ประเทศญี่ปุ่น
20 ปีที่แล้ว
“ริว เร็น หนีไปลูก หนีไปหาโอโต้ซัง หนีไป”
ริโกะ ซาโต้อิชิบะ ตะโกนบอกลูกชายฝาแฝดทั้งสองคนด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนนี้ขาเล็ก ๆ ของเธออ่อนแรงเหลือเกิน เธอวิ่งทั้งน้ำตาฝ่าลูกกระสุนที่รัวยิงเข้ามาหาเป้าหมายซึ่งคือเธอกับลูกชายฝาแฝดทั้งสองคน ที่โดนมาเฟียคู่อริของสามีเธอ เรียวอิจิ ซาโต้อิชิบะ จับมาเป็นตัวประกัน เพราะขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ
สายตาที่อ่อนโยนจ้องมองลูกชายทั้งสองผ่านม่านน้ำตาที่ไหลลงมาไม่ขาดสาย เมื่อปลายทางคือเรียวอิจิ สามีของเธอที่รีบวิ่งมารับลูกชายทั้งสองคนเข้าสู่อ้อมกอดก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไปเมื่อลูกกระสุนวิ่งผ่านหิมะที่กำลังโปรยปรายลงมาพร้อมกับอากาศที่หนาวเย็นยะเยือกจับใจ
ปัง!! ปัง!! ปัง!!
กระสุนสามนัดติดที่ยิงโดนจุดสำคัญของริโกะก่อนที่ร่างเล็กจะหยุดชะงักขาก้าวไม่ออกทันทีที่เด็กชายทั้งสองคนวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของผู้เป็นพ่อ มือบางยื่นมือไปข้างหน้าด้วยความหวังอันเลือนลาง ดวงตากลมโตจ้องมองภาพครอบครัวตรงหน้าไว้เพื่อเก็บเป็นความทรงจำสุดท้ายของชีวิต
หยาดน้ำตาไหลลงมาอาบสองแก้มด้วยความเจ็บปวดก่อนที่ร่างบางจะค่อย ๆ ทรุดตัวลงกับพื้นที่แสนเย็นเยียบ ลมหายใจผะแผ่วลงเรื่อย ๆ จนหยุดนิ่ง พร้อม ๆ กับที่เรียวอิจิ เร็นและริวที่หันมามองภาพของโอก้าซังที่ล้มลงขาดใจตายต่อหน้าต่อตา
“แม่ แม่ครับ แม่ ไม่นะ แม่ครับ ฮือ ฮือ”
เด็กน้อยวัยหกขวบทั้งสองคนน้ำตาไหลทันทีที่เห็นภาพจำ ที่แสนเจ็บปวดก่อนที่จะพยายามวิ่งกลับมาหาผู้เป็นแม่ที่นอนหมดลมหายใจท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายลงมาด้วยความหนาวเหน็บ หนาวไปจนถึงขั้วหัวใจ เรียวอิจิตั้งสติได้ก็จับลูกชายทั้งสองส่งให้ทาเคชิกับเท็ตซึยะ ลูกน้องคนสนิททั้งสองคน
ร่างสูงของเรียวอิจิยกปืนในมือทั้งสองข้างขึ้นทั้งน้ำตาก่อนที่จะสาดกระสุนใส่ศัตรูคู่อริด้วยความรู้สึกเจ็บปวดที่ฝังรากลึกลงไปในใจเมื่อเมียรักถูกยิงล้มลงขาดใจตายต่อหน้าต่อตา
น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาโดยไร้เสียงสะอื้นก่อนที่จะสาดกระสุนผ่านม่านน้ำตาใส่ฝ่ายตรงข้ามไม่ยั้ง ลูกน้องของซาโตชิค่อย ๆ ล้มตายไปทีละคนจนหมด รวมถึงตัวการใหญ่อย่างซาโตชิที่เรียวอิจิยิงนัดเดียวกระสุนวิ่งเข้าไปตัดขั้วหัวใจล้มลงขาดใจตายทันที
“ริโกะ”
เสียงเรียกริโกะดังขึ้นแผ่วเบาท่ามกลางความมืดมิดและหิมะที่โปรยปรายลงมา สองขาอ่อนแรงจนล้มลงข้าง ๆ ร่างบางของริโกะที่นอนแน่นิ่งอยู่ท่ามกลางกองเลือดที่ไหลนองเต็มพื้น
