ข่าวลือเรื่องท่านหญิง ท่านชาย ของหลานอ๋อง เป็นที่พูดถึงไปทั่วเมือง ทั้งยังลือกันอีกว่าคนของร้านขายขนมเป่าเปาน้อยสนิทสนมกับท่านหญิง ท่านชาย บางคนยังเคยเห็นท่านหญิงไปช่วยแม่ค้าตัวน้อยขายขนมอีกด้วย
อ่า พวกอันธพาลเหล่านั้นช่างหาเรื่องผิดคนจริงๆ ดูก็รู้ว่าคงถูกผู้อื่นจ้างมา ช่างดวงกุดจริงๆ
หลังจากสลบไป จงเป่าเปาก็ถูกนำตัวมายังจวนท่านอ๋องผู้ปกครองเมือง หมอประจำจวนถูกเรียกให้มาดูแลจงเป่าเปา
สองผู้เฒ่าเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้อง ตอนนี้ท่านหมอกำลังดูอาการของหลานสาวพวกเขาอยู่ ด้วยความเป็นห่วงหลานสาว สองผู้เฒ่าจึงไม่ได้รู้เลยว่าตอนนี้กำลังอยู่ในจวนของผู้ปกครองเมือง
เกือบครึ่งชั่วยามท่านหมอก็เปิดประตูออกมา
“ท่านหมอเจ้าคะ หลานสาวข้าเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ฮึก” อันเจียอีรีบเดินเข้าไปหาท่านหมอ เพื่อสอบถามอาการของหลานสาว น้ำตาก็ยังไหลนองหน้า
ผู้คนที่อยู่รอบๆ บริเวณก็เข้ามาฟังอาการด้วยเช่นกัน
“หลานสาวของเจ้าหน้าผากแตก แต่ข้าทำแผลให้แล้ว และมีรอยช้ำภายนอก ให้นางพักผ่อนสัก 3-4 วัน อาการก็น่าจะดีขึ้น” ท่านหมอผู้เฒ่าชี้แจงอาการ โชคดีที่ภายในไม่อันใดน่าเป็นห่วง
จงฮุ่ยชิวกับอันเจียอีได้ฟังก็ให้สบายใจขึ้นมาหลายส่วน พวกเขาเป็นตากับยายแท้ๆ กลับปกป้องหลานตัวน้อยไม่ได้
“ข้าเข้าไปเยี่ยมนางได้หรือไม่ขอรับ”
“ได้ แต่อย่านานนักเล่าให้นางได้พักผ่อน”
“ขอรับ”
สองผู้เฒ่าและหลานฟางซินเดินเข้าไปภายในห้อง บนเตียงหลังใหญ่มีร่างเล็กๆ ของเด็กน้อยนอนไม่ได้สติอยู่ ที่หัวมีผ้าขาวพันโดยรอบ ยังเห็นรอยแดงๆ ของเลือดซึมออกมา
“ฮึก” เสียงสะอื้นจากอันเจียอีดังขึ้น หลานนางตัวเล็กเพียงนี้ คนพวกนั้นรังแกได้อย่างไร
จงฮุ่ยชิวก็ได้แต่โทษตนเองที่ไม่สามารถปกป้องหลานสาวได้ เขากับภรรยาทะนุถนอมจงเป่าเปามาอย่างดี ไม่เคยตีให้เจ็บตัว แล้วเพราะเหตุใดหลานเขาจึงเป็นเช่นนี้
ทางด้านหลานฟางซินก็น้ำตาไหล เมื่อได้เห็นเด็กน้อยที่นางเอ็นดูเหมือนน้องสาวนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง คนพวกนั้นช่างใจดำนัก แม้กับเด็กตัวแค่นี้ก็ยังทำได้ลงคอ
ทั้งสามเดินไปใกล้เตียงมากกว่าเดิม อันเจียอีนั่งลงบนเตียงข้างๆ หลานสาว มือหยาบที่เกิดขึ้นจากการทำงานยกขึ้นลูบใบหน้าของหลานสาว
“ยายขอโทษ ฮึก ที่ปกป้องเจ้าไม่ได้ ฮึก รีบตื่นขึ้นมาหายายกับตาเจ้านะ ยังมีพี่สาวฟางซินของเจ้าอีก ฮึก” พูดไปก็ร้องไห้ไป สงสารหลานสาวตัวน้อยสุดหัวใจ
“รีบตื่นขึ้นมานะลูก ตาจะพาเจ้าไปเหมาถังหูลู่ทั้งร้านเลย”
“เป่าเปาน้อยรีบตื่นมาหาพี่สาวนะ พี่สาวรอซื้อขนมจากเจ้าอยู่นะ” และพี่สาวจะไม่ให้ใครมาทำร้ายเจ้าได้อีก หลานฟางซินพูดต่อในใจ
ทั้งสามอยู่กับจงเป่าเปาไม่ถึง 1 ก้านธูป สาวใช้ผู้หนึ่งก็มาตามให้ไปที่ห้องโถง ในตอนนั้นเองที่สองผู้เฒ่าเพิ่งจะสังเกตว่าบ้านที่ตนเดินอยู่ตอนนี้ ช่างใหญ่โตเสียจริง
เรื่องที่หลานฟางซินพาเด็กน้อยเข้ามาที่นี่ ผู้เป็นใหญ่ของบ้านย่อมรับรู้ เขาให้คนไปสืบเรื่องของครอบครัวนี้มาแล้ว ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ เป็นเพียงครอบครัวชาวบ้านทั่วไป อยู่กันเพียงลำพังสองตายาย แต่เมื่อ 3 ปีก่อน ได้เจอกับจงเป่าเปาที่ถูกทิ้งไว้ในป่าตั้งแต่นางเป็นเพียงทารกแรกเกิด ตนจึงไม่ได้คิดห้ามที่บุตรสาวจะคบหาเด็กผู้นี้เป็นสหายต่างวัยของนาง
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้ากลับมาแล้วขอรับ” หลานวั่งจีเพิ่งกลับมาจากการสอบสวนชายฉกรรจ์เหล่านั้น มาถึงท่านพ่อบ้านก็ไปแจ้งเขา ว่าท่านพ่อกับท่านแม่เรียกพบ
“อืม พ่อให้คนไปตามพวกเขามาแล้ว เจ้าค่อยรายงานทีเดียวตอนพวกเขามา” ‘หลานเฟยหรง’ หรือ ‘หลานอ๋อง’ ประมุขของบ้านกล่าว นอกจากจะเป็นประมุขของบ้านแล้ว ยังเป็นผู้ปกครองเมืองนี้อีกด้วย
“ขอรับ” หลานวั่งจีเดินไปนั่งลงฝั่งตรงข้ามมารดา
“เด็กตัวแค่นั้นกล้าทำได้อย่างไร” ‘ชุนลี่หลิน’ พระชายาเพียงหนึ่งเดียวของหลานอ๋องกล่าว นางก็มีบุตรสาวเช่นกัน ถ้าหลานฟางซินต้องโดนทำร้ายเช่นเด็กน้อยผู้นั้นนางคงไม่ปล่อยไปแน่
“ท่านแม่ไม่ต้องห่วง ข้าจัดการคนเหล่านั้นแล้วขอรับ” บุตรชายเพียงคนเดียวเอ่ยบอกผู้เป็นแม่ คนพวกนั้นเก่งแต่กับคนไม่มีทางสู้ เขาทรมานเพียงนิดๆ น้อยๆ ก็สารภาพออกมาจนหมด “แล้วนางเป็นอย่างไรบ้างขอรับ” ไม่ลืมที่จะถามถึงสหายต่างวัยของน้องสาว
“ท่านหมอบอกว่าหน้าผากแตก ตามตัวฟกช้ำ แต่โชคดีที่ภายในไม่เป็นอันใด” ชุนลี่หลินตอบบุตรชาย หลานวั่งจีพยักหน้ารับรู้
แต่ยังไม่ได้พูดคุยอันใดต่อ ก็มีเสียงบอกให้คนภายในรับรู้การมาถึงของแขกและบุตรสาว
หลานฟางซินเข้ามาด้านในก็รีบเข้าไปกอดมารดา น้ำตายังเอ่อคลอดวงตาทั้งสองข้าง ชุนลี่หลินหันสบตาสามีก่อนจะยกมือลูบหลังเพื่อปลอบโยนบุตรสาว
“คารวะท่านอ๋อง และพระชายาขอรับ” เขาเพิ่งรู้ว่าที่นี่คือจวนของหลานอ๋องผู้ปกครองเมือง ด้วยเป็นเพียงชาวบ้านไหนเลยจะรู้คำราชาศัพท์ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าในชีวิตนี้จะได้พบผู้เป็นใหญ่เป็นโต แต่ตอนนี้เชื้อพระวงศ์ที่ไม่คิดว่าจะได้เจอกลับอยู่ตรงหน้าพวกเขา ทั้งสองก้มจนศีรษะชิดพื้นห้องโถง
“เงยหน้าขึ้นเถิด ไม่ต้องมากพิธีอะไร” ถึงจะเป็นเชื้อพระวงศ์ แต่หลานอ๋องก็ชอบใช้ชีวิตแบบคนปกติทั่วไป
เมื่อเสียงจากผู้เป็นใหญ่สั่ง สองผู้เฒ่าก็รีบเงยหน้าขึ้นมาทัน
