ธาวิน อรรถเศรษฐากุล เจ้าบ่าวของเธอได้เดินทางมาถึงแล้ว ร่างสูงของเขาก้าวเท้าอย่างมั่นคงด้วยท่าทีสง่าและสุขุมอย่างมาก ใบหน้านวลภายใต้เครื่องประทินโฉมของโรสลินขึ้นสีทันทีด้วยความเขินอาย การได้พบหน้ากันอีกครั้งในช่วงระยะหลายปี ส่งผลให้ความรู้สึกในใจของเธอยิ่งแจ่มชัด
เธอก็ยังคงเป็นหนูโซ่ที่ตกหลุมรักพี่ภีมอยู่เช่นเดิมเสมอ
พิธีสงฆ์ในตอนเช้าคือการเจริญพระพุทธมนต์เพื่อเสริมความสิริมงคลให้กับคู่บ่าวสาว แม้ทั้งสองจะได้พบกันตรง ๆ ในตอนกราบพระรวมถึงตอนนั่งฟังพระท่านสวดแล้ว แต่ก็ยังไม่มีคำทักทายระหว่างกันแม้แต่คำเดียว กระทั่งพิธีสงฆ์ในช่วงเช้าเสร็จสิ้นลงโดยการประพรมน้ำมนต์ ธาวินจึงขยับเข้าไปหาเจ้าสาวของตน
“น้องโซ่” เสียงทุ้มทักทาย รอยยิ้มดังเช่นเมื่อหลายสิบปีก่อนถูกส่งมาให้เธอ โรสลินจึงช้อนตามองด้วยความประหม่า
“เอ่อ... สวัสดีค่ะพี่ภีม” เธอยกมือขึ้นไหว้ว่าที่สามีของตน ก่อนจะส่งรอยยิ้มหวาน ๆ กลับไปให้ “พี่ภีม... ทานข้าวมาหรือยังคะ”
“ยังครับ แต่พี่ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่” ชายหนุ่มยกมือขึ้นเกาท้ายทอยของตนแก้เก้อ “คือ... พี่ขอโทษนะครับที่ไม่ได้มาหาในช่วงก่อนแต่งงานเลย เพิ่งจะได้เจอก็วันนี้ พอดีที่บริษัทของพ่อพี่งานยุ่งมากเลย โซ่ก็น่าจะพอรู้ใช่มั้ยครับ” ธาวินสำรวจเจ้าสาวของตนที่อยู่ในชุดไทยสวยงามด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“อ้อ... อ๋อ ไม่เป็นไรเลยค่ะ โซ่ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” หญิงสาวละล่ำละลักตอบไปด้วยความประหม่า
“หลังเสร็จพิธีวันนี้เราคงเขินพี่น้อยลงแล้วล่ะ ขอบคุณมากนะครับที่... มาเป็นภรรยาของพี่”
โรสลินยิ้มเขิน ไม่ว่าจะด้วยบรรยากาศหรือใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา หัวใจในอกของหญิงสาวถึงกับเต้นระรัวยิ่งกว่าตีกลอง ประจวบเหมาะกับออร์กาไนเซอร์มาแจ้งกำหนดการต่อไป เธอจึงได้มีโอกาสหนีหน้าเจ้าบ่าวเพื่อไปปรับอารมณ์ ทว่าจังหวะที่ลุกขึ้นยืนกลับสะดุดขาของตนเองจนหงายหลัง
“เหวอ!”
ร่างบางร่วงลงในอ้อมกอดของเจ้าบ่าวอย่างพอดิบพอดี โรสลินรีบเด้งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะความตกใจ เธอรู้สึกเขินจนใบหน้าร้อนผ่าวจนแทบไม่อยากหันหน้าไปพบกับธาวิน
“ขะ... ขอบคุณนะคะ ขอ... ขอ... ขอตัวก่อนนะคะ” โรสลินหลับหูหลับตาพูดแล้วรีบเดินหนีไปทันทีด้วยความรู้สึกเคอะเขิน แก้มของเธอแดงเถือกลามไปถึงใบหูจนไม่อยากเผชิญหน้ากับใคร
ฝ่ายเจ้าบ่าวก็ลุกขึ้นไปเตรียมแห่ขันหมาก กระทั่งงานพิธีแห่ขันหมากและสวมแหวนในช่วงเช้าเสร็จสิ้นไปเป็นที่เรียบร้อย ความตื่นเต้นของโรสลินจึงค่อย ๆ ทุเลาเบาบางกลายเป็นความอิ่มเอมเปี่ยมสุข หญิงสาวก้มมองรอยจุมพิตบนมือซึ่งยังคงตราตรึงอยู่ในความรู้สึก
ครั้นถึงพิธีรดน้ำสังข์ ผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนได้ทยอยมาหลั่งน้ำให้คู่บ่าวสาวพร้อมกับคำอวยพรมากมาย
“ขอให้รักกันไปนาน ๆ มีหลานให้พ่ออุ้มไว ๆ นะลูก ขอให้ชีวิตรักสุขสมหวังราบรื่นสิ่งใดที่โอนอ่อนผ่อนผันได้ก็ขอให้ยอมกันนะลูก”
“ขอให้ความรักของลูกทั้งสองไม่มีอุปสรรคใดมาขวางกั้นได้ ขอให้ชีวิตรักของลูกทั้งสองโรยด้วยกลีบกุหลาบ ขอให้รักกันเชื่อใจกัน ไม่ทะเลาะ ไม่ใช้อารมณ์ และให้เกียรติซึ่งกันและกันนะลูก”
