กลิ่นใหม่…3/1

1482 Words
ต่อตระกูลกลับมาถึงคอนโดมิเนียมในเวลาประมาณสี่ทุ่มกว่าเห็นว่าอติกานต์ยังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงนอน พอเธอเห็นเขากลับมาแล้วก็พับเก็บหนังสือวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง เปิดยิ้มกว้างต้อนรับ “อยากแช่น้ำเลยมั้ยคะ เอยจะเตรียมน้ำให้” เขาส่ายหน้าพลางแกะนาฬิกาเรือนหรูบนข้อมือออกเบนปลายเท้าเดินไปยังส่วนวอล์กอินโคลเซตในหัวเริ่มคิดเปรียบเทียบคนสองคนในพื้นฐานที่แตกต่างกัน แทบไม่ต้องหาข้อเปรียบเทียบให้มาก มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าสิ่งใดเหนือกว่า ผู้ชายมันมีความเห็นแก่ตัวอยู่ในจิตวิญญาณอยู่แล้ว ย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองไว้ก่อนเสมอ ตัวเขาเองก็รู้ว่าเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนทุกอย่างระหว่างเขากับเธอก็จะสิ้นสุดลง ในเมื่อมันก็มีเวลาของมันทำไมต้องไปเร่งรีบด้วย ขณะที่เขาศึกษาดูใจกับผู้หญิงคนหนึ่ง ช่วงเวลาเดียวกันเขาก็ยังนอนกับผู้หญิงอีกคนได้ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร กับอติกานต์ความสัมพันธ์มันชัดเจนตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าเธอเข้ามาอยู่ในรูปแบบไหน และจะสิ้นสุดลงในตอนไหน กับอติกานต์เขายอมรับว่าแรกเริ่มเขาอยากได้ผู้หญิงคนนี้เหลือเกิน และทำทุกอย่างให้ได้เธอมาอยู่ด้วยในเวลาไม่นานนัก ทว่าเมื่อได้อยู่ร่วมกันเป็นระยะเวลาสามปีกว่าความตื่นเต้นที่มีมันก็แปรเปลี่ยนเป็นความสบายใจที่ได้อยู่ด้วยกัน กลับมาห้องทุกครั้งยังมีเธอรออยู่เสมอ เธอเป็นเด็กดี เชื่อฟังคำสั่ง ไม่ดื้อรั้น หรือทำให้เขารำคาญด้วยนิสัยซื่อ ๆ ของเธอ ส่วนอติกานต์ก็ยอมรับในความสัมพันธ์แบบนี้ตลอดมาเขาให้เธอแค่ไหนก็แค่นั้น ไม่เคยเรียกร้องอะไรเพิ่มเติม กระเป๋าแบรนด์เนมราคาหลายหมื่นที่เธอใช้ไปเรียน นั่นก็เป็นใบแรกและใบเดียวที่เขาซื้อให้ โดยให้เธอเป็นคนเลือก รถที่ให้ขับเป็นรถยุโรปกลางเก่ากลางใหม่ เธอก็พอใจที่จะใช้อยู่แบบนั้นโดยไม่เรียกร้องอะไรเพิ่มเติม คิดว่าไม่ได้นั่งรถเมล์เบียดกับคนอื่นก็พอแล้ว โบนัสที่ให้คือการพาไปนั่งทานอาหารหรู ๆ บรรยากาศดี ๆ บ้าง เดือนละครั้งสองครั้งก็เพียงพอสำหรับเธอ ต่อตระกูลกลับขึ้นมาบนเตียงด้วยชุดนอนเบาสบาย อติกานต์ยังคงรอเขา เมื่อร่างสูงเอนกายลงนอนร่างบอบบางก็เอนตัวมาซบลงบนอก วางมือลูบแผ่นอกแกร่งไปมา