โซ่อันงามงอน

โซ่อันงามงอน

book_age16+
165
FOLLOW
1K
READ
HE
submissive
drama
bxb
mystery
nerd
campus
highschool
enimies to lovers
dystopian
surrender
office lady
prostitute
like
intro-logo
Blurb

จะเป็นอย่างไรถ้าหากอยู่ ๆ โดนขายเข้าอยู่ไปอยู่ในสถานบริการ เวหาที่กำลังจะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยกลับถูกพ่อเลี้ยงขายให้หอนฤมิต ผู้เป็นแม่เองก็ไม่รอดเช่นกัน และเมื่อเวหากับแม่ถูกจับแยกกัน นั่นทำให้เขาไม่อาจรู้ชะตากรรมของแม่รวมถึงไม่รู้ชะตาชีวิตของตัวเองด้วย

ที่หอแห่งนี้เวหาต้องดิ้นรนเพื่อจะได้กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม ได้กลับไปเรียนหนังสือ แต่หนี้สามล้านก็กักขังเขาไว้ที่นี่ ในความโชคร้ายยังมีโชคดี เวหาได้พบกับผู้คนที่จะกลายมาเป็นเพื่อน กลายมาเป็นเหมือนคนในครอบครัว และที่สำคัญ คือ คาธ ผู้จัดการของหอนฤมิตที่จะทำให้ใจของเวหาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