มือใหญ่ยกร่างบางที่ไร้ลมหายใจของริโกะขึ้นมากอดแนบอกก่อนที่จะกอดเอาไว้แน่นแล้วร่ำไห้ออกมาอย่างไม่อายสายตาของลูกน้องนับสิบที่เข้ามารายล้อมผู้เป็นนายด้วยความสงสารเห็นใจที่ต้องมาสูญเสียภรรยาที่รักมากไป เพราะศัตรูที่ตัวเองเป็นคนสร้างขึ้นมา
“แม่ครับ แม่ ฮึก ฮือ โอก้าซัง ฮืออ”
เร็นกับริววิ่งเข้ามาหาผู้เป็นพ่อที่กอดแม่ของเขาร้องไห้เสียงสะอื้นไห้ด้วยความเจ็บปวด เด็กน้อยน้ำตาไหลพรากด้วยความเสียใจ เมื่อสัมผัสร่างที่ไร้ลมหายใจของมารดาก่อนที่จะโผเข้ากอดมารดาไว้ด้วยความเสียใจที่ต่อไปนี้จะไม่มีมือที่อบอุ่นของแม่ที่คอยโอบกอดหรือจูงมือเด็กทั้งคู่อีกแล้ว
เฮือกกกกก!!!
วายุสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้ายด้วยความตกใจก่อนที่มือใหญ่จะยกขึ้นมาลูบใบหน้าที่เปรอะไปด้วยคราบน้ำตา ฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนและตอกย้ำความเจ็บปวดของเขาในทุกค่ำคืน ภาพที่มารดาถูกยิงยังฉายชัดอยู่ในความฝันก่อนที่ร่างสูงจะนั่งชันเข่าซบหน้าลงร่ำไห้ท่ามกลางความมืดด้วยความคิดถึงมารดา
ผ่านมาแล้ว 20 ปี แต่ภาพจำที่ฝังใจกับฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเขาทุกคืนทำให้แผลในใจของเขาถูกสะกิดจนยากที่จะหายดี คงทำได้แค่เพียงยิ้มอย่างอ่อนโยนเวลาที่คิดถึงมารดา เพราะภาพสุดท้ายคือมารดาจากไปด้วยรอยยิ้มที่ยังคงประดับไว้บนใบหน้าสวย
โรงพยาบาล M
วายุเดินเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยความเร่งรีบ ในวันนี้เขามีผ่าตัดใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะไปจากที่นี่ เพราะเขาได้ทำเรื่องลาออกไว้แล้ว
“เร็น วันนี้มีผ่าตัดใช่ไหมคะ” คุณหมอซากุระเดินเข้ามาถามด้วยรอยยิ้มก่อนที่วายุจะยิ้มตอบแล้วรีบเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมความพร้อมทำการผ่าตัดผู้ป่วยที่กำลังรอเขาอยู่
“ผ่าตัดเสร็จแล้วเจอกันนะคะ ซากุระอยากเลี้ยงข้าวเร็น ขอบคุณที่เร็นช่วยเข้าเวรแทนวันนั้น”
ซากุระยิ้มหวานให้วายุ คุณหมอหนุ่มได้แต่พยักหน้าตอบรับก่อนที่จะปิดประตูแล้วรีบเปลี่ยนชุดเพื่อเข้าผ่าตัดใหญ่ที่รอเขาอยู่ การผ่าตัดครั้งนี้เขาขอเดิมพันกับความสามารถทั้งหมดของเขาที่มี
เพราะเป็นการผ่าตัดที่เปอร์เซ็นต์รอดชีวิตของคนไข้มีเพียงแค่
30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่เขามั่นใจว่าเขาจะสามารถช่วยชีวิตคนไข้คนนี้ให้รอดพ้นจากความตายได้
5 ชั่วโมงผ่านไป
เมื่อวายุออกมาจากห้องผ่าตัด ลูกสาวของคนไข้ที่นั่งรออยู่หน้าห้องผ่าตัดก็รีบวิ่งเข้าไปหาวายุทันที
“การผ่าตัดผ่านไปด้วยดีนะครับ หลังจากนี้เราจะย้ายผู้ป่วยไปที่ห้องฉุกเฉินเพื่อรอดูอาการอย่างใกล้ชิด ไม่ต้องห่วงนะครับ อย่างไรคุณพ่อต้องหายดี” วายุบอกลูกสาวของคนไข้ด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนที่ลูกสาวคนไข้จะโผเข้ากอดขอบคุณวายุด้วยความดีใจทั้งน้ำตา