ริมฝีปากอิ่มบอกเล่าเรื่องที่พบเจอวันนี้ให้เขาฟังอย่างหาเรื่องชวนคุย “วันนี้เอยเจอพี่สาวคุณต่อด้วยค่ะ มากับอาจารย์ที่สอนเอย” “เหรอ แล้วยังไง” “ก็ ทักทายปกติค่ะ เอยไม่ได้พูดคุยอะไรกับพี่สาวคุณต่อมาก พูดกับอาจารย์นานามากกว่า” “อืม” ในตอนที่ได้ยินเรื่องของเธอจากปากสายน้ำผึ้งเขาไม่ได้เชื่อพี่สาวเขาหมดหรอก ก็รู้อยู่ว่าพี่ไม่ชอบอติกานต์มากแค่ไหน ทว่าเขาก็ไม่ถึงขนาดต้องออกโรงปกป้องเธอจนทำให้มีปากเสียงกับพี่สาวโดยใช่เหตุ แต่ที่ทำให้เขาเริ่มเชื่อว่าโลกมันกลมก็คือเรื่องที่ลัลนาเป็นอาจารย์สอนของอติกานต์ “นอนเถอะ” เช้าวันต่อมาอติกานต์ออกไปทำงานอีกวันส่วนต่อตระกูลก็อยู่ที่ห้อง ระหว่างนั้นเขาก็ตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาพี่สาวเพื่อขอเบอร์ติดต่อของลัลนา ภายในไม่กี่วินาทีสายน้ำผึ้งก็ส่งตัวเลขสิบหลักมาให้ จะปล่อยเวลาให้เดินผ่านไปเฉย ๆ ทำไมล่ะ เมื่อได้เบอร์มาแล้วก็ต้องติดต่อไปหาสิ “สวัสดีครับน้องนานา พี่ต่อนะครับ เที่ยงนี้น้องนานามีนัดรึยังครับ...ออกไปทานข้าวด้วยกันมั้ย...ครับ ให้พี่ไปรับที่ไหนครับ ได้ครับ แล้วเจอกันครับ” ตกลงกันเรียบร้อยเขาก็ลุกขึ้นแต่งตัวใหม่ แล้วขับรถไปรับฝ่ายหญิงยังสถานที่นัดหมาย ในขณะที่อติกานต์ทำงานหาเงินเก็บของเธอต่อตระกูลก็มานั่งรับประทานอาหารกับลัลนาชมวิวบนยอดตึกสูงในโรงแรม วันนี้ฝ่ายหญิงแต่งกายด้วยชุดเดรสลายดอกไม้สีฟ้า ปล่อยผมที่เป็นลอนสวยให้สยายคลุมแผ่นหลัง สวมรองเท้าคัตชูสีพื้นส้นสูงสองนิ้ว เครื่องหน้าแต่งเบา ๆ ทำให้เธอดูสวยธรรมชาติเป็นผู้หญิงสบาย ๆ มองแล้วเพลินตา แถมกลิ่นที่ลอยออกมาจากตัวก็หอมสดชื่นดีอีกด้วย ทั้งคู่มีการพูดคุยแบบเป็นกันเองมากขึ้น ความขัดเขินลงน้อยลงเพราะต่างฝ่ายต่างรู้จักซึ่งกันและกันผ่านสายน้ำผึ้งมาบ้างแล้ว เหมือนทั้งเขาและเธอจะถูกกามเทพตัวน้อยที่มองไม่เห็นแผงศรปักอกเข้าให้เสียแล้ว “ทานอาหารแล้วน้องนานาอยากไปไหนต่อรึเปล่าครับ” ลัลนาทำหน้าครุ่นคิด อมยิ้มไว้ในใบหน้าสวยแบบลูกคุณหนู ต่อตระกูลมองแล้วก็เผลอยิ้มตาม “พี่ต่อชอบงานศิลปะมั้ยคะ” “อืม ก็น่าสนใจดีนะ” ลัลนายิ้ม... ออกมาจากร้านอาหารลัลนาก็พาเขามาที่ร้านอีกร้านหนึ่ง เป็นร้านคาเฟซึ่งในร้านมีกิจกรรมให้ลูกค้าได้ทำของที่ระลึกสนุก ๆ ด้วย เช่นการผสมสีตุ๊กตาหมีที่นำมาห้อยเป็นพวงกุญแจ หรือตั้งโชว์ มีหลายขนาด ปกติแล้วต่อตระกูลไม่ค่อยได้สนใจอะไรเทือกนี้นักหรอก ถ้าเขาอยากได้พวงกุญแจใหม่ก็แค่เดินเข้าชอปแบรนด์เนมแล้วซื้อออกมา หากก็เข้าใจอารมณ์ละเอียดอ่อนของผู้หญิงที่จะสนใจของน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มพวกนี้ เวลาที่ลัลนาผสมสีและเทสีลงมายังตุ๊กตาสีหน้าแววตาของเธอดูมุ่งมั่น ตั้งใจมาก ว่ามันจะออกมาตามแบบที่ต้องการหรือไม่ จังหวะนั้นเขาสังเกตดูความละเอียดของผิวบนใบหน้าเนียนใส ดวงตาที่มองเขาอย่างหวานซึ้งบางครั้งก็เบิกกว้าง ริมฝีปากกระจับสวยอิ่มน้ำ สัดส่วนความโค้งเว้าของร่างกายถือว่าเพอร์เฟกต์สรุปแล้วผู้หญิงคนนี้หาข้อติไม่ได้เลย “เสร็จแล้ว โอเคเลย คราวนี้ก็รอให้สีแห้ง” เธอพึมพำ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มกว้างจนตาหยี “สวยครับ” ลัลนานึกว่าเขาเอ่ยชมสีในตัวของตุ๊กตาจึงเอ่ย “สียังไม่แห้งเลยค่ะ รอหลายชั่วโมงถึงจะใช้งานได้” “พี่ไม่ได้หมายถึงตุ๊กตา พี่หมายถึงน้องนานาสวยมากครับ” โดนชมซึ่งหน้าจากคนที่รู้สึกดีด้วยแบบนี้เป็นใครจะไม่เขินจนหน้าแดง หญิงสาวที่ถูกชมยิ้มอาย หลบสายตาหวานฉ่ำ ออกจากคาเฟในเวลาสี่โมงกว่าพร้อมตุ๊กตาสีที่อยู่ในกล่องพลาสติกใสที่สียังไม่แห้งติดมาด้วยหนึ่งตัว และพวงกุญแจหมีตัวเล็กสีฟ้าพาสเทลสลับกับสีทองและขาวที่ลัลนาให้เขาและเธอคนละหนึ่งตัว “จริง ๆ แล้วนานาไม่ได้ชอบของแบรนด์เนม หรือใช้ของแบรนด์เนมในชีวิตทุกสิ่งอย่างหรอกนะคะ อย่างพวงกุญแจหมีธรรมดา ๆ ตัวนี้ นานาก็จะเอาไปห้อยหูกระเป๋า มันเหมาะกับกระเป๋าที่นานาใช้ และการใช้ชีวิตของนานาก็แสนธรรมดาค่ะ เลิกงานแต่ละวันก็อาจจะมีไปตีแบด ออกกำลังกายบ้าง” เหมือนหญิงสาวกำลังบอกเขาว่า ถึงเธอจะเกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวย เป็นลูกคุณหนูที่มีผู้คนรายล้อม แต่เธอก็ไม่ได้เรื่องมาก แถมยังใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย “เหรอ งั้นถ้าวันไหนว่างเราไปตีแบดด้วยกันมั้ย” “พี่ต่อมีเวลาไปตีแบดกับนานาเหรอคะ” “พี่ก็ไม่ได้ทำงานทั้งวันทั้งคืนนี้ครับ ถึงจะยุ่งแค่ไหน เราก็หาเวลามาเจอคนที่อยากเจอได้อยู่ดี พี่เชื่ออย่างนั้น” เหมือนความรู้สึกดี ๆ ของคนทั้งสองจะเพิ่มพูนขึ้นรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ ออกจากคาเฟทั้งสองก็ไปหาร้านดินเนอร์นั่งจิบไวน์รสเลิศด้วยกันต่ออีกสักหน่อย ก่อนเขาจะพาเธอไปส่งบ้านในเวลาไม่เกินสี่ทุ่ม แล้วขับรถกลับมาที่คอนโดมิเนียม ก็เจอกับผู้หญิงอีกคนที่ยังไม่นอน ^ ^ ^ ***โปรดติดตามตอนต่อไปนะค้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD