บทที่ 6
“ผมรู้ว่าคุณทำได้ยอดเยี่ยม”
เขาให้กำลังใจ ยิ้มทรงเสน่ห์ของเขากำลังละลายความรู้สึกของเธอ อาร์เธอละมือออกจากแท่งเนื้อกลางลำตัวของเขาและประสานมือทั้งสองไว้ที่ท้ายทอย เขายกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้กัญชลิกาได้มองเห็นความยาวและใหญ่นั่นชัดเจน
ใช่...มันทั้งยาวและใหญ่เกินบรรยาย กัญชลิการู้สึกร้อนขึ้นมาที่ซอกขา มันทั้งอบอุ่นและชุมชื้นขึ้นมาอย่างน่าอับอาย แต่หญิงสาวก็ลองลูบไล้ความเป็นชายของเขาที่ผงาดสู้มือ
ลูบขึ้นลงเพื่อสัมผัสความอุ่นร้อนจากเนื้อหนังที่เต็มไปด้วยเส้นเอ็นปูดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด มันกระตุกเป็นจังหวะในอุ้งมือเรียวบาง เหยียดขยายและพองตัวทุกครั้งเมื่อมือของเธอสัมผัส
ส่วนปลายเรียบลื่นและเบ่งบานนั่นต่างหากที่กำลังละลายความอดกลั้นในใจของเธอ ก็เธอไม่เคยเห็นอะไรชัดเจนอย่างนี้มาก่อน ขนาดดูหนังอาร์ก็ยังไม่ให้ความรู้สึกซู่ซ่ามากขนาดนี้
ยิ่งพอมาเจอของจริงมันน่าตื่นเต้นมากกว่าหลายเท่า นักเรียนสาวลูบไล้บนแท่งกำหนัดขึ้นลงเหมือนเธอไม่เคยพบมาก่อนในชีวิต ยิ่งลูบยิ่งคลำอาร์เธอก็สะดุ้งเป็นจังหวะเล็ก ๆ
“อูว...ซี๊ด...อา...พีชชี่...เร็วกว่านั้น...เร็วอีก”
เขาเผลอสั่งเธอซึ่งกัญชลิกาคิดว่านี่คือหนึ่งในบทเรียน หญิงสาวกอบกำเขาไว้ รูดนิ้วขึ้นลงไปตามความยาว เร็วขึ้น ๆ สลับกับผ่อนเบาเป็นบางจังหวะ ยิ่งมือของเธอเคลื่อนขึ้นลงเร็วเท่าไหร่ส่วนปลายก็ยิ่งชุ่มฉ่ำมากขึ้นเท่านั้น
“คุณเริ่มจะร้อนรึยังล่ะคะ อาร์เธอ?”
หญิงสาวถามขณะช้อนตามองเขา ดวงตาแสนสวยคู่นั้นแฝงไว้ด้วยความฉลาดเฉลียวแต่ก็เต็มไปด้วยความเปรี้ยวยั่วยวนได้ใจ เธอลดความเร็วของมือที่รูดขึ้นลงบนตัวเขา อาร์เธอมองเธออย่างชื่นชม
“ระ...ร้อน...ร้อนฉ่าเลยล่ะ พีชชี่ ผมบอกแล้วว่าคุณเยี่ยมมาก”
“แต่ฉันคิดว่ามันยังไม่ทำให้คุณ ร้อนฉ่ามาพอ...อืม...อาร์เธอคะ ฉันหิวค่ะ”
คำพูดขี้เล่นและน้ำเสียงเจือไว้ด้วยความเย้ายวนนั้นทำให้ชายหนุ่มขนลุกซู่ แน่นอนว่ากัญชลิกาคงไม่นึกหิวข้าวขึ้นมาตอนนี้แน่
“คุณก็คิดว่า มัน...เป็นกล้วยหอมสิ”
หญิงสาวยิ้มให้กับความคิดรู้ทันของแดนเซ่อร์หนุ่มอเมริกันกล้ามล่ำ เธอแลบลิ้นออกมาเป็นเชิงยั่วเขานิด ๆ อาร์เธอถึงกับถอนหายใจเมื่อหญิงสาวโน้มใบหน้าลงต่ำ แล้วเธอก็เริ่มชิมส่วนปลายของ มัน ที่เขาว่าคล้ายกล้วยหอม
“อ๊า...ซี๊ด...พีชชี่...โอ๊วววว...พระเจ้า...ซี๊ด”
เจ้าของร่างสูงห่อปาก ร่างกายของเขาสั่นสะท้านขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อนักเรียนสาวสวยเริ่มลิ้มชิมส่วนหัวของท่อนลำที่กำลังเหยียดขยาย มันพองตัวขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะส่วนปลายสีแดงเข้มจัดที่สั่นระริกยามลิ้นของกัญชลิกาสัมผัสมันเบา ๆ
