อติกานต์กลับมาถึงห้องด้วยสติที่ยังเลื่อนลอย ไม่มีแม้กะจิตกะใจอ่านหนังสือเตรียมสอบเช่นทุกวัน จู่ ๆ หญิงสาวก็ร้องไห้ออกมาด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก หึงหวงอย่างนั้นเหรอ เธอรู้ตัวว่าไม่มีสิทธิ์ในข้อนี้ หญิงสาวคิดทบทวน แต่สิ่งที่เธอทบทวนไม่ใช่ตำราเรียน หากเป็นเรื่องที่ต่อตระกูลกับอาจารย์ที่สอนเธอนั่งรถไปด้วยกัน หญิงสาวย้อนนึกถึงวันที่เจอกับพี่สาวของเขาพร้อมกับอาจารย์สาว สายน้ำผึ้งไม่ชอบเธออยู่เป็นทุนก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะแนะนำอาจารย์ลัลนาที่เพียบพร้อมให้น้องชายรู้จัก แล้วตอนนี้พวกเขาสองคนคบกันแล้วเหรอ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เขาไม่เคยพูดถึงเลย
เมื่อคิดปะติดปะต่อเรื่องราวได้เหตุการณ์ที่เหมือนลัลนาจะพูดเหน็บแนมเธอก็ผุดขึ้นมา แสดงว่าอาจารย์ก็รู้แล้วสินะว่าเธออยู่ในสถานะอะไรกับต่อตระกูล พวกเขารู้กันหมดมีแต่เธอคนเดียวที่โง่
และยิ่งตอกย้ำความสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างอาจารย์สาวกับผู้ชายที่นอนร่วมเตียงกับเธอ คือล่าสุดลัลนาได้ลงรูปคู่ของตัวเองกับต่อตระกูลในอินสตาแกรม ภาพบรรยากาศฉากหลังเป็นหลังคาโดมสีทองเอกลักษณ์ของโรงแรมและร้านอาหารหรูแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ สีหน้าชื่นมื่น
โดยส่วนตัวต่อตระกูลไม่ได้เล่นโซเชียลเท่าไรเขาจึงไม่มีบัญชีอินสตาแกรมเป็นของตัวเอง ใต้รูปมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกือบร้อยข้อความ ส่วนมากก็เป็นบรรดาเพื่อนของอาจารย์สาวที่มาแสดงความยินดีที่เพื่อนสาวเปิดตัวแฟนหนุ่มสุดหล่อ
อติกานต์รอเขากลับมาเพื่อจะพูดคุยเรื่องนี้ เธอไม่กล้าโวยวายอะไรเขาหรอก รู้ตัวว่าไม่มีสิทธิ์แค่อยากจะถามให้กระจ่างใจก็เท่านั้นเอง
ต่อตระกูลกลับมาถึงคอนโดในเวลาเกือบห้าทุ่มเห็นหญิงสาวนั่งอยู่ที่โซฟา รอบดวงตามีร่องรอยการร้องไห้ หากก็ไร้คำปลอบโยนจากเขา ดวงตาที่ยังเห็นริ้วรอยแดงจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาที่เธอชื่นชมเสมอมา แต่ในดวงตากลับไร้แววแห่งความรักหากที่เด่นชัดมาตลอดมันมีแต่ความใคร่ ก่อนจะค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้นเดินมาคุยกับเขา
“คุณต่อกับอาจารย์ลัลนารู้จักกันมานานแล้วเหรอคะ”
ถึงขั้นนี้อติกานต์คงรู้เรื่องแล้ว และเขาก็ไม่อาจจะปฏิเสธเธอ จะแคร์อะไรกับแค่ความรู้สึกของผู้หญิงอุ่นเตียงที่มีข้อตกลงกันชัดเจนอยู่แล้ว
“อืม”
“กำลังคบกันเหรอคะ”
“...อืม”
“แล้วทำไม ทำไมคุณต่อไม่บอกเอยเลย”
“แล้วทำไมฉันต้องบอกเรื่องส่วนตัวของฉันให้เธอรู้ด้วย ไม่ว่าฉันจะคบกับใครข้อตกลงระหว่างเรามันก็ยังเหมือนเดิมจนกว่าจะถึงวันที่เธอเรียนจบ”
อติกานต์ส่ายหน้า น้ำตาแห่งความเสียใจเอ่อล้นออกมาอีกรอบ
“ค่ะ เรื่องส่วนตัวของคุณต่อไม่จำเป็นต้องบอกเอยหมดก็ได้ แต่คุณต่อรู้มาตลอดว่าเอยก็รู้จักกับอาจารย์ลัลนา ทำแบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยเหรอคะ เห็นเอยเป็นตัวอะไร คิดว่าเอยไม่มีความรู้สึกเหรอ”