chap-preview
Free preview
บทนำ การพบกัน
คุณเคยเจอเหตุการณ์ที่เหมือนผลักคุณลงสู่ก้นเหวในขณะที่คุณใกล้จะถึงยอดเขาแล้วไหมครับ และขณะที่อยู่ในก้นเหวนั้นดันเกิดความแย้งย้อนภายในเพราะได้เจอความงดงามที่ก้นเหวนั้น ***** ผมได้แต่มองชายที่กำลังเดินเข้ามาเรื่อย ๆ เหมือนหัวใจของผมจะหยุดเต้น ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจมันเหมือนกันเพราะไม่เคยใช้หัวใจไปกับเรื่องพวกนี้มาก่อน คนคนนั้นเส้นผมดำขลับ ใบหน้าคม สันจมูกตรงโด่งเด่นชัด เขาเหมือนรูปปั้นเทพบุตร แต่ว่าต่างออกไปจากเทพบุตรที่เคยจินตนาการ คงเป็นเพราะแววตาที่เศร้าสร้อย ทำให้เหมือนมีเมฆหมอกสีเทาปกคลุมอยู่รอบตัว และทุกย่างก้าวที่เขาเข้ามาใกล้ มันทำปฏิกิริยากับใจของผมจนปั่นป่วนไปหมด เขาพุ่งตรงมายืนประจันหน้ากับผม นัยน์ตาลึกล้ำเหมือนปริศนาภาพของเขาจ้องเขม็งมาในตาผม เล่นเอาผมต้องถอยกรูดจนปะทะกับกำแพงเย็นเยียบ… ขะ… เขาจะทำบ้าอะไรน่ะ เขาเอามือยันผนังก่อนจะก้มศีรษะลงมาเล็กน้อย ใบหน้าของเขาโน้มลงมาใกล้… ใกล้จนผมกลัวว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวใจของผมที่เต้นไม่เป็นจังหวะ น้ำเสียงเรียบเฉยถูกเปล่งออกมาจากปากของเขา “นายรู้หรือเปล่า ว่าที่นี่… คือที่แบบไหน ถ้าไม่ได้อยากมาเองก็รีบหนีกลับไปซะ” ผมไม่เข้าใจที่เขาพูดหรอกครับ ผมยังหัวตื้อ ...ก็เพราะเขานั่นแหละ คนที่ทำให้ผมไม่อาจละสายตาและความคิดไปจากเขาได้ อีกอย่างผมก็ไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ผมแค่แวะมาทำธุระกับที่บ้าน “เว เข้ามานี่สิ” เสียงที่ผมไม่อยากได้ยินตะโกนเรียกดังมาตามทางเดิน ผมหันไปมองตาม ถึงได้เห็นพ่อเลี้ยงยืนจ้องอยู่หน้าห้องตรงสุดทางนั่น แต่ผมจะไปไหนได้ในเมื่อเทพบุตรตรงหน้ายังยืนจ้องหน้าผมไม่เลิก แถมสองแขนของเขาก็ยังยันกำแพงเอาไว้ทั้งซ้ายขวา “ไอ้เว กูเรียกทำไมมึงยังไม่มาอีก!” เสียงตะโกนของพ่อเลี้ยงดังขึ้นอย่างกรรโชกอีกครั้งจนผมสะดุ้ง ชายตรงหน้าลดแขนของเขาลง ผมได้แต่หลบสายตาของเขาแล้วหมุนตัวไปยังทิศทางที่ต้องไป ผมไม่อยากไปหรอกครับ ไม่ใช่เพราะอยากจะอยู่มองหน้าคนที่ยังตรึงผมให้อยู่กับกำแพงด้วยสายตา แต่เป็นเพราะผมเกลียดพ่อเลี้ยงคนนี้ คุณคงจะคิดว่าแล้วจะไปทำไม อยู่กับคนแปลกหน้าต่อยังดีเสียกว่า ผมก็เห็นด้วยครับ แต่ผมก็ไม่กล้าขัดใจพ่อเลี้ยง ผมเดินไปหาผู้ชายที่ยิ้มอย่างน่ารังเกียจ ไม่อยากจะมองเลย แต่ผมต้องรีบไปห้องนั้นเพราะเขาพาแม่แท้ ๆ ของผมเข้าไปให้ในห้องนั้นนานแล้ว ก่อนผมจะเดินผ่านประตูเข้าไปสายตามันก็หันไปกลับมองชายคนนั้นโดยอัตโนมัติ เขายังอยู่ท่าเดิมแต่กำมือแน่น เขาเป็นอะไรหรือเปล่านะ ก่อนที่ผมจะได้สังเกตอะไรต่อด้านหลังคอเสื้อผมก็ถูกขยำแล้วดันให้เข้าห้อง “แม่ล่ะครับ” ผมถามทันทีเพราะคนที่ผมคิดว่าควรนั่งอยู่ที่นี่กลับไม่อยู่ ในห้องมีเพียงผม พ่อเลี้ยง และหญิงวัยกลางคนที่เดาอายุไม่ถูก เธอสวยสง่าแต่ดูแฝงไปด้วยความอันตราย เธอมองหน้าผมแล้วเหยียดยิ้มก่อนจะหันไปบอกพ่อเลี้ยงของผม “คนนี้พอได้” “ขอบคุณมากครับ” พ่อเลี้ยงผมตอบทันที