เธอเลียมันไปมา ดูดชิมรสชาติแปลก ๆ ของหยาดแห่งกำหนัด ซึมซับมันไว้ด้วยกลีบปากละมุนที่เม้มขบบ้างเป็นบางหน ดูดครั้งแล้วครั้งเล่าเฉพาะที่ส่วนปลายจนชายหนุ่มครางฮือ
“ซี๊ด...เสียว...พีชชี่...เสียวอะไรอย่างนี้ แม่คุณ...โอววว...อา...ซี๊ด...อา...อา”
อาร์เธอยกสะโพกขึ้นและส่ายไปมา เขาไม่นึกว่าจะมาเสียท่าให้กับนักเรียนสาวที่เขาตั้งใจถ่ายทอดกลเม็ดเด็ดพรายเรื่องรักให้เธอแบบนี้ เธอทำให้เขาเสียวซ่านไปทั่วทุกอณูขุมขน ปากก็ร้องครางไม่หยุดและดังขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่สนใจว่าใครแถวนี้จะได้ยิน นี่ใครสอนใครกันแน่ ชายหนุ่มนึกหยันตัวเองขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“อูว...อืม...ฉันอยากกินค่ะ อยากรู้ว่ามันจะอร่อยกว่ากล้วยหอมลูกนั้นมั้ย”
กัญชลิกาว่าพลางกอบกุมส่วนโคนสีเข้มที่รกเรื้อด้วยปุยไหมสีน้ำตาลประกายแดง หมุนมือไปมาเล็กน้อยและดูดดุนส่วนปลายที่บานเบ่ง เมื่อลิ้มรสชาติตรงนั้นจนพอใจเธอจึงเปลี่ยนท่าทีใหม่ด้วยการจับมันใส่เข้าไปในปาก
ไม่น่าเชื่อว่าปากจิ้มลิ้มที่ดูเหมือนเล็กนั่นจะกลืนเขาไว้ได้เกือบหมด กระพุ้งแก้มของเธอโป่งพองออกมาขณะกลืนท่อนลำขนาดอลังการเข้าไปลึก เธอหยุดอยู่ชั่วขณะและเริ่มกดรัดรอบ ๆ ท่อนเนื้อแข็งแกร่งด้วยกลีบปากนุ่ม
“โอ๊ววว...พระเจ้า...พีชชี่...คุณทำอะไรผม...ไม่...อา...ซี๊ด...อา...”
เจ้าของปากที่กำลังกลืนกินเขาอยู่เลื่อนริมฝีปากออกและลากลิ้นไปตามความยาวของท่อนลำเหมือนที่เธอทำกับกล้วยหอมผลนั้น แต่แตกต่างตรงที่ขนาดของอาร์เธอนั้นใหญ่มากแต่กัญชลิกาก็คิดว่ามันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอ
“โอว...มันทั้งใหญ่...และอร่อยมากเลยค่ะ อาร์เธอ”
เธอชื่นชมพร้อมทั้งครอบครองความแข็งขึงอีกครั้งด้วยกลีบปากที่ยังโหยหา ดูดกลืนมันเข้าไปและไล้เลียด้วยปลายลิ้นระรัวไปตามผิวสากแต่ลื่นย่างไม่น่าเชื่อ มันยืดหยุ่นไปตามปากของเธอที่เลื่อนขึ้นลง อาร์เธอยกสะโพกสูงขึ้น เขาอยากให้เธอกลืนเขาไว้ให้หมดจนถึงโคน
“โอววว...ซี๊ด...อา...โอย...อูว”
ชายหนุ่มครวญครางจนหน้าแดง เขาไม่เคยรู้สึกซ่านเสียวมากขนาดนี้มาก่อน เขาเคยผ่านผู้หญิงมา แต่ไม่ใช่หลายคน ถึงเขาจะเป็นแดนเซอร์โชว์ความเซ็กซี่ แต่อาร์เธอก็ไม่ชอบการมีคู่นอนพร่ำเพรื่อ
ชายหนุ่มยอมรับกับตัวเองอย่างหนึ่งว่าเขาสะดุดตากับใบหน้าสวยหวานของกัญชลิกาตั้งแต่แรกเห็น และการที่เขายอมรับข้อเสนอของเธอ มาเป็นครูสอนเรื่องรักให้ มันก็มาจากหัวใจของเขาที่เรียกร้อง ไม่ใช่เพียงเพราะค่าตอบแทน