“ขอให้รักกันไปจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร เรื่องอะไรที่พอยอมกันได้ก็ยอม คนนึงเป็นไฟ อีกคนก็ต้องเป็นน้ำ อย่าให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ รักษาน้ำใจกันนะลูก”
“ขอให้ความรักของลูกทั้งสองมีแต่รอยยิ้ม ไม่มีเรื่องบาดหมาง ขอให้เรื่องราวดี ๆ เกิดขึ้นกับลูกทั้งสอง มีหลานให้แม่หัวปีท้ายปี มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองนะจ๊ะ”
โรสลินขวยเขินกับทุกคำอวยพร ชั่ววินาทีหนึ่ง คู่บ่าวสาวได้หันมาสบตากันโดยบังเอิญ ก่อนจะต่างหลบตาไป การรดน้ำสังข์ดำเนินมาจนเสร็จสิ้น เป็นอันว่าจบพิธีในช่วงเช้า
เย็นวันนั้น โรสลินถูกจับเปลี่ยนชุดเป็นชุดราตรีสีขาวสำหรับงานพิธีเลี้ยงฉลองให้คู่บ่าวสาวในเวลากลางคืน
ดวงตาเป็นประกายทอดมองแหวนเพชรน้ำงามบนนิ้วนางข้างซ้ายของตนอย่างรู้สึกตื้นตัน เธอรู้สึกโชคดีที่สุดที่ได้แต่งงานครองคู่กับรักแรกในชีวิตอย่างธาวิน เธอแอบชอบธาวินมาตั้งแต่ยังเด็ก แม้จะไม่เคยคบหากันอย่างจริงจังเพราะกว่าจะรู้ตัวว่าความรู้สึกที่ตนมีให้อีกฝ่ายคือความรัก เขาก็ห่างเหินไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ อย่างไรก็ดีเมื่อได้มีโอกาสเป็นเจ้าสาวของรักแรกแล้วมีหรือที่โรสลินจะไม่เต็มใจ
เธอถูกมารดาเข้ามารับถึงในห้องแล้วพาออกไปร่วมพิธีเลี้ยงฉลอง ซึ่งแขกเหรื่อจำนวนมากกำลังทยอยเดินเข้าไปในงานเลี้ยง และในจำนวนนั้นก็มีคนที่เธอคุ้นหน้าคุ้นตาไม่น้อย ร่างบางเดินก้าวไปบนพรมอย่างยากลำบากด้วยสาเหตุจากชายกระโปรงซึ่งยาวลากพื้นและรองเท้าส้นสูงอันไม่คุ้นเคย
“ไปหาพี่เขาเร็ว จะได้ถ่ายรูปกัน” โรสลินถูกพาตัวมาพบกับธาวินตรงซุ้มดอกไม้ ชายหนุ่มอยู่ในชุดสูทสีขาวดูหล่อเหลาราวกับเป็นเทพบุตรบนฟ้าลงมาเดินดิน เขายิ้มกว้างให้เธออย่างอ่อนโยนก่อนจะส่งแขนมาให้ควง โรสลินเห็นดังนั้นก็ค่อย ๆ ยื่นแขนเข้าไปเกี่ยวเกาะกับว่าที่สามีตามกฎหมายของตนอย่างเคอะเขิน
“เหนื่อยมั้ยครับวันนี้” ธาวินเอ่ยถามเสียงหวานแว่วที่ใบหูของเจ้าสาว “ขอโทษนะครับ พี่อยากแบ่งเบาความเหนื่อยของน้องโซ่มาบ้าง แต่ไม่รู้จะทำยังไงดี”
“ไม่เป็นไรค่ะ โซ่ไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่...” เธออ้อมแอ้มตอบเสียงเบา “ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ”
“พี่เต็มใจจะแบ่งความเหนื่อยของโซ่มาไว้ที่ตัวพี่เองจริง ๆ นะครับ” เขากล่าวด้วยรอยยิ้มที่มองดูเท่าไรก็ไม่เบื่อ
โรสลินเขินอายเสียจนอยากมุดแผ่นดินหนีแต่ก็ไม่อาจทำได้ เธอเดินตามคนรักไปถ่ายรูปกับญาติผู้ใหญ่ทั้งจากเจริญกิจธาราและอรรถเศรษฐากุลอยู่นานสองนานกว่าพิธีจะเริ่ม
พิธีกรเอ่ยกำหนดการคร่าว ๆ ก่อนจะเปิดวิดีโอภาพของเจ้าบ่าวเจ้าสาวทั้งสองคนตั้งแต่สมัยยังเด็กจนมาถึงปัจจุบัน โรสลินเกาะแขนของธาวินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยความรู้สึกตื้นตัน เธอได้เป็นเจ้าหญิงสมดั่งที่ตั้งใจไว้ ได้ใส่ชุดกระโปรงงดงามและได้เจ้าชายที่แสนดีของเธอในวัยเด็กมาเป็นคู่ชีวิต เธอมีความสุขเป็นอย่างมาก ถึงกับต้องร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาจกลั้น