โรสลินไม่กล้าทำละล้าละลังอยู่อย่างนั้น และแล้วก็ราวกับสวรรค์เห็นใจ ธาวินเดินมาบอกกมลลักษณ์ว่าพิธีเปิดพร้อมแล้ว ให้หยุดกิจกรรมสันทนาการเอาไว้เท่านี้ก่อน
ด้วยความเกรงใจทำให้กมลลักษณ์ต้องบอกเพื่อนของเธอให้หยุดก่อน การกระทำของธาวินทำให้โรสลินรอดพ้นจากการต้องทำท่าทางลามกและน่าอาย
เธอมองไปยังคนที่ยืนพิงเสาอยู่อย่างเดิมด้วยสายตาขอบคุณจากหัวใจ เด็กสาวกลับไปเข้าแถวดังเดิมเมื่อกิจกรรมสันทนาการสิ้นสุดลง
....
หลังจากกล่าวเปิดงานเสร็จไปเป็นที่เรียบร้อย การเล่นค่ายก็เริ่มต้นขึ้น เริ่มจากการแยกห้องนอนโดยการเล่นเหยียบลูกโป่ง นั่นก็ทำให้ผลออกมาว่าโรสลินและตะวันวาดก็ได้นอนห้องเดียวกัน
ห้องพักของค่ายเป็นสัดส่วนชัดเจน มีตู้ล็อกเกอร์ กระจก เครื่องใช้ส่วนตัวเล็กน้อยอาทิ สบู่ ยาสีฟัน เป็นต้น เตรียมไว้ให้เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว
เมื่อจัดข้าวของเสร็จ ทุกคนก็ต้องไปเข้าร่วมกิจกรรมค่าย ไปนั่งฟังบรรยาย เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับวิชาธุรกิจเบื้องต้น การทำบัญชีเล็ก ๆ น้อย ๆ หลังจากนั้นในช่วงเที่ยงทั้งหมดก็ได้ร่วมรับประทานอาหารหม้อเดียวกัน นั่นคือ ข้าวผัดกะเพราไข่ดาวนั่นเอง
เมื่อรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จแล้ว กิจกรรมในช่วงบ่ายคือการวอล์กแรลลี หรือก็คือการเดินเข้าตามฐานที่จัดไว้ โดยในวันแรกนี้นั้น มีทั้งหมดห้าฐานด้วยกัน
ฐานแรกจะเป็นฐานเกี่ยวกับการคิดโจทย์ปัญหาเชาวน์ ซึ่งก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของนักเรียนชั้นมัธยมปลายเท่าไรนัก
ฐานที่สองเป็นฐานที่ว่าด้วยสัมผัสทั้งห้า ฐานนี้มีทั้งภาพปริศนาในกล่องทึบ ให้ทายกลิ่นของผลไม้ ให้ทายรสของผลไม้เปรี้ยว ๆ ชนิดหนึ่ง สุดท้ายคือการล้วงมือลงไปในไหเพื่อตรวจสอบว่าในไหมีอะไร
ฐานที่สามเป็นฐานเกี่ยวกับความแม่นยำ น้องค่ายทุกคนจะได้รับห่วงเล็ก ๆ คนละห้าห่วง โดยทุกคนจะต้องโยนห่วงนั้นลงขวดที่ตั้งอยู่ห่างออกไปได้
ฐานที่สี่เป็นฐานที่เกี่ยวกับความสามัคคี โดยที่น้อง ๆ ทุกคนจะได้แบ่งทีมออกเป็นสามทีม ให้แข่งกันใช้ตะเกียบคีบสิ่งของชิ้นเล็ก ๆ เช่น ลูกปัด เมล็ดถั่วเขียว เข้าไปในกล่องของทีมตัวเอง โดยของแต่ละชิ้นมีราคาไม่เท่ากัน
