1ห้องหอเคล้าน้ำตา
1ห้องหอเคล้าน้ำตา
หลังจากญาติผู้ใหญ่ออกจากห้องหอไปหมดแล้ว บ่าวสาวในชุดไทย ยังนั่งพับเพียบอยู่บนเตียงที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ
“ไงล่ะ ดีใจไหมในที่สุดก็ได้จับฉันได้สมใจ” ตรีภพ กระชากพวงมาลัยคล้อยคอ แล้วปาใส่หน้าเจ้าสาวแสนสวยที่นั่งก้นหน้าก้มตาอยู่บนเตียง
“คิดจะเป็นเมียฉันทั้งทีเชิดหน้าแล้วยิ้มไว้สิ ให้สมกันที่ระริกระรี้ไปอ้อนให้คุณแม่บังคับฉันให้แต่งงานด้วย”
วีรดา เงยหน้าช้อนสายตามองเจ้าบ่าวมาดๆของตนเอง
“วีไม่เคยขอคุณผู้หญิงแบบนั้นเลยนะคะ” เธอพยายามควบคุมไม่ให้เสียงที่เปล่งออกไปสั่นเครือ
หากไม่ถูกคำว่าบุญคุณ ที่ท่านชุบเลี้ยงมา มีเหรอเธอจะยอมแต่งงานกับผู้ชายที่เกลียดเธอเข้าใส้ ในโลกนี้มีใครบ้างไม่รู้ว่าตรีภพเกลียดเธอขนาดไหน
“เหอะ เมื่อก่อนคุณแม่ฉันเกลียดเธอสองแม่ลูกแค่ไหน แต่พอแม่เธอตาย เธอก็ทำตัวน่าสงสารให้คุณแม่ฉันรักและเอ็นดูส่งเสียเลี้ยงมาทุกวันนี้ มารยาทเก่ง เชื้อไม่ทิ้งแถวเลยจริงๆ ถึงคุณแม่จะบังคับให้ฉันแต่งงานกับเธอได้ แต่คนอย่างฉันไม่มีทางเอาลูกคนใช้แบบเธอขึ้นมาเชิดชูออกหน้าออกตา เคยอยู่ยังไงก็อยู่แบบนั้นต่อไป หวังว่าจะรู้สถานะของตัวเองดี” ตรีภพยืนกอดอกมองร่างเจ้าสาวที่ยังนั่งพับเพียบอยู่บนเตียงนอนสีขาว สองไหล่สั่นไหวด้วยแรงสะอื้น แต่ไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาจากปากอิ่มสีชมพูเลย สายตาคมยังจ้องมองคนบนเตียงด้วยสายตาดูแคลน ไร้ซึ่งความสงสาร
“หึ มารยาท” ร่างหนาคว้าผ้าเช็ดตัวสาวเท้ายางๆเข้าห้องน้ำไป
วันนี้เป็นวันแต่งงานของเขาและเธอลูกสาวแม่บ้านที่คุณแม่ของเขารับเป็นบุตรบุญธรรมตั้งแต่ รดา แม่ของวีรดาเสียชีวิตไปเมื่อสิบปีก่อน รดา ผู้หญิงมารยาทนังงูพิษไม่รู้บุญคุณข้าวแดงแกงร้อน ตอนที่ลำบากอุ้มเด็กน้อยวัย 5 ขวบมามากราบขอคุณแม่เขาทำงาน ท่านก็เมตตาให้งานทำให้ที่อยู่อาศัย ท่านทั้งรักและเอ็นดูสองแม่ลูกคู่ แต่สุดท้ายกลายเป็นเลี้ยงงูพิษไว้ใกล้ตัว ผู้หญิงสารเลวคนนั้นกลับหักหลังท่านด้วยการเป็นชู้กับสามีคุณพ่อของเขา
สายน้ำเย็นจากฝักบัวไม่ได้ทำให้ใจของตรีภพเย็นลงได้เลย มือหนาวางนาบไปกับกำแพงเย็นเฉียบ เขาไม่เคยลืมช่วงเวลาที่เลวร้ายนั้นได้เลย ว่าหลังจากเรียนจบมัธยมปลายเขาไปเรียน ปริญญาตรี โท และเอกที่เมืองนอก ตั้งใจเรียนเพื่อจะได้รีบกลับมาช่วยบริหารและดูแลกิจการช่วยบิดา เพราะเขาคือลูกชายคนเดียวของ ตระกูล ชินณรงค์ คุณแม่เขาเป็นโรคหัวใจมีเขาแค่คนเดียว พอคลอดเขาได้ไม่นานก็ทำการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจร่างกายไม่สามารถมีบุตรได้อีก หลังจากบินข้ามฟ้าไปเรียนได้แค่เดือนเดียว คุณแม่ก็โทรมาร่ำไห้ปานจะขาดใจทุกอาทิตย์ ท่านถูกสามีและคนสนิทสวมเขา คนที่ไว้ใจ