“ขอรับ" จงฮุ่ยชิวตอบรับ "ขอบคุณ เอ่อ ท่านชายและท่านหญิงที่ช่วยพวกเราขอรับ”
หลานฟางซินได้ยินท่านตากับท่านยายเรียกตนว่าท่านหญิง ก็รีบหันขวับไปมอง การกระทำนั้นอยู่ในสายตาของผู้เป็นบิดา
“ฟางซินคงไม่ชอบที่พวกท่านเรียกนางว่าท่านหญิง เช่นนั้นพวกท่านก็เรียกนางด้วยคำเรียกเดิมเถิด” หลานเฟยหรงเอ่ยอย่างรู้ใจบุตรสาว
เพราะสำหรับชาวบ้านแล้วคำพูดของเชื้อพระวงศ์ถือเป็นคำขาด สองผู้เฒ่าจึงตอบรับ “ขอรับ / เจ้าค่ะ”
“แล้วหลานสาวท่านเป็นอย่างไรบ้าง” เป็นชุนลี่หลินที่เอ่ยถาม ถึงแม้จะรู้อาการของเด็กคนนั้นจากปากท่านหมอแล้วก็ตาม
“เป่าเปาน้อยยังไม่รู้สึกตัวเลยเจ้าค่ะท่านแม่ นางหัวแตกด้วย มีเลือดออกด้วย” แต่คนที่ตอบกลับเป็นหลานฟางซินเสียนี่ ในขณะที่เอ่ยตอบน้ำเสียงยังสั่นเครืออีกด้วย
“เดี๋ยวน้องก็ตื่น เจ้าไม่ต้องกังวล”
“เจ้าค่ะ” รับคำแล้วก็กลับไปกอดมารดาเช่นเดิม
“ข้าจับพวกเขามาสอบถามแล้ว” ผู้ที่นั่งเงียบมานานจนเหมือนไม่มีตัวตนกล่าวขึ้นบ้าง
จงฮุ่ยชิวและอันเจียอีจึงตั้งหน้าตั้งตารอฟัง
“พวกเขาถูกว่าจ้างมา เพราะพวกท่านขายของดีเกินหน้าเกินตาผู้อื่น ทำให้ร้านขนมหลายร้านขายไม่ค่อยดี รวมถึงร้านที่ว่าจ้างด้วย” คนพวกนั้นเป็นเพียงอันธพาลปลายแถว ที่ถือว่าตนมีพลังกำลังมากกว่าผู้อื่น จึงข่มขู่ผู้คนไปทั่ว
เนื่องจากร้านขนมของจงเป่าเปาขายดีจนเกินไปทำให้ร้านขายขนมขนาดใหญ่ ที่เคยมีรายได้มากมายในแต่ละวัน ได้รับผลกระทบเนื่องจากลูกค้าน้อยลง เพราะลูกค้าเหล่านั้นล้วนมาซื้อขนมจากร้านของครอบครัวจง ถึงแม้พวกเขาจะทำขนมเลียนแบบออกมาขาย แต่ก็ไม่อร่อยเท่า อีกทั้งเหมือนขนมที่ทำเลียนแบบจะขาดสิ่งใดไป จึงทำให้ขนมสู้ของครอบครัวจงไม่ได้เลยสักนิด จึงเกิดความโกรธ สุดท้ายจึงจ้างกลุ่มอันธพาลเหล่านั้นมาหาเรื่อง เพื่อให้กลัวและไม่กล้ามาขายอีก
“เพียงแค่พวกเราต้องการหาเงิน ทำให้คนพวกนั้นไม่พอใจขนาดนี้เลยหรือขอรับ” ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ
“ความโลภ ความริษยา เป็นสิ่งที่คนทุกคนมี เพียงแต่คนเหล่านั้นมีมากเกินไป”
“แล้วพวกข้าต้องทำอย่างไรเจ้าคะ ต้องเลิกขายขนมใช่หรือไม่ คนเหล่านั้นจึงจะพอใจ” ถ้านางไม่มาขายขนมตั้งแต่แรก หลานสาวของนางคงไม่ต้องมาเจ็บเช่นนี้
“พวกท่านไม่ต้องทำอันใด ข้าจะทำให้คนเหล่านั้นมาชดใช้ให้ท่านเองขอรับ” หลานวั่งจีได้ส่งคนของเขาไปจัดการกับผู้ว่าจ้างแล้ว
คนเหล่านั้นทำให้น้องสาวของเขาอดกินขนม พวกมันก็ต้องได้รับผลกรรมจากสิ่งที่ทำลงไป ผู้เป็นพี่ชายที่รักน้องสาวมากๆ เช่นเขายอมไม่ได้
อีกอย่างภาพของเด็กตัวน้อยที่ลอยอยู่กลางอากาศและหล่นดังตุบ ยังติดตาเขาไม่จางหาย