“ขอบคุณนะคะคุณหมอ ขอบคุณจริง ๆ ที่ช่วยคุณพ่อไว้ ฮือ ฮือ”
ลูกสาวคนไข้กอดวายุร้องไห้จนชุดผ่าตัดของเขาเปียกชื้นไปด้วยคราบน้ำตาก่อนที่มือใหญ่จะยกขึ้นลูบหลังสาวน้อยไว้ด้วยความปลอบโยน คนไข้เขามีลูกสาวเพียงคนเดียว เขาจึงอยากให้คนไข้ของเขาอยู่ดูรอยยิ้มของลูกสาวไปอีกนานแสนนาน
หมอแบบเขาเป็นได้ทั้งยมทูตและก็เทวดา แต่เขาเลือกที่จะเป็นเทวดามากกว่ายมทูต แค่ได้รักษาชีวิตคนไว้ได้มันก็ทดแทนความเจ็บปวดที่อยู่ในใจของเขาได้แล้ว
“จะไม่เปลี่ยนใจหน่อยเหรอ” ฮิโรโตะประธานโรงพยาบาล M ถามเร็นเป็นครั้งสุดท้าย เพราะบางทีหมอเร็นที่เป็นหมอผ่าตัดอันดับหนึ่งตีคู่มากับพี่ชายอย่างหมอริวอาจจะเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้ายก็ได้ใครจะรู้
“ไม่ครับ ขอบคุณมาก ๆ นะครับสำหรับประสบการณ์การทำงานที่มีค่าที่แสนวิเศษ”
วายุก้มหัวลงทำความเคารพท่านฮิโรโตะก่อนที่จะเดินออกมาจากห้องท่านประธานด้วยรอยยิ้ม เขาทำเรื่องลาออกจากที่นี่เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปอยู่ที่ประเทศบ้านเกิดของมารดาเขาซึ่งก็คือประเทศไทยนั่นเอง
เขาอยากลืมอดีตที่แสนเจ็บปวดและทิ้งความทรงจำที่แสนเลวร้ายไว้ที่นี่ทั้งหมดเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั่น ที่ ๆ ไม่มีใครรู้จักเขา ไม่รู้ว่าเขาคือใคร ไม่รู้ว่าเขามาจากที่ไหน รู้แต่เพียงว่าเขาคือหมอวายุ หมอศัลยกรรมมือหนึ่งก็พอ
สนามบิน
“ดูแลตัวเองดี ๆ ด้วยนะ” เรียวอิจิในวัย 46 ปี กอดลูกชายคนเล็กด้วยความรักอย่างสุดหัวใจ เมื่อดวงใจของเขากำลังจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ประเทศไทย ประเทศบ้านเกิดของริโกะจัง ภรรยาของเขาที่เป็นลูกครึ่งไทย ญี่ปุ่น
“พ่อก็ดูแลรักษาสุขภาพตัวเองดี ๆ ด้วยนะครับ ถ้ามีวันหยุดยาววายุสัญญาว่าจะกลับมาเยี่ยมพ่ออย่างแน่นอน”
วายุสบตาผู้เป็นพ่อด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ ถึงเขาจะเคยจากบิดาไปเรียนหมอที่ต่างประเทศนานนับหลายปี แต่ครั้งนี้เป็นการจากไปที่เขาตั้งใจไว้ว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีก นอกจากกลับมาเยี่ยมบิดาเท่านั้น
“แล้วไม่คิดจะบอกเพลิงหน่อยเหรอ”
ตะโกนถามลูกชายที่เตรียมตัวเดินเขาไปข้างในเพื่อรอขึ้นเครื่องก่อนที่วายุจะชะงักเท้าเล็กน้อย ใบหน้าหล่อหันมาหาผู้เป็นพ่อช้า ๆ ก่อนที่จะก้มหัวทำความเคารพบิดาอีกครั้งแล้วเดินจากไปทันที ทิ้งให้เรียวอิจิยืนมองลูกชายคนเล็กจากไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวดลึก ๆ ในใจ
วายุถอนตัวออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าของแก๊งมาเฟียท่ามกลางเสียงคัดค้านของทุกคน ชีวิตของลูกชายเขาอยู่ท่ามกลางเสียงปืน การนองเลือดและการเข่นฆ่ามามากพอแล้ว ตระกูลมาเฟียแบบเขามีชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา ฉะนั้นเขาควรปล่อยมือให้ลูกชายได้มีชีวิตที่มีความสุขเสียที
เมื่อวายุจากไปแล้ว เสียงฝีเท้าที่วิ่งเข้ามาภายในบริเวณสนามบินด้วยความเร่งรีบก็หยุดลง เมื่อเห็นผู้เป็นพ่อยืนมองเข้าไปข้างในด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาว่าเรียวอิจิกำลังคิดอะไรอยู่
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก วายุล่ะครับพ่อ”
เพลิงถามผู้เป็นพ่อด้วยความเหนื่อย เพราะเมื่อมาถึงสนามบินเขาก็รีบวิ่งเข้ามาข้างในทันที เขาเพิ่งกลับมาจากทีมอาสาที่ออกตรวจผู้ป่วยตามชนบทที่อยู่ต่างจังหวัด พอกลับมาก็ทราบว่าน้องชายลาออกจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว เขาก็รีบเหยียบรถมาที่สนามบินทันทีเพื่อที่จะรั้งน้องชายไว้ แต่ก็กลับพบว่า
เขามาไม่ทันเสียแล้ว น้องชายสุดที่รักของเขาไปจากประเทศนี้เรียบร้อยแล้ว เป็นการจากลาที่บีบหัวใจคนเป็นพี่ชายแบบเขาเหลือเกิน
“ตามน้องไปสิ” เรียวอิจิพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบไร้ความรู้สึกใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนริวถึงกับหันมามองผู้เป็นพ่อด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“เราสองคนเป็นพี่น้องที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลา จะให้น้องไปใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยคนเดียวได้อย่างไร”
เรียวอิจิหันมายิ้มให้ลูกชายคนโตด้วยความอบอุ่นก่อนที่จะตบบ่าของลูกชายเบา ๆ สองทีแล้วเดินจากไปทันที แต่เดินไปได้เพียงสามก้าวก็หันกลับมามองลูกชายคนโตที่มองตามแผ่นหลังของผู้เป็นพ่อด้วยความซาบซึ้งใจ เพราะถ้าเขาไปนั่นหมายความว่าเขาต้องคืนตำแหน่งหัวหน้าแก๊งมาเฟียให้พ่อดูแลอีกครั้ง
“ดูแลน้องแทนพ่อด้วยนะ ปกป้องน้องเท่าชีวิต มีกันแค่สองคนพี่น้องดูแลตัวเองให้ดี ไม่ต้องห่วงพ่อ พ่อดูแลตัวเองได้ คนแบบพ่อหนังเหนียวไม่มีทางตายด้วยกระสุนปืนของใครง่าย ๆ หรอก”
ยิ้มหล่อทิ้งท้ายให้ลูกชายก่อนที่จะเดินจากไปพร้อมกับทาเคชิและเท็ตสึยะมือซ้ายและมือขวาที่อยู่รับใช้เขามายาวนานนับยี่สิบปีตั้งแต่ที่เขายังเด็กจนเติบโตมาด้วยกัน
เพลิงก้มหัวลงทำความเคารพบิดา จนกระทั่งเรียวอิจิลับสายตาไปแล้วเพลิงก็ยกโทรศัพท์โทรสั่งการเคนจิกับเคนตะ ลูกน้องของตัวเองให้จองตั๋วเครื่องบินพร้อมเก็บเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวบินไปเมืองไทยตามน้องชายทันที
แล้วเจอกันประเทศไทย