แต่ทั้งที่เขาเรียนจบกลับมาเหยียบเมืองไทย ท่านกลับขอให้เขาแต่งานกับวีรดา ลูกสาวของคนที่หักหลังท่าน เขาพยายามคัดค้านท่านทุกทาง คุณแม่ก็ไม่ยอมท่าเดียว จนช๊อคเข้าไอซียู งานแต่งในวันนี้จึงเกิดขึ้น
ทันทีที่ประตูห้องน้ำเปิดออก ร่างบางในชุดไทยหอบชุดนอนและผ้าขนหนูวิ่งสวนเข้าไป พอปิดประตูลงกลอนเรียบร้อย วีรดาทรุดไปนั่งบนพื้นกระเบื้อง ซุกหน้าเปื้อนน้ำตาลงบนสองขาเรียว ไม่สนใจว่าชุดเจ้าสาวสั่งตัดราคาแพงจะเสียหาย ไม่สนว่ามันจะเปียกโชกจากน้ำที่เจิ่งนองบนพื้น ผู้ชายเกลียดเธอเธอรู้ดี แต่เขาเกลียดเธอเพราะอะไร เธอทำอะไรผิด ตั้งแต่จำความได้ก็มีพี่ภพเป็นเพื่อนเล่นเสมอ ฐานะเธอเป็นแค่ลูกแม่บ้านเท่านั้น แต่เขาก็เล่นเป็นเพื่อนเธอ สอนการบ้าน เขาคือพี่ชายที่แสนดี คือความประทับใจในวัยเด็ก หลังจากไปเรียนต่อเมืองนอก พี่ภพที่แสนดีของเธอไม่ได้กลับมาด้วย กลับเป็นซาตานในร่างของพี่ภพ ทุกครั้งที่บ้านเขามักจะหาเรื่องด่าทอ พูดจากระทบกระเทียบเธอทุกครั้งไป ทุกครั้งที่เขามองเธอมีแต่สายตารังเกียจดูถูกแคลน เพียงหางตาที่มองเห็นเขาเธอจะเลี่ยงหนีไปอีกทางเสมอ ไม่อยู่ให้รกหูรกตาให้เขาโกรธเกลียดไปมากกว่าเดิม
‘แม่เธอก็ตายไปแล้ว ยังอยู่ที่นี่อีกหรอ อย่างว่าละ ปลิงมันทำเป็นแค่ดูดเลือด เธอก็แค่ประจบประแจงคุณพ่อคุณแม่ฉันเอาไว้ดีๆล่ะ ไม่งั้นจะไม่มีที่ให้ซุกหัวนอน หึหึ ’
วีรดามาอยู่บ้านของตระกูลชินณรงค์ กับแม่ตั้งแต่อายุห้าขวบ ตอนที่แม่เสียเธอเพิ่งสิบขวบเท่านั้น ไร้ญาติขาดมิตร หากคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายไม่รับเธอเอาไว้ เด็กอย่างเธอคงต้องไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ตอนที่คุณหญิงเอ่ยปากให้แต่งงานกับลูกชายคนเดียวของท่านเธอทั้งตกใจทั้งหวั่นใจ ทุกคนในบ้านทราบดีว่าคุณภพเกลียดเธอ
‘นะวี แต่งงานกับตาภพเถอะ แม่มีตาภพคนเดียว แม่เลี้ยงวีมากับมือ แม่เชื่อว่าวีจะรักและดูแลลูกชายแม่อย่างดี’
‘คุณภพเกลียดวี คุณหญิงก็ทราบ’
‘ตอนเด็กๆเราสองคนก็ออกจะรักกันดีไม่ใช่เหรอ แม่เชื่อว่าภพไม่ได้เกลียดวี ตลอดเวลาที่ผ่านมาแม่ไม่เคยขออะไรวีเลย วีทำเผื่อแม่ซักครั้งได้ไหม เห็นแก่แม่ที่ใกล้จะตาย คำขอครั้งแรกและครั้งสุดท้ายจากแม่’คุณหญิงปาดวาดกุมมือบางเอาไว้แน่น เธอไม่ต้องการคำปฏิเสธ ต้องการเพียงคำว่า ‘ค่ะ’ เท่านั้น
‘คุณหญิง ‘ วีรดา โอดครวญน้ำตาเรื้อน กลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ ก่อนจะกล่าวประโยคประหารชีวิตแก่ตนเอง
‘คุณหญิงยังแข็งแรงดีอยู่เลยค่ะ ยังอยู่เป็นร่มโพธิร่มไทรให้วีและคนอื่นๆในบ้านไปอีก 20-30 ปีเลยค่ะ ตกลงค่ะวีจะแต่งงานกับคุณภพ’