และฐานสุดท้ายฐานที่ห้า เป็นฐานที่จะเชื่อมต่อไปยังกิจกรรมกลางคืนนั่นคือ ฐานที่ว่าด้วยคาถาคุณไสยมนตร์ดำ ซึ่งน้องค่ายก็แยกไม่ออกว่านี่เป็นการแกล้งหรือพี่ ๆ เล่าจริง
กิจกรรมตลอดทั้งวันดำเนินไปด้วยความสนุกสนาน เด็ก ๆ ทุกคนได้ยิ้มได้หัวเราะอย่างมีความสุข รวมถึงตัวโรสลินด้วยเช่นกัน
ช่วงเย็นพี่ค่ายก็ให้เวลาอิสระ เพื่อให้เหล่ารุ่นน้องมัธยมปลายได้เดินเที่ยวชมบรรยากาศและอาบน้ำอาบท่า ก่อนจะมาร่วมกินข้าวด้วยกันและทำกิจกรรมช่วงหัวค่ำ หลังจากโรสลินอาบน้ำเรียบร้อย เธอเห็นว่ายังมีเวลาอยู่อีกครู่หนึ่งจึงลองเดินสำรวจพื้นที่โดยรอบ แต่ลึก ๆ ในใจ เด็กสาวหวังว่าจะได้บังเอิญเจอกับธาวิน เธอจะได้ใช้โอกาสนั้นเข้าไปทักทายพูดคุยกับเขา ซึ่งโรสลินก็เจอกับเขาจริง ๆ เพียงแต่ธาวินกำลังคุยอยู่กับคนอื่น เด็กสาวจึงไม่กล้าเข้าไปขัด
ช่วงหัวค่ำมีกิจกรรมปิดท้ายก่อนเข้านอนอีกเล็กน้อย โดยพี่ค่ายเปิดเพลงให้พวกเขาได้โยกย้ายส่ายสะโพกกระโดดโลดเต้นสะบั้นหั่นแหลกแล้วโรสลินกับเพื่อนก็ต้องยอมเต้นไปด้วย
กิจกรรมของวันนั้นสิ้นสุดลงช่วงประมาณสี่ทุ่ม และแม้หลายคนจะมีเหงื่อออกแต่ด้วยอากาศที่ค่อนข้างเย็น พวกเขาจึงเข้านอนโดยไม่คิดอาบน้ำรอบสอง จะมีแค่บางคนเท่านั้นที่เตรียมเสื้อผ้าข้าวของไปอาบน้ำอีกหน โรสลินกับตะวันวาดก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ไปอาบน้ำซ้ำก่อนเข้านอน หลังออกมาจากห้องน้ำด้วยความที่รอบข้างค่อนข้างมืด แสงดาวบนฟ้าจึงสว่างชัดเธอจึงเหม่อมองอยู่ครู่ใหญ่ระหว่างรอให้ตะวันวาดออกมาจากห้องน้ำ
ด้วยเหตุนั้นในช่วงค่ำคืนเมื่อเธอรู้สึกนอนไม่หลับ โรสลินถึงได้ออกมาดูดาวที่ด้านนอกโดยไม่ลังเล
ระหว่างนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปเพลิน ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “ทำไมยังไม่นอน พรุ่งนี้ยังต้องทำกิจกรรมอีกนะ เดี๋ยวก็ไม่ไหวหรอก”
“พี่ภีม” เธอเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงแผ่ว ก่อนเอ่ยตอบ “โซ่ยังไม่ค่อยง่วงน่ะค่ะ ก็เลยออกมานั่งรับลม”
“ไม่ง่วงก็ต้องนอน อีกอย่างมานั่งตากน้ำค้างแบบนี้เดี๋ยวก็เป็นหวัด”
“แค่แป๊บเดียวเอง” เธอบ่นมุบมิบ แต่ดูเหมือนรอบข้างจะเงียบเกินไป เขาถึงได้ยินคำพูดของเธอ
“เดี๋ยวนี้ดื้อกับพี่เหรอ” ชายหนุ่มถามเสียงดุ จนผู้ฟังต้องเงยหน้าขึ้นมองก่อนเบะปากคล้ายไม่ชอบใจ
“แน่ะ! ไม่เจอกันแป๊บเดียวมีการมาเบะปากใส่”
โรสลินเม้มปากทันควัน ก่อนจะดึงความคิดตั้งสติไม่คล้อยตามเขา พลอยคิดในใจ ‘ยังมีหน้ากล้ามาว่าเราทั้งที่ตัวเองหายไปไม่ค่อยมาหาแท้ ๆ’
“ทำหน้าแบบนั้นแอบบ่นพี่อยู่ในใจเหรอ”
ประโยคนั้นทำให้เด็กสาวรีบยกมือขึ้นมาจับแก้ม พลางนึกว่าเขามองเห็นได้อย่างไรในเมื่อรอบข้างก็มืดเสียขนาดนี้ มิหนำซ้ำบริเวณที่เธอนั่งอยู่มีแค่แสงไฟสลัวซึ่งมาจากดวงไฟที่ติดตั้งห่างออกไปไกล ๆ เท่านั้น
“พี่ภีม” เธอเรียกเขาเสียงขุ่นแต่ไม่ดุกร้าวเท่าที่ควร ติดจะเง้างอนเสียด้วยซ้ำ
ครั้นชายหนุ่มขยับเท้ามาหย่อนตัวลงนั่งเคียงข้าง เธอถึงประจักษ์แจ้งในข้อสงสัย เนื่องจากโรสลินก็สามารถเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายได้แม้อยู่ในความสลัวราง
“ไม่เจอกันตั้งนานเป็นอย่างไรบ้าง”
ในวินาทีนั้นเด็กสาวรู้สึกเหมือนบรรยากาศเก่า ๆ ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนได้หวนกลับมาอีกหน พี่ชายคนสนิทแสนดีที่คอยดูแล คอยเล่นกับเธออยู่เสมอเมื่อวันวาน กลับมาอยู่เคียงข้างเธออีกครั้ง ทำให้ความเหงา ความน้อยใจจางหาย รวมถึงความคิดถึงที่มีให้เขาได้รับการบรรเทาให้เบาบาง
ชายหนุ่มเด็กสาวนั่งพูดคุยสัพเพเหระท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบกันอีกครู่ใหญ่ก่อนฝ่ายชายจะบอกให้เธอกลับไปนอน
โรสลินบอกราตรีสวัสดิ์พี่ชายคนสนิทก่อนแยกตัวออกมาด้วยหัวใจที่อิ่มเอม คืนนั้นเธอนอนหลับฝันดีอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมานาน
ความสุขในใจบังเกิดขึ้นยาวนานต่อเนื่องจนกระทั่งถึงเช้าวันถัดมา เด็กสาวตื่นด้วยความกระปรี้กระเปร่า สูดกลิ่นอายยามฟ้าสางด้วยความสดชื่น
สำหรับรายละเอียดกิจกรรมประจำวัน มีการเน้นหนักสาระความรู้งานบริหารจัดการบุคคล การแบ่งทีมเล่นเกมธรรมาภิบาล และเนื้อหาความรู้ด้านการตลาด
ปิดท้ายด้วยกิจกรรมสันทนาการก่อนแจ้งกำหนดเวลาการเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น ฉะนั้นช่วงหัวค่ำรุ่นพี่จึงให้น้อง ๆ วัยมัธยมออกมาพูดเกี่ยวกับความประทับใจในการเข้าค่ายครั้งนี้ โรสลินเองก็ประทับใจกับกิจกรรมในค่าย แต่สิ่งที่ทำให้เธอยิ้มแก้มปริคงไม่พ้นการได้เจอหน้าและพูดคุยกับ ‘พี่ภีม’ ของเธอ