”
น้ำเสียงแข็งกระด้างจากชายหนุ่มในชุดสูทเรียบหรูที่ยลรดากวาดมองเร็วๆก็รู้ว่ามาจากห้องเสื้ออาร์มานี เขาชี้นิ้วแกร่งไปยังร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามชักชวนสายตาให้หญิงสาวสนใจหันมามอง เพียงแค่สบตาเขาหญิงสาวถึงกับตะลึงกับดวงตาสีฟ้ามีเสน่ห์ไปชั่วขณะ แต่ดวงตาที่ฉายแววไม่สบอารมณ์เหมือนเธอกำลังรบกวนเขาทำให้เธอรีบเบือนหน้าหนี ไม่กล้าสบตากับเขาอีก ได้แต่มองตามนิ้วมือแกร่งไป
ยลรดาผงะชาวาบไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า รู้สึกอับอาย ดวงตาตื่นตระหนกอย่างชัดเจนเมื่อเห็นว่าร้านฝั่งตรงข้ามมีป้ายชื่อร้านชัดเจนว่าแบล็กแคนยอนตามที่ลูกค้าของเธอนัดหมายไว้แต่แรก เพราะความรีบร้อน กลัวส่งสินค้าไม่ทันทำให้เธอวิ่งเข้ามาในร้านกาแฟแรกที่เห็นแต่ลืมดูป้ายชื่อร้าน
เขายักคิ้วหลิ่วตาให้เธออย่างชั่วร้าย สายตานั้นตำหนิในความเซ่อซ่าที่เธอเดินเข้ามาผิดร้าน หญิงสาวหน้าเจื่อนไปถนัด
“ขอบคุณที่บอกค่ะ” แล้วรีบวิ่งออกไปจากร้านทันที
เควินมองตามร่างเล็กที่หอบหิ้วของพะรุงพะรังนั่นไปแล้วส่ายหน้า ประกายเฉียบคมวาบขึ้นบนนัยน์ตา
“คนแบบนี้ก็มีด้วย เซ่อซ่า ไม่ได้ดูอะไรเลย” ก่อนจะก้มหน้ายกกาแฟร้อนขึ้นจิบในมุมเงียบสงบต่อไป
สามวันต่อมา...
“สาธุ ขอให้ลูกได้งานนี้ด้วยเถิด ลูกจะถวายไข่ต้มหลวงพ่อสักห้าร้อยฟอง”
นัยน์ตาสุกใสเปล่งประกายความหวังแหงนมองตึกหรูระฟ้าใจกลางกรุงเทพฯ ทางเข้าตึกมีหญิงชายมากมายแต่งกายดูมีรสนิยมเดินสวนเข้าออก ชั้นยี่สิบสามเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของ EDI OIL บริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติอิตาลีที่มีสาขาในเมืองไทย และมีข่าวว่ากำลังจะลงทุนสร้างท่าเรือขนาดใหญ่ในประเทศลิเบียและโรงงานกลั่นน้ำทะเลโดยการลงทุนนี้มีมูลค่าสูงนับหมื่นล้าน เพราะ เควิน ลาซอนเนติ ผู้กุมบังเ**ยนมีวิสัยทัศน์กว้างไกล เขาเล็งเห็นกำไรมหาศาลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
การเดินทางมาดูบริษัทลูกในเมืองไทยในครั้งนี้เป็นงานเร่งด่วน เขาอยู่ที่นี่ได้ยังไม่ถึงสองเดือนตามที่ตั้งใจก็ต้องเดินทางต่อไปยังประเทศลิเบีย แม้เขาจะพูดและฟังได้หลายภาษาแต่กลับมีปัญหาเรื่องการสื่อสารภาษาอาหรับ งานนี้เขาต้องการล่ามภาษาอาหรับไปทำงานที่ลิเบียด้วยหนึ่งคน
