บทที่ 7 มื้อเย็น

2378 Words
บทที่ 7 มื้อเย็น "พี่อิฐโอเคไหมคะ" เสียงหวาน ๆ เอ่ยขึ้นภายใต้ความเงียบพลันทำให้อิฐชะงัก และหันหน้าไปมองหญิงสาวข้างกายที่ตอนนี้นั่งประจำอยู่ที่เบาะรถข้างคนขับอย่างเขา ใบหน้าหล่อเหลาเรียบตึงเป็นต้องแปรเปลี่ยนให้คลายกังวลเพราะกลัวว่าคนตัวเล็กจะไม่สบายใจ แม้ว่าตัวเขาจะยังโกรธกับเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่หาย หลังจากที่ตอกหน้าอดีตคนรักไปด้วยคำพูดเจ็บแสบ อิฐก็จับจูงมือเล็กของปิ่นออกจากร้านและขับรถออกมาจากห้างในทันที เขาทั้งโกรธทั้งโมโห วันดี ๆ แบบนี้กลับต้องหม่นหมองด้วยฝีมือของคนที่ทรยศหักหลังให้กับความรักของเขา "ปิ่นไม่รู้ว่าเรื่องเป็นมายังไง แต่ปิ่นอยากบอกว่าพี่อิฐทำถูกแล้วค่ะ สิ่งที่พี่อิฐพูดออกไปเมื่อกี้มันสมควรแล้วกับผู้หญิงคนนั้น" แววตาหวานหันมองอิฐอย่างเป็นประกาย พร้อมกันนั้นยังยกนิ้วโป้งที่แสดงออกว่าเธอกำลังออกปากชมยกยอเขาอยู่ "เด็กแก่แดด" อิฐหัวเราะในลำคอพลางยกมือขึ้นดันเบา ๆ ที่หน้าผากมนอย่างนึกเอ็นดู "ความจริงปิ่นจะด่าเขากลับไปแล้วด้วย อยู่ ๆ ก็มาว่าปิ่นแบบนี้ได้ยังไง มารยาทแย่มาก!" อิฐยิ้มตามแม้ไม่ได้หันไปมองว่าตอนนี้ใบหน้าหวาน ๆ ของเธอจะยับยู่ยี่ขนาดไหน แต่พอได้ยินเสียงสดใสกับคำยกยอของเธอกลับทำให้เขาสบายใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าโทนเสียงนุ่ม ๆ ของเธอขับกล่อมให้เขาเบาบางและโอนอ่อนลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน "เขาชื่อออม เป็นแฟนเก่าของฉัน" "คะ?" ปิ่นหันขวับมองด้วยความแปลกใจ พอจับใจความสักพักก็รับรู้ว่าเขาพูดถึงผู้หญิงมารยาทแย่คนนั้นนี่เอง "ออมคือคนที่ฉันรัก เราคบกันมานานมากแต่เราก็ต้องเลิกกัน..." อิฐเปิดเผยทุกอย่างออกมา น้ำเสียงเขาราบเรียบ แต่ทว่ามันกลับมีความเจ็บปวดเจือปนอยู่ในนั้น "...ออมไปนอนกับคนอื่น ทั้ง ๆ ที่วันนั้นเป็นวันเกิดของฉัน ฮึ...ของขวัญที่ได้จากคนรักคือการทรยศหักหลัง ฉันจำไม่ลืมเลย!" เสียงแค่นหัวเราะตามมาหลังเอ่ยจบประโยค มันเป็นการขบขันที่สุดแสนจะน่าสมเพชเสียมากกว่า ของขวัญจากคนรักที่มอบให้คือการทรยศหักหลัง อิฐเห็นเต็มสองตาว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังนอนอยู่บนเตียงกับผู้ชายคนอื่น! "แต่ดีแล้วล่ะค่ะที่พี่เลิกกับคนแบบนั้น ถึงจะเสียใจแต่ปิ่นว่ามันเหมือนเป็นการหลุดพ้นจากเคราะห์ร้ายเลยนะคะ" "ทุกวันนี้เวลาที่ฉันเห็นหน้าไอ้ผู้ชายที่มันเคยนอนกับออมทีไร