ทิวากรที่กำลังหัวเสียกับเหตุการณ์เมื่อครู่ ที่ปานวาดมาอาละวาดและตบตีกับมีนาอยู่นั้นพลันตกใจที่จู่ ๆ เขมิกาก็พรวดเข้ามาในห้องทั้งยังตะคอกเขาเสียงดัง ยังไม่ทันได้เรียบเรียงความคิดให้เข้าที่ น้ำเสียงสั่นเครือของเจ้าตัวก็ดังขึ้นอีกครั้ง “เขมถามว่าพอใจคุณหรือยัง! สะใจคุณหรือยัง! ทำไมไม่ตอบล่ะคะ? หรือว่าความสุขมันจุกอกที่ทำให้เขมกับเพื่อนผิดใจกันได้เลยพูดไม่ออกงั้นสิ” คิ้วเข้มกระตุกยิก ๆ เมื่อถูกถามด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน เนตรคมหดวูบมองสบดวงตากลมโตอย่างไม่ใคร่พอใจนัก แต่เมื่อเห็นว่าใบหน้าหวานมีคราบน้ำตาทั้งตอนนี้ยังทำท่าจะไหลลงมาอีก ชายหนุ่มจึงพูดตัดบทด้วยไม่อยากทะเลาะกับเธอตอนนี้ แค่เพื่อนเธอมาอาละวาดเขาถึงบริษัทก็ปวดหัวพอแรงแล้ว “หยุดร้องไห้แล้วรอให้อารมณ์เธอดีขึ้นก่อนค่อยมาคุยกัน” “ไม่! คุยกันวันนี้แหละ คุยให้มันรู้เรื่องไปเลยจะได้จบ ๆ กันไปสักที ไม่ต้องคาราคาซังแบบที่ผ่านมาอีก” กรามขบเข