อันที่จริงบริษัท EDI Oil สาขาในเมืองไทยมีล่ามประจำอยู่หลายตำแหน่ง แต่กลับไม่มีล่ามคนไหนถูกใจพอที่จะพาติดตามไปทำงานที่ลิเบียสักคนเดียว ด้วยพื้นฐานนิสัยใจของเขาเป็นคนทำอะไรว่องไว พนักงานล่ามคนหนึ่งมีประสบการณ์ทำงานหลายปี สื่อสารภาษาอิสลามได้แต่เพิ่งแต่งงานไปเมื่อเดือนก่อน เขาเองก็ได้รับการ์ดเชิญให้ไปเป็นประธานในพิธี การทำงานที่ต้องเดินทางไปด้วยกัน ใกล้ชิดกัน อาจเกิดปัญหาครอบครัวขึ้น เขาตัดเธอทิ้งเป็นคนแรก ส่วนอีกสองคนไม่สามารถสื่อสารภาษาอาหรับได้ ทำให้ทางบริษัทต้องประกาศรับสมัครเจ้าหน้าที่ล่ามสัญญาจ้าง 1 ปี อย่างเร่งด่วนจำนวนหนึ่งอัตรา
ข้อความทางไลน์ที่ได้รับจากเพื่อนสาวคนสนิทในตอนสายของหลายวันก่อนทำให้ ยลรดา พราวประภาหรือ เยลลี เข้ามานั่งในห้องรอการสัมภาษณ์ที่โอ่อ่ากว้างขวาง ตกแต่งอย่างหรูหราลงตัวสมเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เชื้อสายอิตาเลียน บริษัทแห่งนี้เป็นบริษัทลูกที่มีสาขาอยู่ในประเทศไทย นี่เป็นด่านที่สองแล้วหลังจากเธอผ่านการทดสอบข้อเขียนด่านแรกเมื่อวานด้วยคะแนนที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจข้อสอบถึงกับอึ้ง แล้วมองหน้าเธอเหมือนไม่เชื่อสายตา
หัวใจดวงน้อยเต้นแรงเพราะมองหญิงสาวอีกสองคนซึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้ถัดไปทางขวามือ เป็นผู้ผ่านผ่านการทดสอบจากด่านแรกมาด้วยกันทำให้อดประหม่าไม่ได้ เพราะหญิงสาวทั้งสองดูเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว แล้วเธอทั้งสองคนยังมีประสบการณ์ทำงานมาแล้วหลายปีจากการพูดคุยกันก่อนหน้านี้ แต่มาสมัครงานที่นี่เพราะค่าจ้างที่สูงมาก
หน้าตาของสองสาวนั้นก็สะสวย คนหนึ่งรูปร่างเพรียวบางน้องๆ นางแบบ มีผิวสีแทน อีกคนสูงขาวแต่งกายดูทันสมัยเหมือนหมวยอินเตอร์ ทั้งคู่เหมาะเคียงข้างจะทำงานกับเจ้านายต่างชาติมากกว่าเธอที่ดูแต่งกายเรียบไปสักนิด และถ้าเทียบกับสองคนนั้นแล้วยังมีส่วนสูงเพียงหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร ถ้าเดินเคียงข้างนายฝรั่งเธอจะดูตัวเล็กไปถนัดตา
แม้จะไม่ได้มีรูปร่างเทียบเคียงนางแบบ แต่ใบหน้าของยลรดากลับมีความหวานละมุน แลดูจิ้มลิ้มชวนมอง แม้เจ้าตัวตกแต่งด้วยเครื่องสำอางเพียงเบาบางไม่เน้นหนัก ล้อมกรอบด้วยเส้นผมนุ่มสลวยดำสนิทที่วันนี้เกล้ายกสูงขึ้นเป็นหางม้า เผยให้ดวงหน้าสวยชวนมองมากขึ้นไปอีก
ในระหว่างรอเรียกตัวเพื่อเข้าสัมภาษณ์ในด่านสุดท้าย ซึ่งหนึ่งในสามคนรวมเธออยู่ด้วยจะมีหนึ่งคนที่สมหวังและอีกสองคนต้องพลาดงานนี้ไป ยลรดาหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายหากคนที่ต้องกลับบ้านโดยพลาดโอกาสทองครั้งนี้จะต้องเป็นเธอ