ฉันก็เข้าไปต่อยมันตลอด แต่ที่ฉันทำไม่ใช่เพราะว่าฉันยังรู้สึกรักออมอยู่หรอกนะ ฉันแค่เกลียดสิ่งที่มันทำ" "โธ่ ทำตัวเป็นอันธพาลไปได้ บางทีเขาคนนั้นอาจจะไม่รู้ก็ได้นะคะว่าผู้หญิงมีแฟนอยู่แล้ว เขาอาจจะถูกหลอกเหมือนกัน" "เหอะ เธอควรเข้าข้างฉันมากกว่าไอ้เหี้ยนั่นนะ" อิฐเลิกคิ้วมองอย่างไม่พอใจนัก เขาไม่สนใจเหตุผลอะไรทั้งนั้น ยังไงไอ้ผู้ชายคนนั้นก็ขึ้นคือว่าเป็นชู้ และสิ่งที่เขาลงมือก็ถือว่าเป็นการระบายโทสะโทษฐานที่ทำให้คนอย่างเขาต้องเจ็บปวด "ปิ่นจะเข้าข้างใครได้ถ้าไม่ใช่พี่ ยังไงพี่ก็เป็นผู้มีพระคุณของปิ่น ปิ่นอยู่ข้างพี่อิฐเสมอแหละค่ะ" ปิ่นพูดค่อนขอดไปในตัว เธอไม่รู้อะไรมากมาย แต่รู้สถานะของตัวเองดีว่าไม่มีสิทธิ์มากนัก ถึงเขาจะเลวร้ายแต่เธอก็ไม่มีทางย้ายฝั่งไปได้ "วันนี้ก็เลยไม่ได้ให้เธอช่วยเลือกของเลย แม่ง..." อิฐบ่นคำสุดท้ายเบา ๆ อย่างนึกเสียดาย เขาตั้งใจพาเธอมาที่ห้างเพราะอยากให้เธอช่วยเลือกของบางอย่างที่เกี่ยวกับผู้หญิง ซึ่งก็เป็นปิ่นนี่แหละที่เขาคิดว่าจะสามารถช่วยคนอย่างเขาได้ "เลือกของอะไรเหรอคะ" "ฉันจะให้เธอช่วยเลือกของขวัญวันเกิดให้หน่อย ของผู้หญิงน่ะ อายุก็น่าจะเท่า ๆ เธอหรือไม่ก็มากกว่านิดหน่อย ฉันไม่รู้เรื่องพวกนี้ นึกออกอยู่คนเดียวก็คือเธอ" "ซื้อให้ใครเหรอคะ อ้อ...ใช่ผู้หญิงคนที่ปิ่นเห็นที่ร้านกาแฟหรือเปล่าคะ" อิฐหรี่ตามองคนข้างกายพลางขมวดคิ้ว แอบดุอยู่ในใจว่าเธอคนนี้เริ่มพูดมากและรู้ดีเสียไปหมด "อืม คนนั้นแหละ อีกไม่กี่วันก็เป็นวันเกิดน้องสาวของฉันแล้ว แต่ไม่รู้จะซื้ออะไรให้" "คะ!? น้องสาวเหรอคะ" "ทำไม ตกใจอะไรขนาดนั้น" คราวนี้อิฐถึงกับหันมองด้วยความแปลกใจ จับได้ถึงน้ำเสียงของเธอที่ดูเหมือนว่าตกใจเป็นอย่างมากที่เขาบอกว่าผู้หญิงคนนั้นคือน้องสาว "ปะ...เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร" ปิ่นเม้มปากแน่นพลางบีบมือเมื่อรู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมา นี่เธอเผลอคิดอกุศลว่าผู้หญิงคนที่เห็นในร้านกาแฟเป็นแฟนของอิฐ ทั้ง ๆ ที่เขาสองคนเป็นพี่น้องกัน! ให้ตาย...แถมวันนั้นเธอก็ยังมองเขาในทางลบว่าเป็นคนมักมากอีก! "อย่าบอกนะว่าเธอคิดว่าเป็นแฟนฉันน่ะ" อิฐมองอย่างจับผิดอีกครั้ง ถึงคนตัวเล็กไม่พูดเขาก็พอจะเดาได้ว่าเธอคิดแบบนั้นจริง ๆ "แหะ...