“คนไข้ไปโดนอะไรมาครับ” เมื่อมาถึงโรงพยาบาลยิปโซถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินเพื่อให้หมอเช็คตรวจดูอาการและทำแผล โดยมีเพื่อนทั้งสามรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินไม่ห่าง
ยิปโซที่เห็นหน้าหมอหนุ่มครั้งแรกถึงกับสตั้นไปกับความหล่อออร่าของหมอที่ดูยังไงก็เหมือนไอดอลเกาหลีไม่มีผิด ก่อนจะได้สติเมื่อเห็นว่าหมอหนุ่มมองหน้าเธอเพื่อรอคำตอบ
“เศษแก้วบาดค่ะ”
“เศษแก้ว?”
“ค่ะ” ยิปโซตอบหมอแบบขอไปทีด้วยใบหน้าสุดเซ็งเมื่อเห็นแขนเนียนสวยของตัวเองที่ตอนนี้มีแต่บาดแผลและไม่รู้ว่าจะมีรอยแผลเป็นตามมารึเปล่า
“หมอขออุปกรณ์เย็บและล้างแผลครับ” หมอหนุ่มหันไปบอกพยาบาลให้เตรียมอุปกรณ์ทำแผลให้ พร้อมกับหยิบถุงมือมาใส่เพื่อเตรียมทำแผล
“ทำไมไม่ให้พยาบาลล้างค่ะ” ด้วยความสงสัยทำให้ยิปโซเอ่ยถามกับหมอหนุ่มออกไปแต่ไม่ได้คำตอบ ใบหน้าหล่อของหมอยังคงนิ่งบวกกับแววตาเรียบเฉยมองมาที่ร่างเล็กที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้เท่านั้น
“ต้องเย็บแผลครับหรือว่าจะให้พยาบาลเย็บให้”
“เออ หมอดีกว่าค่ะ”
“แผลตรงท้องแขนลึกต้องเย็บ”
เมื่อพยาบาลเตรียมอุปกรณ์ทำแผลให้เรียบร้อย ก่อนจะปิดม่านเพื่อให้คุณหมอรามเย็บแผลได้สะดวก ร่างบางที่มองไปยังเครื่องมือเย็บแผลสลับกับหน้าหมอ ตอนนี้เธอไม่รู้จะกลัวอะไรก่อนดี เพราะหน้าหมอที่กำลังจะเย็บแผลเธอนิ่งจนไม่สามารถอ่านความรู้สึกของเขาได้
“เบา ๆ นะหมอ”
“ตอนมีเรื่องทำไมไม่บอกตัวเองแบบนี้บ้างครับ ทำไมไม่เตือนสติตัวเองก่อน” คำพูดที่สุภาพแต่เหมือนถูกเข็มนับร้อยทิ่มที่ใจรู้สึกเจ็บจี๊ดกับคำพูดของหมอแต่ก็ได้แค่ด่าในใจและไม่สามารถให้หมอรับรู้ได้ ไม่งั้นเธออาจจะไม่มีชีวิตรอดออกไปจากโรงพยาบาลนี้
เข็มฉีดยาที่บรรจุยาชาถูกเตรียมเอาไว้ เมื่อซิปโซเห็นเข็มฉีดยาใบหน้าสวยรีบหันหน้าหนีทันที เพราะชีวิตนี้เธอกลัวเข็มยิ่งกว่าอะไรดี
เข็มแหลมค่อย ๆ ถูกจิ้มลงบนผิวเนียนของซิปโซความเจ็บแปลบทำให้เธอเกร็งแขนและตัวไปชั่วขณะ กัดฟันข่มความเจ็บเอาไว้ ถึงแม้ว่าหมอจะมือเบาก็ตามแต่ยังไงก็รู้สึกเจ็บอยู่ดี
“หมอไม่เย็บได้ไหม”
“กลัว?”
“กลัวสิ ถามได้”
“กลัวก็ควรดูแลตัวเองไม่ใช่ไปมีเรื่องตบตีแบบนี้” เสียงเข้มของหมอทำให้ซิปโซรู้สึกเหมือนโดนหมอด่าโดยใช้คำสุขภาพทั้งที่เขาอายุห่างจากเธอไม่กี่ปีและดูเหมือนเป็นนักศึกษาแพทย์อยู่ด้วย
“ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ”
“ผมไม่ได้เป็นห่วงครับ ผมกลัวว่าจะลำบากบุคลากรทางการแพทย์มากกว่าที่ต้องมาดูแลอันธพาลแบบคุณ” แต่ละคำพูดของหมอทำให้ยิปโซอยากจะกรี๊ดใส่หูของหมอให้รู้แล้วรู้รอด หมออะไรปากร้ายสิ้นดีถ้าไม่ติดว่าเขากำลังถือเข็มอยู่เธอจะถีบหน้าหล่อ ๆ เข้าให้
“เย็บสักทีเถอะค่ะหมอ” คุณหมอหนุ่มไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใด เขาใช้เข็มจิ้มลงบนผิวเนียนละเอียดโดยไม่ให้เธอตั้งตัวแม้แต่น้อย ใบหน้าสวยหันหน้าหนีด้วยความกลัว กัดฟันตัวเองข่มความกลัวภายในใจถึงแม้จะไม่เจ็บแต่เธอก็รู้สึกได้
“เสร็จแล้ว ผมจะให้คุณนอนโรงพยาบาลหนึ่งคืน”
“ไม่นอนค่ะ”
“นอน”
“ไม่นอนค่ะ”
“เถียงหมอเหรอครับ”
“ฉีดยากันบาดทะยักแล้วไม่จำเป็นต้องนอนมั้งหมอ และไม่ประสงค์จะนอนด้วย”
“ไม่ได้ คืนนี้คุณจะมีไข้และแผลอาจจะอักเสบ” พยาบาลวอร์ดฉุกเฉินต่างพากันตกตะลึงเมื่อคุณหมอรามที่เป็นบุคคลนิ่งเงียบยืนเถียงกับคนไข้สาวสวยอย่างไม่มีใครยอมใคร น้อยครั้งหรือแทบไม่เคยเห็นหมอหนุ่มจะยืนเถียงหรือพูดคุยกับคนไข้มากเป็นพิเศษ
“คุณหมอค่ะ ฉันดูแลตัวเองได้ค่ะ แค่นี้เอง”
“เฮ้อ!!งั้นก็รบกวนคนไข้มาล้างแผลทุกวันจนกว่าแผลจะแห้งด้วยนะครับ” เมื่อยืนเถียงจนเหนื่อย หมอรามได้แต่ถอนหายใจกับความดื้อรั้นของคนไข้คนนี้ ก่อนที่จะถอนหายใจเฮือกใหญ่และเดินไปบอกพยาบาลก่อนจะเดินออกจากห้องฉุกเฉินไป
“เป็นไงบ้างโซ”
“เย็บสามเข็มเอง”
“พี่หมอรามใช่ไหมที่เป็นคนเย็บแผลให้แก” ใบหน้างุนงงของยิปโซเมื่อเจอคำถามของมะปรางที่เห็นหมอรามเดินออกจากห้องฉุกเฉินและตามมาด้วยยิปโซ
“นักศึกษาแพทย์คนเมื่อกี้เหรอ”
“ก็ใช่ไง คนเมื่อกี้แหละพี่หมอราม”
“คนหรือหุ่นยนต์”
“หล่อมาก ยิ่งใส่เสื้อกาวน์ยิ่งกาวใจมะปรางยิ่งนัก” ใบหน้าเพ้อฝันของมะปรางเมื่อพูดถึงหมอราม ยิ่งทำให้ซิปโซหมั่นไส้
“หล่อแต่นิ่งไปหน่อย ใครได้เป็นแฟนคงซวยที่ต้องมานั่งเดาใจ”
“ก็คนนี้ว่าที่แฟนในอนาคตของแก ที่แกควรจะเร่งมือจีบ”
“ท่องไว้ ทำให้ยัยไข่มุกมันเห็นว่ามันไม่ได้เก่งหรือสวยกว่าแกที่สามารถแย่งแฟนแกได้” คำพูดของมะปรางชวนให้ยิปโซครุ่นคิด ถ้าเธอสามารถจีบหมอรามคนนี้เป็นแฟนได้ ก็สามารถลบคำสบประมาทของยัยไข่มุกได้เช่นกัน
“แต่ฉันไม่เคยจีบผู้ชาย”
“โอ๊ย!!ด้านได้อายอด ท่องเอาไว้เพื่อน”
“งั้นวันนี้กลับไปตั้งหลักก่อนแล้วกัน ตอนนี้ฉันเพลียมากไปส่งที่คอนโดด้วย” ด้วยความเพลียและแผลที่กำลังเล่นงานเธอ ทำให้ยิปโซรีบกลับคอนโดเพื่อคืนนี้เธอต้องเป็นไข้ตามที่หมอรามบอกแน่นอน
วันต่อมาร่างบางหอบสังขารตัวเองมาล้างแผลที่โรงพยาบาลโดยมีมะปรางอาสามาส่ง ใบหน้าสวยของยิปโซซีดเผือดไปด้วยพิษไข้ที่เล่นงานเธอตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้แต่จำเป็นต้องหอบสังขารมาล้างแผล เพราะกลัวว่าแผลจะอักเสบจนติดเชื้อ
“เตือนแล้วไม่ฟัง” ร่างบางนั่งให้คุณหมอหนุ่มคนเดิมล้างแผลให้ ด้วยสมองที่สะลึมสะลือเธอไม่ได้ฟังที่หมอดุเธอแต่อย่างใดเพราะตอนนี้ร่างกายต้องการเตียงนุ่ม ๆ มากกว่า
“คนไข้ทานยาแก้ไข้รึยัง”
“ทานแล้วค่ะ”
“ล้างแผลเสร็จแล้ว คนไข้จะแอดมิทที่โรงพยาบาลไหมครับ”
“ไม่ค่ะหมอ ขอบคุณ” ร่างบางของยิปโซเดินลงจากเตียงคนไข้และด้วยพิษไข้ทำให้เธอเซจะล้มลงกับพื้นแต่ดีที่หมอรามรับร่างบางเอาไว้ได้ทัน ทำให้ตอนนี้ยิปโซเซไปอยู่ในอ้อมอกของหมอราม
“เออ ขอบคุณค่ะหมอ ขอตัว”
“ดื้อจริง ๆ” เสียงพึมพำของหมอรามที่มองตามหลังของยิปโซที่เดินออกจากห้องฉุกเฉินไป ปล่อยให้คุณหมอสุดหล่อยืนมองแผ่นหลังเล็กเงียบ ๆ
“หมอรามออกเวรแล้วเหรอครับ” เสียงของลุงยามเอ่ยทักหมอรามที่กำลังเดินไปยังลานจอดรถของเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์หลังจากที่ล้างแผลให้กับยิปโซเสร็จ
“ครับ”
“ช่วงนี้เห็นอยู่เวรยาวเลยนะหมอ”
“ครับ” ลุงยามคุ้นชินกับการพูดน้อยของหมอรามแต่แกมักจะรู้ว่าหมอรามเป็นคนใจดี ชอบชื่อขนมและเครื่องดื่มมาฝากอยู่บ่อย ๆ
ช่วงนี้เป็นเหมือนที่ลุงยามทัก เขาอยู่เวรสองวันติดจนไม่มีเวลากลับคอนโดจึงอาศัยห้องพักของนักศึกษาแพทย์ไปพลาง ๆ เรียนหมอแทบจะไม่มีเวลาเลยด้วยซ้ำ ยิ่งปีสุดท้ายแทบจะไม่มีเวลาได้พัก ไหนจะขึ้นวอร์ด อยู่เวรและต้องกลับไปเรียนที่มหาลัยอีก