เขาถูฝ่ามือแล้วยิ้มกว้าง สายตามองไปยังผู้หญิงคนนั้นที่กำลังเซ็นเช็ค  “ผมถามว่า…” เสียงที่กำลังเปล่งออกมาอย่างดังของผมขาดห้วงเมื่อเจอสายตาของทั้งคู่ พ่อเลี้ยงมองผมตาเขียว ทำให้เสียงที่ถามต่อของผมนั้นเบาเหมือนเสียงแมลงบิน “แม่อยู่ไหน” “แม่แกได้งานทำใหม่แล้ว แกก็เหมือนกัน” ชายตรงหน้าผมตอบและเผยรอยยิ้มดุจปิศาจ ผมรู้สึกใจไม่ดีเสียแล้ว ผมกลอกตามองหาแม่ในทันที ห้องนี้มีประตูบานอื่น เธออาจจะอยู่หลังประตูบานนั้น “ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นหรอก ให้เขาเซ็นนี่ซะ” ผู้หญิงวัยกลางคนซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของที่นี่วางกระดาษบนโต๊ะพร้อมกับโบกเช็คในมือ ถึงผมจะไม่ได้ฉลาดอะไรมากแต่ก็พอรู้ว่าที่นี่คือซ่องดี ๆ นี่เอง ผมถามพ่อเลี้ยงตั้งแต่เขาเลี้ยวมาในเขตปกครองพิเศษ ย่านนิมมานรดี เขาบอกว่าแค่จะมาหาเพื่อนก่อนไปส่งผมที่มหาวิทยาลัย พ่อเลี้ยงเข้ามากระชากแขนผมทันทีเมื่อเท้าของผมขยับถอยหลัง ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้มือทั้งสองที่กำแน่นของผมคลายออก ยังไงผมก็จะไม่ยอมเซ็น ผมรู้ว่าเขาเป็นผีพนันและมาย่านนี้เป็นประจำเพื่อเข้ากาสิโนซึ่งอยู่อีกฟากของที่นี่ ถึงเขาจะชอบทุบตีผม แต่ไม่คิดว่าเขาจะชั่วร้ายถึงขนาดเอาผมกับแม่มาขาย “มึงเซ็นซะ เซ็นเดี๋ยวนี้” เขาเปล่งเสียงกรรโชกใส่ผม “ไม่ ยังไงผมก็ไม่ยอมมาทำงานที่นี่ ผมต้องไปมหา’ลัย...” ผมเถียงกลับเสียงดัง “มึงว่าไงนะ” พ่อเลี้ยงของผมตวาดกลับ เขานี่มันอัปลักษณ์จริงๆ และความอัปลักษณ์นั้นก็เป็นที่นิสัยของเขา จิตใจเขามันน่าเกลียดเสียงยิ่งกว่าหน้าตาเสียอีก ชายที่นิสัยอัปลักษณ์ยิ่งกว่าหน้าตาดึงตัวผมไปใกล้แล้วกระซิบที่ข้างหู “จำได้ไหมรอยแผลที่หลังมึงได้มายังไง ลองขัดใจกูอีกซิ แล้วมึงจะได้เห็นสภาพแม่มึงแบบนั้นอีก” ภาพที่แม่ของผมถูกเขาทำร้ายร่างกายจนตัวเขียวช้ำลอยกลับมาเข้ามาในหัว ทุกครั้งที่ผมเข้าไปห้ามก็จะโดนเขาตบ ต่อด้วยหัวเข็มขัดที่ฟาดเข้ามากลางหลังอย่างเต็มแรง ความเจ็บปวดนั้นไม่เคยจางหายไปจากความรู้สึกของผม ผมยังจำแม้กระทั่งกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งอยู่ในปากของผมได้ดี ร่างกายของผมตอบสนองต่อเสียงของเขาโดยอัตโนมัติ คำพูดนั้นทำตัวของผมเกร็ง ผมอยากจะตะโกนด่าหรือสวนหมัดเข้าหน้าเขาให้หงายคว่ำ แต่ผมก็ไม่กล้า ทำได้เพียงยืนตัวสั่นให้เขายิ้มเยาะ ผมละสายตาจากรอยยิ้มนั้นเมื่อข้อมือของผมเจ็บเหมือนโดนเหล็กรัด ผมพยายามจะสะบัดมือของเขาออก แต่สัตว์นรกตัวนั้นกลับกระชากลากตัวผมไปหาหญิงวัยกลางคนที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่หลังโต๊ะ “นี่! อย่าทำเขาเป็นรอยซิ” เธอตะโกนลั่นจนพ่อเลี้ยงของผมปล่อยมือทันที เขาหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด พ่อเลี้ยงของผมโค้งหัวให้เธอ ผมเพิ่งเคยเห็นเขาทำแบบนี้กับคนอื่น สายตาของผมมองกลับไปที่ผู้หญิงคนนั้นเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของเธอ เธอจ้องผมกลับเหมือนผมเป็นแค่แมลงตัวเล็ก