ช่วงสายของวันอาทิตย์ต่อตระกูลอยู่ที่คอนโดกับอติกานต์ เขาคิดว่าวันนี้คงไม่ออกไปไหน และไม่รู้สึกอยากออกไปด้วย ขณะที่นั่งดูหน้าจอไอแพดอยู่บนโซฟา อติกานต์นั่งอ่านหนังสืออยู่อีกมุมก็มีข้อความส่งเข้ามาในโทรศัพท์ของต่อตระกูล
ลัลนา:ขอโทษที่ไม่ได้ตอบข้อความนะคะ
พอดีคุณแม่ของนานาหกล้ม ตอนนี้แอดมิตอยู่ค่ะ
ต่อตระกูลเห็นข้อความของเธอ เมื่อคืนเขาได้ส่งข้อความไปหาฝ่ายหญิง บอกหลับฝันดีเหมือนทุกคืน จะว่าเป็นการจีบก็ใช่ หากแต่ไม่มีเสียงตอบรับอะไรกลับมา อีกทั้งเขาก็ไม่ได้สนใจกับโทรศัพท์นักจึงไม่กลับไปสนใจอีก เพิ่งได้รับข้อความเธออีกครั้งในตอนนี้
พอชายหนุ่มรู้เรื่องที่เธอเงียบก็กดโทรศัพท์โทร.หาทันที ด้วยท่าทางที่ดูร้อนใจทำให้อติกานต์ที่นั่งอยู่หันมามอง
“คุณแม่เป็นยังไงบ้างครับ...อยู่ที่ไหนครับ พี่จะไปหา ครับ ไม่เกินครึ่งชั่วโมงเจอกันครับ”
วางสายจากลัลนาก็หันไปมองอติกานต์ที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว เธอหลบสายตาไปก่อนไม่กล้าจะเอ่ยถามอะไร ส่วนตัวเขาเข้าไปแต่งตัวเปลี่ยนชุดใหม่ก่อนจะออกไปจากห้องโดยไม่ได้บอกอะไร
ทางด้านของลัลนาหลังจากวางสายจากต่อตระกูล เธอก็อยากรู้ว่าเวลาที่ต้องการกำลังใจผู้ชายที่กำลังคุยกันเขาจะมาหาไหม หากเขามาแสดงว่าเขาก็ให้ความสำคัญกับเธอไม่น้อย ส่วนเด็กนั่น... ตอนนี้เธอจะไม่ให้ค่าอะไรกับเด็กไซด์ไลน์
ต่อตระกูลมาอยู่เคียงข้างลัลนา ผู้หญิงที่เขากำลัง ‘จีบ’ อยากทำความรู้จักเธอให้มากขึ้น วันนี้ถือโอกาสมาทำความรู้จักมารดาของเธอด้วย หลังจากเจอกับมารดาของลัลนาพูดคุยทำความรู้จักกันแล้ว ลัลนาก็ชวนเขาออกไปนั่งรับประทานอาหาร ปล่อยให้แม่บ้านที่บ้านมาเฝ้ามารดา
“คุณแม่น้องนานาหกล้มตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
“เมื่อวานค่ะ” เอ่ยด้วยน้ำเสียงติดแง่งอนเล็กน้อย
“น้องนานาน่าจะบอกพี่ตั้งแต่เมื่อวาน พี่จะได้มาเยี่ยมคุณน้าเลย”
“นานาคิดว่าพี่ต่ออาจจะยุ่งค่ะ เลยไม่ได้บอก เกรงใจด้วย”
“ไม่เห็นต้องเกรงใจเลยครับ ถ้าน้องนานามีปัญหาต่อให้ยุ่งแค่ไหนพี่ก็จะมา”
“พี่ต่อไม่ได้พูดเล่นนะคะ...” จ้องตาเขาอย่างค้นหาบางสิ่งบางอย่าง ต่อตระกูลจ้องตาตอบ ก่อนเธอจะเอ่ยเป็นนัยให้เขารู้ความหมาย
“พี่ต่ออย่ามาเล่นกับความรู้สึกของนานานะคะ นานาไม่อยากเสียใจ”
ต่อตระกูลยิ้ม “กับน้องนานาพี่ไม่เล่นครับ”
คำตอบจากปากต่อตระกูลชัดเจนแล้ว แม้จะยังไม่มีคำว่า ‘แฟน’ หลุดออกมา แต่ตอนนี้ก็ถือว่าพวกเขาคบกันเพื่อสานสัมพันธ์ไปสู่อนาคต
วันจันทร์อติกานต์ก็เข้าเรียนคลาสแรกกับอาจารย์ลัลนาคนสวยที่นักศึกษาทุกคนในคลาสพูดเป็นเสียงเดียวกัน ทว่าวันนี้สายตาที่อาจารย์สาวมองอติกานต์ดูแปลกไป แวบแรกคนอื่นอาจจะไม่สังเกตทว่าตัวของอติกานต์ที่ชอบมองหน้าอาจารย์เวลาสอนรู้สึกแปลก ๆ กับสายตาอีกฝ่ายที่มองมา มันดูเย็นชากึ่งเหยียดหยันพิกล อติกานต์คิดว่าตัวเองคงรู้สึกไปเองจะมีเหตุอันใดให้อาจารย์คนสวยรู้สึกไม่ชอบเธอขึ้นมา
เมื่อเรียนจบชั่วโมงอติกานต์ก็อาสาหิ้วกระเป๋าเอกสารไปส่งอาจารย์ที่ห้องเรียนตึกเดียวกัน เพื่อนอีกสองคนของเธอแวะไปซื้อน้ำหวานขึ้นมาดื่มในคลาสเรียนเธอจึงได้เดินไปกับอาจารย์ลัลนาสองคน ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ขัดเพราะอยากจะพูดบางเรื่องกับเธอเหมือนกัน
ขณะที่เดินไปพร้อมกันลัลนาก็เปรยกับหญิงสาวทำนองว่า
“เด็กสาว ๆ มหาลัยเดี๋ยวนี้เป็นพวกไซด์ไลน์เยอะเนอะ หาคนเลี้ยง จริง ๆ แล้วสมัยนี้การทำงานหารายได้พิเศษเป็นดูเป็นเรื่องปกติไปแล้วเธอว่ามั้ย...”
หันไปมองหน้าอติกานต์ที่เงียบ ไม่ได้ออกความคิดเห็น ปล่อยให้อาจารย์สาวพูดไปตามความคิดเห็นของตัวเอง
“อาจารย์ว่าคงไม่ต้องถึงขนาดมีเสี่ยเลี้ยงหรอกถ้าเราตั้งใจจะหางานจริง ๆ มันก็มี เว้นแต่เราเป็นพวกวัตถุนิยม หัวสูง รักสบาย เราเป็นผู้หญิงควรรักศักดิ์ศรีให้มากไม่นอนกับผู้ชายง่าย ๆ แต่ถ้าจะนอนอาจารย์ก็ไม่ห้ามหรอกนะคะ แต่ละคนมีวิถีทางของตัวเอง เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่จิตสำนึกจริงมั้ยเอย”
“ไม่รู้สิคะ” หญิงสาวตอบกลาง ๆ
ทว่าสำหรับอติกานต์ส่วนตัวเธอรู้อยู่แล้ว หากแต่ตอนนี้เธอไม่คิดอะไรเยอะ อืม สถานะเธอตอนนี้ก็คล้ายกับที่อาจารย์ว่านั่นแหละ แต่ว่าความจำเป็นของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน เธอรู้สถานะตัวเอง แล้วก็ไม่ได้ทำให้คนที่เลี้ยงเธอต้องเดือดร้อน หรือคนอื่นเดือดร้อนด้วย ถ้าเผื่อว่า ผู้ชายมีภาระมีพันธะ หรือกู้หนี้ยืมสินมาส่งเสียเลี้ยงดูเธอแบบนี้เธอไม่รับแน่นอน แต่กับต่อตระกูลผู้อุปการะของเธอคนนี้เขามีเหลือเฟือที่จะหยิบยื่นให้เธอ เขาไม่มีพันธะกับใคร จะมีก็แต่พี่สาวเขาที่ชอบถากถางเธอหากนั่นก็คนละส่วนกัน
ทั้งนี้เธอรู้สึกขอบคุณเขาด้วยใจ ในวันที่ชีวิตเธอมืดมนมองไม่เห็นหนทาง อะไรที่พอจะยึดเกาะได้ก็ต้องคว้าไว้ก่อน แต่ก็ขึ้นอยู่กับสามัญสำนึกด้วยว่า ถ้ายึดเกาะไว้แล้วทำให้ใครเดือดร้อน สำหรับตัวเธอ ณ ตอนนี้เธอมั่นใจว่ายังไม่มีใครเดือดร้อน ไม่ได้คิดว่าสิ่งที่ทำเป็นเรื่องผิดศีลธรรม ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ถูกบังคับ ตัวเขาไม่ได้เดือดร้อนที่จะนำเงินมาช่วยเหลือเธอ เธอก็ไม่ได้เป็นมือที่สามในความสัมพันธ์ของใครด้วย
และในอนาคตเขาก็คงจะไม่เดือดร้อนเพราะเธอแน่นอน เพราะอีกไม่นานก็จะแยกจากกันแล้ว
ถือเป็นข่าวดีที่สุดสำหรับอติกานต์ในวันนี้คืออาจารย์ประจำภาคแจ้งว่า เธอได้รับพิจารณาทุนจากทางมหาวิทยาลัย ที่เธอได้ยื่นขอไปเรียนปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกาเป็นเวลาสองปี โดยที่ทุนนั้นมีกฎเกณฑ์ในการคัดเลือกที่อติกานต์ผ่านแน่นอนคือ เกรดเฉลี่ยแต่ละเทอมไม่ต่ำกว่าสามจุดห้า นักศึกษามีความประพฤติดีตลอดปีการศึกษา ข้อสุดท้ายต้องไม่ได้เกรดซีในรายวิชาที่เรียน ซึ่งรอเทอมสุดท้าย
ถึงแม้ว่ายังเหลือเทอมสุดท้ายอติกานต์ก็มั่นใจว่าตัวเองต้องได้ทุนไปเรียนต่อแน่นอน เพราะเธอเองก็ตั้งใจอยากจะไปเป็นอย่างมาก จบจากเขาก็ขอไปตัดใจไกล ๆ หน่อย ให้สภาพแวดล้อมที่แปลกใหม่ช่วยเยียวยาจิตใจเธอให้เข้มแข็ง ได้พบเจอคนใหม่ ๆ เปิดโลกที่มีแต่เขาให้กว้างขึ้น
เขาดูแลเธอมานานแล้ว ต่อจากนี้เธอก็ต้องหัดดูแลตัวเองเพื่อให้เขาไปพบเจอคนที่เหมาะสมคู่ควร
ในความดีใจแต่ลึก ๆ กลับใจหาย อติกานต์เดินเข้าไปในห้องน้ำใช้ทิชชูซับน้ำตาที่ซึมออกมา ก่อนจะจ้องมองตัวเองในกระจก เผยรอยยิ้มให้กำลังใจตัวเอง
^
^
^
***โปรดติดตามตอนต่อไปนะค้า ส่งกำลังใจกันมาด้วยน้า จุ๊บ ๆ