ฝันหวาน
ความรู้สึกต่อจากนั้นคือร่างกายอันน์ชักกระตุกอยู่สองสามครั้ง ก่อนเจ็บแปลบและปวดหนึบบริเวณข้อเท้าซึ่งมีสายรัดสวมไว้ เขาส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด แล้วแน่นิ่งไปราวกับสมองถูกปิดสวิตซ์!!
เวลาผ่านไปนานนับสามชั่วโมงที่อันน์วูบหมดสติ กระทั่งเขาตกอยู่ในอาการกึ่งหลับกึ่งตื่น ร่างกายพยายามต้านทานสัมผัสที่เคลื่อนผ่านอย่างเนิบช้า เขาพลิกตัวและขยับหนีการคุกคามหากไม่เป็นผล
อันน์ถูกใครบางคนควบคุมไว้ เขาตั้งสติเพื่อสลัดเงาดำที่ทาบทับซึ่งทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหว และเขาไร้เรี่ยวแรงต่อกร
มือใหญ่ซึ่งอุ่นจัดเคลื่อนผ่านร่างกายเขาอย่างช้าๆ มันส่งสัมผัสหวามไหวอย่างรุนแรง เป็นสัมผัสที่เขาไม่อาจต้านทานความสิเน่หาที่ถาโถมเข้าใส่
เขาเผลอหลุดเสียงคราง พร้อมเรียกร้องให้อีกฝ่ายปลดปล่อยความต้องการจากส่วนลึก กระทั่งความอุ่นซ่านทาบทับลงบริเวณหน้าท้อง ก่อนค่อยๆ เลื่อนต่ำลงไปอีกนิด และหายลึกลงไปในร่มผ้า
ยามนั้นอันน์เห็นใบหน้าของธรรศผุดขึ้นในความมืด อีกฝ่ายยิ้มร้ายๆ พร้อมเผยแก่นกายอุ่นจัดต่อหน้า เสียงเขาเข้มดุห้วน ออกคำสั่งให้กระทำเรื่องชวนเสื่อมเสียเกียรติ
“เปิดปากออก ถ้าไม่ใช้ปาก คงต้องเป็นก้นนิ่มๆ ของแก!”
“เอา มันออกไป เอามันออก... ปะ ไป” เขาร้องบอกธรรศด้วยอาการหวาดผวา แต่เสียงเขาคงดังน้อยเกินไป ด้วยสิ่งที่อุ่นจัดกำลังรุกล้ำร่างกายเขา
“อย่า!!!” อันน์ร้องเสียงหลง
“หึๆ... อย่ามาตอแหล”
“ผมกลัวแล้ว อย่าทำผมเลย”
“เหลวไหล ชอบไม่ใช่เหรอแบบนี้ ฮ่าๆๆ”
เสียงหัวเราะน่าเกลียดดังอย่างสาสมใจ
ภายในโพรงปากมีบางสิ่งรุกราน ก่อนตัดสลับไปที่บั้นท้ายซึ่งถูกมือใหญ่ฟาดไม่ยั้งจนเกิดรอยแดงช้ำ จากนั้นนิ้วยาวแข็งแรงจึงพยายามผ่านเข้าไปในช่องทางคับแคบสีชมพู และตามด้วยแตงกวาผลใหญ่!!
“แล้วแกจะติดใจ ฮ่าๆๆ”
“ไม่... คุณไม่สิทธิ์ทำแบบนี้กับผม” เขาร้องปฏิเสธ
กระทั่งแตงกวาล่วงผ่านเข้าไปในร่างกาย อันน์ก็เกร็งไปทั้งตัว ตอนแรกอาการคือจุกหน่วงๆ คล้ายมีบางสิ่งอยู่ผิดที่ผิดทาง ทว่าพอธรรศขยับผลแตงกวาเข้าออกอย่างรวดเร็วซ้ำๆ หลายหน อันน์กลับส่งเสียงพึงพอใจ เขาเผลอตอบรับสัมผัสนั้นด้วยการร่ำร้องเรียกชื่ออีกฝ่าย
“คุณธรรศ!!”
เมื่อหลุดเสียงนั้น อันน์พลันสะดุ้งสุดตัวและพบว่าเขานอนอยู่บนเตียงกว้าง
ชายหนุ่มประหลาดใจ เขาจำได้ว่าภาพสุดท้ายคือพบกับหุ่นปั้นขี้ผึ้งขนาดครึ่งตัวอยู่ในห้อง หุ่นดังกล่าวมีรูปร่างและหน้าตาเหมือนเขาราวกับถอดแบบมาไม่ผิดเพี้ยน
อันน์ขยับตัวตั้งใจลุกจากเตียง เป็นจังหวะเดียวกันที่เขารู้สึกโล่งทั้งตัว ด้วยร่างกายไร้อาภรณ์ใดๆ และน้องชายก็ตอบสนองภาพฝันเมื่อครู่อย่างเต็มที่ แต่ยังโชคดีที่เขาไม่ทำเรื่องขายหน้าด้วยการปล่อยสิ่งที่อยู่ข้างในออกมาจนเลอะที่นอน
ยามนี้เขารู้สึกกลัวจับใจ เกิดสิ่งใดกับเขา ผู้ชายใจหยาบช้ากำลังเล่นเกมอะไรกันแน่
ดวงตากลมโตคู่สวยกวาดตามองไปรอบๆ ห้องดังกล่าวซึ่งกว้างมาก มีเครื่องปรับอากาศทำงานด้วยความเย็นเฉียบ และเขาพบใครคนหนึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ ราวกับไม่ได้สนใจเขา
“คะ คุณทำอะไรผม” อันน์ร้องถามพร้อมดึงผ้าห่มคลุมร่างตนไว้ราวกับเป็นสาวน้อยขี้อาย
ธรรศถอนหายใจหนักๆ อย่างที่เขาชอบทำ แล้ววางหนังสือตรงหน้าลง และก้าวมาใกล้ๆ อันน์
“ทำให้แกสบายตัวไง” เขาว่าและดึงผ้าห่มออกจากร่างอันน์ แต่คนตัวบางกว่าพยายามยื้อแย่งคืน เขาไม่ต้องการอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าต่อหน้าโจรร้าย
แต่สุดท้ายอันน์ก็พ่ายแพ้ต่อแรงธรรศ ผ้าห่มถูกโยนทิ้ง อันน์ตกอยู่ในสายตาอีกฝ่าย
อันน์เลี่ยงหลบหลบดวงตาคมๆ ที่วาวแสง ธรรศมองสำรวจเขาราวกับเป็นอาหารอันโอชะ
“กลัวฉันงั้นเหรอ ถ้ากลัว ทำไมยังดื้อ และก่อเรื่องอยู่แบบนี้”
“ผะ ผมไม่ได้ทำ ผมแค่ตามหาคุณแล้วไม่พบ เลย...”
“ฮึ เลยเดินไปทั่วและทำของฉันเสียหาย”
อันน์ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร เขาเซ่อซ่าเอง กระนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้เขารู้ความลับของธรรศ และในเรือนไม้นี้ยังมีคนอื่นอยู่ด้วย
“ผมเห็น... ผู้ชายคนนั้น และรูปปั้น!”
ธรรศยิ้มตรงมุมปาก รอยยิ้มร้ายๆ จากริมฝีปากสีสดใต้เคราเขียวกระตุกหัวใจอันน์ ร่างกายเขาร้อนวูบวาบและแก่นกายตอบสนองสิ่งที่ใจร่ำร้อง จนเกือบลุกขึ้นและโผเข้าหาอีกฝ่าย
“ทำไม แกชอบไอ้พลอย่างงั้นเหรอ อดใจเอาไว้ก่อน เดี๋ยวแกได้เจอมันบนเตียงแน่ๆ ส่วนรูปปั้นนั่น ฉันตั้งใจจะส่งเป็นของขวัญให้แม่แกกับอลินา เพื่อเป็นตัวแทนหลังจากที่ฉันจับแกทำเมียสำเร็จแล้ว!” กล่าวจบธรรศก็ดึงแขนอันน์ให้ลุกขึ้นยืน
“ปล่อยผม”
นอกจากไม่ปล่อยแขน ธรรศยังรั้งร่างอันน์มาชิดกายแกร่ง
“อยู่นิ่งๆ ฉันอุตส่าห์ดีด้วย ทั้งป้อนยา เช็ดตัวให้ แทนที่จะตอบแทนด้วยยิ้มหวานๆ กลับทำตัวน่าเบื่อ หรือว่าชอบเล่นเจ็บๆ ฉันจะได้จัดให้ถึงใจอย่างเมื่อคืน”
อันน์ตัวแข็งค้าง เขาไม่อยากให้ธรรศทำป่าเถื่อน ดังนั้นจำเป็นต้องใช้มารยาเล็กๆ น้อยๆ ออดอ้อน
“ผะ ผมแค่กลัว และไม่เคยถูกใครทำอย่างนี้มาก่อน” เขากัดฟันพูด ยามนี้สีหน้าซีดสลดสมจริงด้วยอ่อนเพลียมาก
“เห็นไหม ทำตัวน่ารักแบบนี้เดี๋ยวฉันก็ใจอ่อน” ธรรศว่าจบจึงปล่อยให้อันน์เป็นอิสระ ในขณะที่อีกฝ่ายก้าวห่างออกไปเขาก็อมยิ้มน้อยๆ
บั้นท้ายของอันน์แน่น ผิวขาวอมชมพู และมีกลิ่นหอมจางๆ อีกฝ่ายมีกล้ามเนื้อพองาม แต่แรกเขาไม่เคยคิดหลงเสน่ห์ผู้ชายด้วยกัน แต่หลังจากได้แกล้งเย้าแหย่ และสั่งสอนพอให้เข็ดหลาบ กลับเป็นเขาเสียเองที่กำลังจะใจแตก!!
