ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะอีกครั้งทำให้ศลิษาหันไปมอง คราวนี้มือเธอเย็นเฉียบจริงๆ และปริปากพูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นคนที่เปิดประตูเดินเข้ามา...
ศลิษามั่นใจว่าไม่เคยเห็นหรือว่ารู้จักคนตรงหน้ามาก่อน ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลา ดวงตาเรียวรีเข้ากับดวงหน้าของเขาอย่างเหลือเชื่อ เขาเป็นคนที่สูงกว่ามารตฐานชายไทย และรูปร่างภายใต้ร่มผ้าก็ดูเหมือนเป็นคนออกกำลังกายและใส่ใจสุขภาพมาก มองปราดเดียวแล้วก็มีความคิดในหัวว่าอย่างเขาผู้หญิงน่าจะวิ่งเข้าหาแทบตาย คงตบตีแย่งชิงกันเพื่อให้ได้ใกล้ชิดเขาด้วยซ้ำไป เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่า เทวินท์ กฤษฎากานต์ ผู้ที่ยื่นข้อเสนอเรื่องยกหนี้แลกกับการนอนกับเขาคืนเดียวนั้นจะดูดีจนถึงขนาดทำให้ลมหายใจของเธอติดขัดเพียงแค่สบตาเขาขนาดนี้...
แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ ต่อให้เขาจะเหมือนเทพบุตรสักแค่ไหน มันก็ไม่ง่ายสำหรับศลิษาอยู่ดี เธอไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน และดูเหมือนคนที่เริ่มยืนแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตออกเรื่อยๆ จนสาบเสื้อแยกแหวกให้เห็นแผ่นอกแน่นๆ นั้นจะคาดหวังจากหล่อนสูงพอสมควร...
ในขณะที่ลำคอของเธอแห้งผาก... หัวใจของเธอกลับเต้นตึกๆ เหมือนจะหลุดออกนอกอก... แต่แปลกที่เธอยังประสานสายตากับเขาอยู่ไม่หลบตา ทั้งที่ตัวเธอสั่นเทาเรื่อยๆ
“ไง” เสียงทุ้มเอ่ยทักในตอนที่ถอดเสื้อเชิ้ตแล้วโยนไปกองกับพื้นห้องอย่างไม่ใส่ใจ
“เอ่อ” เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี แต่รู้ตัวว่าตัวเธอผวาเมื่อเขาทำท่าจะเดินเข้ามาใกล้ๆ
กลืนน้ำลายแข็งๆ ลงคอ บอกกับตัวเองว่าเธอต้องผ่านมันไปให้ได้ หญิงสาวสะดุ้งเมื่อเขาเดินมาคว้าแขนเธอให้ลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับเขา...
“จะนั่งอยู่อย่างนี้ถึงเช้าเลยหรือไง”
“ขอโทษค่ะ” เธอบอกเสียงสั่น
แม้จะพยายามข่มความกลัวแล้วแต่ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างในยามที่เขายืนอยู่ตรงหน้า ตัวหล่อนสั่นเทาโดยไม่อาจควบคุม...
ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรอีก เพราะมืออีกข้างของเขาเอื้อมมาปลดสายเสื้อคลุมอาบน้ำที่มณีวรรณจัดหาให้เธอ เมื่อแหวกมันออกเนื้อในที่ไม่มีอาภรณ์ชั้นในปกปิดก็เปิดเผยแก่สายตาของเขา... ศลิษาเม้มปากเบนสายตาไปทางอื่น ไม่พูดจาอะไร แล้วเธอก็ต้องผวาเฮือกเมื่อเขาใช้มือกุมทรวงอกอวบใหญ่ของหญิงสาวไว้เต็มมือแล้วบีบเคล้นคลึงราวกับว่าต้องการตรวจสอบคุณภาพสินค้า...
“ของจริงนี่” เสียงเหมือนพึงพอใจของเขาทำให้เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
“อื๊อ” เธออุทานและหันกลับมามองหน้าเขาเมื่อเขาใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้บีบเบาๆ ที่ยอดปทุมถันสีชมพูอ่อนแล้วคลึงให้เธอแทบยืนไม่อยู่กับการหยอกเย้านั้น....
เทวินท์ผลักเธอให้ทอดกายลงนอนที่เตียง เสื้อคลุมแหวกออกในตอนที่เขายืนมองเธออยู่ ศลิษาก็รีบดึงสาบเสื้อมาปิดเรือนกายเอาไว้ แต่คนที่ตามมาเอนกายคร่อมเธอเอาไว้ก็แหวกมันออกมาพร้อมกับร่างหนาที่แนบทาบทับลงมาติดๆ
ดวงหน้าของเขาที่ก้มมาหาใกล้ใบหน้าเธอจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นกรุ่นกลิ่นน้ำหอมอ่อนโยนจากคนตรงหน้า เขาแตะริมฝีปากอุ่นๆ แนบเรียวปากของเธอ พร้อมกับที่มือของเขาขยับไปกอบกุมที่ปทุมถันอวบอิ่มเต็มมืออีกครั้ง
คราวนี้สองมือของเขารุกรานหน้าอกเธอพร้อมกับจูบริมฝีปากอิ่มอย่างบดเคล้าเป็นจังหวะเดียวกันจนศลิษารู้สึกเหมือนลมหายใจกำลังจะหมดลงจากความตื่นเต้นและซ่านเสียวยามเขาแตะต้องกายเธออย่างนี้...
หญิงสาวทำได้เพียงครางในลำคอในยามที่นิ้วมือของเขาคลึงเนื้อนุ่มเฟ้นราวเป็นของเล่นชิ้นโปรดแต่มันส่งผ่านความรู้สึกซาบซ่านทุกสัมผัสมาต่อเธอ ครู่ใหญ่จากนั้นมือเขาก็เลื้อยไต่ลงจากทรวงอกไปยังหน้าท้องแบนราบ และก่อนที่จะไปถึงส่วนที่เธอไม่เคยให้ใครได้กล้ำกรายแตะต้องเพียงนิดเดียวเธอก็รวบรวมแรงผลักอกเขาอย่างรุนแรง คนที่เพิ่งจะถอนจูบมายุ่มย่ามกับพวงแก้มอิ่มและซอกคอของเธอเพื่อสูดเอาความหอมหวานถึงกับชะงัก
เพราะไม่ได้ตั้งตัวและแรงผลักที่มากพอสมควรทำให้ เทวินท์หงายลงไปนอนบนฟูก ศลิษารีบข่มกลั้นความรู้สึกวูบวาบที่อาบทั่วร่างลุกขึ้นยืนที่ข้างเตียงดึงเสื้อคลุมที่เขาแหวกออกจนถึงไหนต่อไหนเข้ามาพันตัวมิดชิดโดยที่เทวินท์
ถอนหายใจยาวที่ต้องเบรกอารมณ์กะทันหัน
เขานอนมองเธอด้วยสายตาที่อ่านความหมายไม่ออก แล้วก็ถอนหายใจแรงๆ...