อติกานต์เผลอตะโกนเสียงดังออกไปด้วยความน้อยใจที่อัดอั้นอยู่ข้างใน
“หยุดโวยวายแล้วกลับไปอ่านหนังสือของเธอซะเอย อีกไม่นานก็จะแยกจากกันแล้ว ช่วยทำตัวให้มันดี ๆ ให้มันน่าคิดถึงหน่อยเถอะ ไม่แน่นะ ถ้าเธอทำตัวน่ารักฉันอาจจะช่วยส่งเสียเธอต่อไปก็ได้”
อติกานต์สะอึกในคำพูดของเขา
“ทุเรศที่สุด ไม่จำเป็นค่ะ เอยไม่ต้องการความช่วยเหลือแบบนี้จากคุณตลอดไปหรอก”
“อวดดี หรือคิดว่าตัวเองเก่งจนใกล้จะได้ไปเรียนเมืองนอกแล้วจะทำตัวเหนือฉันขึ้นมาเหรอ หึ จะบอกให้นะแม่สาวน้อยถึงเธอจะเรียนจบกลับมาเธอก็ยังเป็นได้แค่ลูกจ้างบริษัท เงินเดือนที่จะได้ก็ไม่ได้มากมายอะไรหรอก เธอไม่ได้เก่งคนเดียว อนาคตเธออาจจะซมซานกลับมาพึ่งพาฉันก็ได้”
กับคนที่พยายามถีบตัวเองด้วยการศึกษาย่อมภาคภูมิใจที่จะได้เรียนต่อในประเทศที่เจริญแล้วเพื่อสร้างโปรไฟล์ให้ตัวเอง แต่กับคนที่อยู่ต่างประเทศมาตั้งแต่เรียนไฮสคูลอย่างเขาใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศสิบปีก่อนจะกลับมาทำงานในบริษัทของตัวย่อมรู้ดีกว่า
“ไม่มีทาง เอยไม่มีทางกลับมาหาคนอย่างคุณ...ฮึก คุณจำไว้เลย ต่อให้เอยจะลำบากแค่ไหน ก็ไม่มีวันกลับมาหาคุณอีกแน่...ฮึก”
เธอสะอื้น มองหน้าชายหนุ่มขณะสะกดน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาแต่ก็ทำไม่ได้ ความรู้สึกที่มีต่อเขาตอนนี้มันดูผสมปนเปกันไปหมด ไม่ว่าจะเป็นทั้งรัก ทั้งผิดหวัง และเจ็บปวด
“แบบนี้เองถึงไล่ให้เอยออกไปอยู่ที่อื่น เป็นแบบนี้เอง...”
เธอนึกขึ้นได้ว่าวันก่อนเขาเอ่ยปากเป็นเชิงไล่เธอแล้ว แต่เธอยังดื้อรั้นอยู่เพราะคิดว่าเขาไม่ได้มีใคร
“ถ้าอย่างนั้นเอยก็จะเก็บของออกไปตอนนี้เลย...ฮือ”
เธอทนอยู่กับเขาอีกต่อไปไม่ไหวแล้ว เงินเก็บก็พอมี ออกไปหาห้องเช่าราคาถูกอยู่ก่อน พอเกรดเฉลี่ยออกมาก็ยื่นเรื่องไปเรียนต่อ แล้วเธอจะไปใช้ชีวิตเริ่มต้นใหม่ที่นั่น จะไปให้ไกลจากเขา
ร่างบางหมุนตัวเตรียมเดินจาก หากก็โดนมือหนากระชากต้นแขนให้หันกลับมาเผชิญหน้าอย่างแรง
“ตอนนี้เธอยังไปไม่ได้”
“เอยจะไป”
“จะรีบไปไหนล่ะรอให้ถึงกำหนดก่อนสิ ถ้าเธอไปตอนนี้ ฉันจะทำทุกอย่างให้เธอหมดอนาคตที่จะได้ไปเรียนต่อ เธอได้ไปแน่เอย ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันไม่เคยคิดจะรั้งเธอไว้ถ้าถึงเวลา”
“วันก่อนคุณยังอยากไล่เอยอยู่เลย”
“ก็นั่นมันวันก่อน แต่วันนี้ฉันยังไม่ให้เธอไป”
“ฮึก ฮือ...คุณต่อใจร้าย”
“ฉันไม่ได้ใจร้ายแต่ถ้าเธอยังดื้อเธอจะได้เห็นความใจร้ายของฉันแน่”
เขาขู่ให้เด็กสาวที่ไม่มีใครอีกแล้วในโลกนี้หวาดกลัว ก่อนจะปล่อยมือจากต้นแขนที่เผลอบีบแน่นจนตัวเองก็รู้สึกปวดร้าวที่อวัยวะส่วนหนึ่ง อติกานต์เดินกลับเข้าไปในห้องนอน คืนนี้หญิงสาวนอนตัวแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้ ไม่พลิกตัวกลับด้านไปกอดเขาเหมือนทุกคืน
^
^
^
***เพิ่มให้อีกตอนเผื่อคูมนักอ่านจะใจไม่ต้องใจดีกับคุณต่อก็ได้แต่ใจดีกับมนสิหน่อยน้า
ฝากติดตามและเป็นกำลังใจกันต่อไปนะคะ ebook พยายามให้ทันภายในเดือนนี้ค่ะ