ก็หน้าไม่เหมือนกันเลยนี่คะ ปิ่นก็เลย..." "ยัยเด็กบ้า! นั่นน้องสาวฉัน ชื่ออันดามัน คนละแม่แต่ฉันก็รักเหมือนน้องในไส้นี่แหละ" "ปิ่นขอโทษ ปิ่นไม่รู้จริง ๆ" เด็กสาวยกมือไหว้พลางทำหน้าสำนึกผิดที่ทำเอาคนขับรถถึงกับไปไม่เป็นในทันที จากการทำหน้านิ่วคิ้วขมวดกลายเป็นอ่อนยวบ เขาไม่ได้โกรธเธอจริงจังเสียหน่อย ทำไมยัยนี่ถึงต้องทำหน้าแบบนั้นกันด้วย "ช่างเถอะ เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้ว" อิฐถอนหายใจออกมาซึ่งเป็นจังหวะที่รถยนต์ของเขาขับเลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าคอนโดฯ สุดหรูที่ตอนนี้เขาได้ยกมันให้เป็นที่อยู่อาศัยของคนตัวเล็กนี่ไปแล้ว อิฐจอดอยู่ที่ด้านหน้า ตั้งใจว่าจะส่งเธอตรงนี้และขับรถออกไป แต่ประโยคที่คนตัวเล็กเอ่ยชักชวนกลับทำให้เขาชะงักกึก "เมื่อวานปิ่นไปเดินซื้อของในซูเปอร์มา ตั้งใจว่าเย็นนี้จะทำปีกไก่ตุ๋น ถ้าพี่อิฐไม่รังเกียจ...ปิ่นขอตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยมื้อเย็นฝีมือของปิ่นได้ไหมคะ" เสียงเล็กเอ่ยแผ่วเบาก่อนที่เธอจะรวบรวมความกล้าสบสายตามองคนข้างกาย เธออาศัยอยู่ที่คอนโดฯ ของอิฐมาได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว แถมยังเคยออกปากว่าอยากจะตอบแทนบุญคุณของเขาที่ช่วยเหลือ แต่อิฐก็ไม่เคยติดต่อหรือต้องการให้เธอทำสิ่งใดเลย อย่างน้อย ๆ เธอเองก็หวังว่ามื้อเย็นมื้อนี้จะสามารถตอบแทนเขาได้เพียงเศษเสี้ยวก็ยังดี "รู้หรือเปล่าว่าเธอกำลังชวนผู้ชายขึ้นห้อง" อิฐหรี่ตามองแต่กลับทำให้คนตัวเล็กถึงกับรีบส่ายหน้าและโบกไหวมือพัลวัน "มะ...ไม่ใช่นะคะ! โธ่...นี่มันห้องของพี่อิฐไม่ใช่ของปิ่นสักหน่อย แล้วอีกอย่างปิ่นก็อยากตอบแทนพี่บ้าง แต่ถ้าพี่อิฐไม่สะดวกใจก็ไม่เป็นไรค่ะ ปิ่นขอตัวก่อนนะคะ ขอบคุณที่มาส่ง สวัสดีค่ะ" หญิงสาวขมวดคิ้วนิ่วหน้า แต่ไม่นานก็ยอมจำนนและตัดสินใจหันไปเปิดประตูจะเดินลงจากรถไป แต่ทว่า... "ก็ได้...แต่ถ้าทำไม่อร่อยล่ะน่าดู!" อิฐเอ่ยบอกอย่างไม่จริงจังนัก แถมยังทำเฉไฉปั้นหน้าขรึมใส่คนตัวเล็กอีก ทั้งที่ใจจริงแล้วเขาตอบตกลงตั้งแต่เธอเอ่ยปากชวนวินาทีแรกแล้ว! ทั้งสองคนขึ้นมายังชั้นบนโดยที่ปิ่นแยกตัวเข้าไปในโซนครัว เพื่อรับหน้าที่เป็นแม่ครัวทำอาหารเย็นให้กับผู้มีพระคุณ ส่วนอิฐก็มานั่งรอเธอที่โซฟาตัวยาวหน้าโทรทัศน์จอใหญ่ สายตาก็กวาดมองรอบ ๆ ที่ยังคงเหมือนเดิม แต่มีความสะอาดสะอ้านน่าอยู่กว่าที่เขาเคยมานอนค้างชั่วคราว ข้าวของของปิ่นไม่ได้มีเยอะนักเลยทำให้ห้องนี้ยังคงตกแต่งเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เขาแปลกตาที่สุดก็เห็นจะเป็นต้นไม้ราว ๆ สี่ห้าต้นที่วางอยู่มุมห้อง มันเป็นต้นไม้ที่ตอนนี้กำลังฮิตอยู่ทีเดียว แถมยังออกใบเขียวสวยงามที่ดูออกว่ารดน้ำดูแลเป็นอย่างดี อิฐหยิบแท็ปเล็ตออกมาเช็กข่าวคราวและกราฟหุ้นไปพลาง ๆ ระหว่างรอ โดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำเหล่านั้นอยู่ในสายตาของหญิงสาวที่เผลอไผลจดจ้องมองเขาไม่วางตา ปิ่นที่กำลังงุ่นง่วนอยู่หน้าเตาพอหันกลับมาก็เห็นว่าตอนนี้คนตัวโตกำลังจดจ่อกับหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ด้วยความเรียบนิ่ง แต่ทว่ากลับทำให้เธอชะงักงันราวกับต้องมนตร์ที่ไม่สามารถละสายตาไปได้ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาทำให้เธอหลุดเข้าไปในห้วงภวังค์ อยู่ ๆ ก็รู้สึกล่องลอยและอยากจะหยุดสายตาไว้ที่เขาแต่เพียงผู้เดียว จนกระทั่ง... "นี่! ได้ยินที่ฉันพูดหรือเปล่า!" "เฮือก!" ปิ่นสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงเข้มของอิฐเอ่ยเรียกแถมตอนนี้เขายังลุกขึ้นจากโซฟาและสาวเท้าเดินเข้ามาหาเธออีกด้วย "อะไรของเธอ เรียกก็ไม่ได้ยิน เหม่ออะไร" อิฐเดินมาประชิดที่เคาน์เตอร์ในครัวซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับปิ่น เขากอดอกถามอย่างเอาคำตอบ แถมสายตาขุ่น ๆ ของเขาก็ยังจดจ้องมองเธอไม่ห่างอีกด้วย "ปะ...เปล่าค่ะ ปิ่นแค่เอ่อ...ปิ่นแค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย" "เดี๋ยวไฟก็ไหม้หม้อพอดี" "ขะ...ขอโทษค่ะ" อิฐเห็นสีหน้าของคนตัวเล็กก็ดุต่อไม่ลง เขานั่งลงที่เก้าอี้ตรงเคาน์เตอร์หน้าครัว ก่อนจะสั่งให้เธอหยิบแชมเปญที่อยู่ใกล้ ๆ มาให้กับเขา "หยิบชวดแชมเปญให้หน่อยสิ มันวางอยู่ในตู้นั้นน่ะ" "อ้อ ได้ค่ะพี่อิฐ" ปิ่นรับคำพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง เธอหยิบขวดแชมเปญออกมาให้เขาตามที่สั่ง พร้อมกับจดจ้องมองอย่างสนใจเพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยลิ้มลองมันเลยสักครั้ง "แชมเปญกับไก่ตุ๋น เหอะ! โคตรจะไม่เข้ากันเลย" อิฐหัวเราะพลางมองหม้อหน้าเตาที่ตอนนี้กำลังเดือดปุด ๆ สลับกับแชมเปญราคาแพงที่อยู่ในมือ "งั้นก็กินหลังมื้อเย็นสิคะ" "ไม่อะ อะนี่อยากลองไหม เคยลองหรือเปล่า" อิฐเทของเหลวใส่แก้วทรงรีและเคลื่อนไปให้กับหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังมองตาแป๋ว ส่วนปิ่นเองก็ได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบ ว่าตัวเองนั้นไม่เคยลองแชมเปญราคาแพงแบบนี้เลยสักครั้ง อย่าว่าแต่แชมเปญเลย แค่เบียร์กับเหล้าก็เรียกได้ว่าแตะไปเพียงสองครั้งในชีวิตเท่านั้น "ลองดู" "อร่อยไหมคะ" "ก็ลองดูสิ" ปิ่นพยักหน้ารับหงึก ๆ ก่อนจะหยิบแก้วตรงหน้าขึ้นมา เธอลอบมองการกระทำของเขาก่อนจะยกขึ้นดื่มตาม แต่ทว่าเพียงจิบแรกกลับทำให้เธอสำลักจนเปรอะเปื้อนตามคางและต้นคอ "แค่ก ๆ อึก...ไม่เห็นอร่อยเลยค่ะ!" "ฮึ เลอะหมดแล้วยัยบ้า!" อิฐหัวเราะก่อนจะหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดให้กับเธอ ร่างสูงเดินเข้าไปหาพร้อมกับจับไหล่มนเอาไว้ หลังจากนั้นก็จัดการปาดเช็ดของเหลวที่เปรอะเปื้อนตามใบหน้าและร่างกายของเธอออกให้ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำนั้นทำให้ปิ่นชะงักงันและตกใจมากแค่ไหน หญิงสาวเม้มปากแน่น ขณะที่สายตาก็สั่นระริกเมื่อสัมผัสอบอุ่นจากคนตัวโตอยู่ห่างเพียงไม่กี่เซนติเมตร มือของเขากำลังสัมผัสกับร่างกายเธอ รวมไปถึงหัวใจดวงน้อย ๆ ที่เต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ "ดูสิ เลอะไปหมด" อิฐบ่นเบา ๆ และยังคงทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปดังเดิม จนกระทั่งรู้สึกถึงความเงียบสนิทของคนตรงหน้า ทำให้เขาละสายตาหันไปมองก็เห็นว่าตอนนี้ใบหน้าของเธอกำลังแดงซ่านอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังตั้งสติตัวเองได้ว่าเขากำลังเกินเลยและเกือบสัมผัสที่หน้าอกของเธออย่างไม่รู้ตัว! "เฮ้ย! โทษที! ฉันไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกินเธอนะ" อิฐรีบปล่อยมือและขยับตัวออกห่าง เขาตั้งใจจะเช็ดออกให้เธอจริง ๆ แต่ไม่รู้ตัวเลยว่ามือของเขาที่ไล้ต่ำเช็ดมาตามกรอบหน้าและต้นคอจะเกือบสัมผัสกับหน้าอกของเธอแบบนี้ "อะ...เอ่อ มะ...ไม่เป็นไรค่ะ ปิ่นเช็ดเองดีกว่า" ปิ่นยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดการกับตัวเองและสงบสติอารมณ์ไม่ให้เตลิดไปมากกว่านี้ เธอไม่ได้โกรธเขาเลย แต่โกรธตัวเองมากกว่าที่มัวแต่ยืนนิ่งปล่อยให้เขาสัมผัสไปถึงไหนต่อไหน แถมหัวใจดวงน้อยก็สั่นไหวเต้นโครมครามอย่างน่าอาย "ฮือยัยปิ่น! หยุดนะ หยุดคิดเดี๋ยวนี้!" ปิ่นสะบัดหัวแรง ๆ หวังให้ความคิดในตอนนี้หายออกไป เธอกำลังหวั่นไหวอย่างนั้นเหรอ เธอกำลังหวั่นไหวให้กับผู้มีพระคุณอย่างอิฐเนี่ยนะ!?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD