โรสลินถูกเรียกตัวเข้าไปพบหลังจากที่เธอกลับมาจากที่ทำงาน เธอถูกผู้เป็นแม่กดไหล่ให้นั่งลงบนโซฟาในโถงรับแขก หลังเห็นใบหน้าชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่งอย่างชัดเจนก็ยกมือไหว้พร้อมเอ่ยทักทาย
“สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้า ไม่ได้เจอคุณลุงคุณป้านานมากแล้ว คิดถึงมาก ๆ เลยค่ะ”
“ลุงกับป้าเองก็คิดถึงหนูจ้ะ” ธารินทร์ ส่งรอยยิ้มมาให้เธออย่างเอ็นดู ข้างกันมีคุณหญิงณัฐฐาอยู่เคียงข้าง หญิงวัยกลางคนนั้นดูท่าจะดีใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็นเธอ
“คุณน้องคะ พี่ไม่เสียใจเลยที่ตัดสินใจจะเป็นทองแผ่นเดียวกันกับคุณน้อง เห็นหนูโซ่น่ารักน่าชัง กิริยามารยาทเรียบร้อยแบบนี้แล้ว พี่เป็นปลื้มค่ะ” ณัฐฐาเอ่ยกับเพื่อนสนิทของตน หรือก็คือมารดาของโรสลินนั่นเอง
“ถึงได้บอกไงล่ะคะ ว่าตาภีมน่ะ ต้องชอบยายโซ่แน่ ๆ” สร้อยสุดา มารดาของโรสลินว่าสำทับ โรสลินขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อได้ยินชื่ออันคุ้นเคย รวมถึงบทสนทนาที่ส่อไปในทางรัก ๆ ใคร่ ๆ
“อย่างที่ฉันบอกไปนะทัพ ตอนนี้เจ้าภีมก็อายุเข้าสู่วัยที่สมควรจะมีครอบครัวได้แล้ว และฉันก็มองไม่เห็นใครที่จะเหมาะสมกับตาภีมไปมากกว่าหนูโซ่ลูกสาวนายอีกแล้ว” ธารินทร์หันกลับไปคุยเรื่องที่ตนคุยค้างไว้ต่อ “ขืนปล่อยให้เจ้าภีมครองความโสดต่อไป เห็นทีจะมีพวกผู้หญิงหน้าเงินมาให้ท่าติดพัน ผลาญทรัพย์สมบัติของคอมฟี่มีเดียกรูปทิ้งไปเปล่า ๆ”
ทัพรุจ บิดาของโรสลินพยักหน้ารับ ตั้งแต่รู้จักกันครั้งแรกที่สนามกอล์ฟและได้รับรู้ว่าภรรยาของพวกตนเป็นเพื่อนเรียนมาด้วยกัน สองครอบครัวจึงไปมาหาสู่กันบ่อยครั้งจนเรียกได้ว่าสนิทสนม กับธาวิน เขาก็เห็นเจ้าตัวมาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ เรียกได้ว่าพอรู้จักนิสัยใจคอ ไม่ว่าจะอุปนิสัยหรือความขยันขันแข็งในการศึกษาเล่าเรียนก็ไม่มีขาดตกบกพร่อง มีแต่ช่วงหลังที่ไม่ได้พบหน้าค่าตา ได้ยินเพียงแค่ไปรับช่วงการบริหารงานที่คอมฟี่มีเดีย ทัพรุจจึงหวั่นใจด้วยไม่ทราบแน่ชัดว่าชายหนุ่มจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมบ้างหรือไม่
“หนูโซ่เป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของนาย ทั้งหน้าตาท่าทางรูปร่าง ล้วนแล้วแต่หนีไม่พ้นคำว่างดงาม มองยังไงก็เหมาะสมกับเจ้าภีมเอามาก ๆ” ธารินทร์เอ่ยเหตุผลของตนยืดยาว “อีกอย่างลูกชายของฉันก็เข้าเลขสามมาเป็นปีแล้ว ไม่เห็นว่ามันจะไปตกล่องปล่องชิ้นกับใครที่ไหนได้ ฉันว่าให้มาร่วมหอลงโรงกับลูกสาวนาย น่าจะดีที่สุดนะ”
“นั่นน่ะสิคะคุณทัพ ตาภีมน่ะ เป็นผู้ชายที่ดีมาก ๆ คนนึงเลยนะคะ เหมาะสมกับหนูโซ่แน่นอนค่ะ แล้วก็อีกเรื่อง...” ณัฐฐาอมยิ้มแล้วเอ่ยสำทับกับสามี “เรือล่มในหนอง ทองมันจะไปไหนล่ะคะ ตระกูลของเราสองตระกูลเกื้อหนุนจุนเจือกัน เรามีแต่ได้กับได้กันทั้งคู่นะคะ ต่อไปในอนาคต ตาภีมขึ้นเป็นประธานบริษัท เงินทองและรายได้จากบริษัททั้งหมดก็ต้องยกให้หนูโซ่อยู่ดีค่ะ”
โรสลินอ้าปากค้าง เธอพอจะเดาเรื่องราวทั้งหมดออกแล้วจากคำพูดของคุณลุงคุณป้าทั้งสอง
เธอกำลังจะถูกจับแต่งงานกับพี่ภีม ใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ ตื่นเต้นแต่ต้องเก็บอาการ เพราะเธอหลงรักเขามาตั้งแต่เด็ก
“ฉันเข้าใจนายนะธารินทร์ แต่เรื่องแบบนี้ฉันตัดสินใจเองคนเดียวได้ที่ไหน ต้องถามคนที่จะต้องแต่งด้วย บางคู่แต่งกันไปแล้วรักกันมันก็ดีอยู่หรอก แต่กับหลาย ๆ คู่นี่น่ะซิ่ ผู้ชายไม่รักผู้หญิง ไปหาความสุขนอกบ้าน กลับมาทะเลาะกันบ้านแตก หย่าร้างกันไปไม่รู้เท่าไหร่ ฉันจะเอาอะไรมารับประกันว่าลูกสาวคนเดียวของฉันจะไม่ต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่าล่ะ” ผู้เป็นบิดาเอ่ยคำทุกอย่างแทนลูกสาวไปจนหมด
โรสลินนั่งบีบมือใบหน้าซีดเผือด นึกคล้อยตามคำพูดของผู้เป็นพ่อ ถึงเธอจะชอบเขา แต่ฝ่ายชายเล่าจะชอบเธอหรือไม่
“ตาภีมเป็นคนดีจริง ๆ นะคะคุณพี่ ฉันเห็นมาแต่เล็กแต่น้อย เวลาเล่นกับยายโซ่ก็ไม่เล่นแรง พูดจาไพเราะอ่อนหวาน ตอนอยู่มัธยมก็สอนการบ้านให้อยู่ตั้งหลายต่อหลายหนเลยนะคะ ตาภีมคอยปกป้องดูแลยายโซ่มาตลอดตั้งแต่เด็ก ๆ” สร้อยสุดาเอ่ยสำทับเพื่อหว่านล้อมสามี เนื่องจากเห็นด้วยที่อยากให้ลูกสาวได้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝากับผู้ชายที่คู่ควร
“นั่นมันเมื่อตอนยังเด็กนี่คุณ นี่มันก็ผ่านมาตั้งกี่ปีแล้ว ผมจะไปรู้ได้ยังไงว่านายภีมคนดีที่ว่าน่ะ จะทำตัวเป็นยังไง ลูกสาวทั้งคนผมก็อยากให้ได้ออกเหย้าออกเรือนไปกับคนดี ๆ”
“ลูกชายของฉันเป็นคนดีจริง ๆ นะทัพ นายอาจจะยังไม่เชื่อ แต่ฉันอยากให้นายลองคิดดูอีกสักครั้ง”ธารินทร์ว่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง “การงานมั่นคง เป็นผู้นำ นิสัยก็ดีจนลูกน้องในที่ทำงานทุกคนรักใคร่ เพราะวันนี้เจ้าภีมติดงานหรอก ถึงไม่ได้มาด้วย ลูกชายฉันน่ะ คู่ควรกับหนูโซ่ที่สุดแล้ว”
ทัพรุจเริ่มมีทีท่าโอนอ่อนกับทีท่าขึงขังของเพื่อนตน เขาหันไปมองลูกสาวที่ยังก้มหน้างุดมองมือของตนแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ
“ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องถามยายโซ่ ว่าเต็มใจมั้ย” ผู้เป็นบิดาเอ่ยขึ้น “ถ้ายายโซ่ตกลงปลงใจจะแต่งงานกับตาภีม ฉันก็ไม่ขัด”
“โซ่...” โรสลินอ้ำอึ้งเธอบีบมือตัวเองแรงขึ้นแล้วมองทีท่าของคุณลุงคุณป้าที่นั่งอยู่ตรงข้ามด้วยท่าทีลังเล เธอแจ้งแก่ใจนานแล้ว ความรู้สึกที่ตนมีต่อธาวินนั้น คือ ความรักฉันชู้สาว ทว่าอีกฝ่ายหมางเมินตนโดยไม่มีสาเหตุ ซ้ำร้ายยังห่างเหินกันนานนับสิบปี เขาจะยอมตกลงแต่งงานกับเธอจริงหรือ ร่างบางทบทวนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยเสียงเบา
“พี่ภีมก็อยากแต่งงานกับโซ่หรือคะ”
“แน่นอนสิจ๊ะ ก่อนมาทาบทามหนูให้ตาภีม ป้าต้องถามเขามาแล้ว ตาภีมอยากแต่งงานกับหนูนะ”
ด้วยเหตุนั้น โรสลินจึงเอ่ยตอบอย่างไม่ลังเล “อย่างนั้นโซ่ก็เต็มใจแต่งกับพี่ภีมค่ะ”
นั่นนับเป็นเสียงระฆังจากสวรรค์สำหรับตระกูลอรรถเศรษฐากุล และคำตอบนั้นทำให้โรสลินต้องมานั่งแต่งหน้าอยู่บนเก้าอี้กลมในวันพิเศษที่สุดของผู้หญิง วันที่เรียกว่า ‘วันแต่งงาน’
ร่างบางถูกจับแต่งตัวในชุดไทยสีทองอร่ามงดงามไปทั้งตัว เส้นผมสีดำขลับดังเส้นไหมถูกม้วนขึ้นไปเป็นมวยและปักปิ่นสีทองให้ดูงามสมกับเป็นเจ้าสาว