“เสื้อผ้าแกอยู่ในตู้ ต่อไปก็นอนห้องนี้กับฉัน บนเตียงนั่น” เขาว่า และเตรียมผละไปดูงานของตนเองต่อ
“ทำไมต้องเป็นที่นี่ ผมอยากนอนในห้องส่วนตัวมากกว่า หรือห้องใต้ดินก็ได้”
“ไม่ได้! อยู่ที่นี่ก็ดีแล้ว มันใกล้หูใกล้ตาฉัน อีกอย่างเรือนใหญ่มีงานเยอะแยะ หัดทำงานจะได้มีกินเข้าใจไหม”
“มันไม่ใช่หน้าที่ผม แค่คุณจับผมมาทรมาน มันก็เกินไปหน่อยแล้ว”
“ทำตามที่สั่งไม่ต้องเถียง อย่ามากเรื่อง อ่อ และบอกตามตรงแค่ใช้แตงกวากับแก มันยังไม่หนำใจว่ะ ฉันอยาก... นอนกับแกรู้ไหม นอนด้วยกัน กอดกัน จูบปาก แล้วก็...”
ได้ยินธรรศเอ่ยแบบนั้น เขาก็รู้สึกปวดหนึบๆ ที่น้องชาย ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้เขาไม่กล้าแตะแก่นกายตัวเอง ในทุกครั้งที่ถูกธรรศกระตุ้น อุณหภูมิของมันจะสูงขึ้น และเจียนปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมา
“ผมไม่ใช่พวกหื่นเหมือนคุณ”
“ฮ่าๆๆ ฉันก็ไม่ได้หื่น แค่ไม่ชอบเก็บอะไรไว้นานๆ และคืนนี้แกเตรียมตัวไว้ให้ดี ถ้าน้องชายฉันไม่สงบ อย่าคิดว่าจะได้หลับสบาย”
อันน์ได้ยินแล้วจึงรีบสวมเสื้อผ้าที่ธรรศเตรียมไว้ให้ในตู้ โชคดีที่มีกางเกงขายาว และเสื้อยืดเนื้อผ้าดี ไม่ใช่ชุดวาบหวิวอย่างเช่นตอนเช้าที่เขาสวมใส่
“ขอเตือนไว้อีกอย่าง ถ้าไม่อยากสลบอีก อย่าริทำตัวแรดๆ เดินมั่วไปทั่ว ถ้าฉันไม่อนุญาต แกไม่มีสิทธิ์ไปไหน ถ้ายังทำแบบเดิมอีก ต่อไปจะล่ามโซ่ไว้กับเตียง ให้ขี้เยี่ยวตรงพื้นนั่นแหละ!” ธรรศบอกด้วยเสียงเหี้ยม แต่สีหน้าไม่ได้จริงจังสักเท่าไร
“คุณจะเก็บตัวผมเอาไว้อย่างนี้เหรอ ผมไม่ใช่ตุ๊กตาของคุณ หรือพวกหุ่นปั้นพวกนั้นนะ”
“ใช่แกไม่ใช่ของไร้สาระพวกนั้นหรอก สิ่งที่แกเป็นได้ตอนนี้ก็คือ... เมียของฉัน เมียทาสด้วยนะ ‘นังหนู’ เอ๊ย ‘ไอ้หนู’ หึๆ”