ๆ เรียวนิ้วของเธอเคาะลงบนโต๊ะใกล้ ๆ เอกสารแผ่นหนึ่ง “จะไปเรียนคนเดียว แล้วปล่อยแม่ไว้ให้ลำบากที่นี่เหรอ คิดดี ๆ น้า... ไม่งั้นอาจจะไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้วก็ได้” พ่อเลี้ยงเปลี่ยนจากข้อมือมาขยำหลังเสื้อคอผมแล้วลากไปยืนหน้าโต๊ะนั่น เหงื่อของผมชุ่มฝ่ามือ ผมต้องพยายามกำมือตัวเองต้านแรงแกะของอีกคน เขาพยายามยัดปากกาเข้ามาในมือ หญิงคนนั้นมองหน้าผมแล้วทำปากเหมือนจะพูดคำว่า ‘แม่’ แต่ไม่มีเสียงลอดออกมา เธอเหยียดยิ้มหยัน ผมคลายมือออกเพื่อจับปากกา อ่านกระดาษนั่นครู่หนึ่งก่อนหลับตา แล้วจำใจเซ็นชื่อ ‘เวหา’ ลงไป เสียงปรบมือดังขึ้นหนึ่งครั้งทำให้ผมลืมตา แล้วมีเสียงเปิดประตูดังขึ้นทางด้านหลังเรียกให้ผมหันกลับไปมอง คนที่ขายผมเรียบร้อยแล้วถือเช็คก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว เขาสวนกับพ่อเทพบุตรที่ผมเพิ่งได้เจอก่อนเข้ามาในห้องนี้ ชายคนนั้นเดินมายืนข้างผมแต่สายตามองหญิงที่เพิ่งซื้อตัวผมไป ผมอ่านสายตานั้นไม่ออก มันช่างดูว่างเปล่าเสียเหลือเกิน “เด็กใหม่ เธอจัดการด้วยคาธ” เธอบอกพร้อมกับหยิบสัญญาที่ผมเพิ่งลงชื่อมาดู ก่อนจะเก็บมันลงลิ้นชัก ให้ตายเถอะทำไมผมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย  “เดี๋ยวครับ” เสียงของผมทำให้เธอช้อนตาขึ้นมอง “ในสัญญาระบุว่าถ้าผมหาเงินมาไถ่ตัวเองได้ผมจะเป็นอิสระใช่ไหม” “รอบคอบดี ใช่ หาเงินให้ได้ล่ะ สามล้าน” เธอเหยียดยิ้มเยาะอีกครั้งเพราะรู้ว่าผมคงไม่มีเงินมากขนาดนั้นมาคืนให้ ราคาชีวิตของผมตอนนี้ คือ สามล้านบาท ซึ่งสามล้านอาจจะดูสูงไปสำหรับลูกคนใช้แบบผมด้วยซ้ำ เธอยิ้มอย่างอารมณ์ดีและพูดต่อ “นี่ยังไม่รวมกับของแม่เธอนะ” “แม่ผมอยู่ไหน” ผมแผดเสียงลั่น “จะให้เธอชื่ออะไรดีน้า...” ผู้หญิงคนนี้พึมพำกับตัวเอง เธอไม่ฟังอะไรผมเลย น่าหงุดหงิดชะมัดคนแบบนี้ ผมหันไปหาชายคนข้าง ๆ เขาเหมือนเป็นหุ่นยืนนิ่งไปเสียแล้ว คงเพราะผู้หญิงคนนี้แหละ น่ากลัวเสียจริง เธอหันมามองหน้าผมอีกครั้ง “เวหาเหรอ งั้นชื่อสีฟ้าแล้วกัน” “ผมชื่อเว”  “เธอคงไม่อยากใช้ชื่อจริง ๆ ทำงานที่นี่หรอกเชื่อฉันสิ ทุกคนก็มีชื่อในวงการทั้งนั้น” เธอบอกและยิ้มอย่างผู้ชนะเมื่อควบคุมความคิดของผมได้ ผมเถียงไม่ออก ถ้าผมกลับไปเรียนผมก็ไม่อยากให้ใครรู้หรอกว่าเคยมาทำงานที่นี่ เธอยกมือโบกไล่พวกเรา “คาธ เธอพาเด็กคนนี้ออกไปได้แล้ว” ผมหันไปมองชายที่ชื่อคาธ ชื่อแปลกชะมัด ชื่อในวงการเหมือนกันหรือ เขาหันมาสบตากับผมแล้วเดินนำไปยังประตู สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้มีเพียงก้าวเท้าตามเขาออกไป

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

ไฟผลาญ

read
1K
bc

ตราบมนตรา

read
1.0K
bc

ผมรักนายmy bad boy (Mpreg)

read
1.2K
bc

ขยับเพื่อนเลื่อนเป็นรัก

read
1K
bc

Light in the Dark เปลี่ยนร้ายให้เป็นรัก

read
1K
bc

ตรวนใจนายหัว

read
1.3K
bc

หนุ่มร้อนรัก

read
2.0K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook