Chapter 1
หญิงสาวชะลอรถและจอดสนิทริมชายหาด เรียวขายาวค่อยๆ ยื่นออกมาและก้าวให้พ้นตัวรถ ไม่นานหญิงเจ้าของรถก็มายืนเทียบกับรถคันหรูของเธอ หญิงสาวเลื่อนมือขึ้นไปถอดแว่นกันแดดเสียบไว้ตรงคอเสื้อที่เลื่อนต่ำมองเห็นหน้าอกออกมาอย่างจงใจ ปรายตามองป้ายรีสอร์ทหรูที่อยู่ด้านหน้า
มืออีกข้างยกโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของตัวเองขึ้นมามอง เธอพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้เบาๆ ก้มจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง แต่จะเรียกว่าดึงคอเสื้อให้เลื่อนต่ำลงเสียมากกว่าที่จะจัดให้ดูสุภาพ
หญิงสาวเจ้าของมาตรฐานหุ่นนางแบบในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขาสั้นต่อด้วยผ้าซีทรูสีครีมรับกับทรวดทรงองเอวและท่วงท่าการเดินเฉิดฉาย รองเท้าส้นสูง 4 นิ้วเพิ่มความเพรียวระหงให้ปลีน่อง ส่งให้เจ้าของที่สูงเกือบ 170 เซนติเมตรยิ่งสูงสง่า เธอเดินเข้าไปข้างใน
หญิงสาววางมือเท้าบนเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของรีสอร์ท ส่งยิ้มบางๆ ให้พนักงานที่กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่หน้าใต้เคาน์เตอร์ เหมือนอีกฝ่ายกำลังซ่อมอะไรบาง
“นายหัวปัณณ์ ปัณณธรอยู่หรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ใบหน้างามของคนถามยังคงเชิดรั้น
ชายหนุ่มที่กำลังซ่อมสายโทรศัพท์โผล่หน้าออกมามองคนถาม เขายังไม่ตอบ แต่ถามกลับหญิงสาวตรงหน้าเสียงราบเรียบสุภาพ
“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรกับนายหัวครับ”
“ไม่ใช่หน้าที่ของคุณที่ต้องถาม ปกติพนักงานที่นี่ต้อนรับแขกอย่างนี้หรือไง เจ้าของรีสอร์ทรู้หรือเปล่าว่าพวกคุณทำงานกันอย่างนี้ แล้วพนักงานต้อนรับไปไหนไม่ทราบคะ” หญิงสาวบอกเชิงตำหนิ เขาก็แค่ช่างซ่อมที่บังเอิญเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ประจำเคาน์เตอร์ไม่อยู่ เลยได้เสนอหน้ามาอยู่หน้าเคาน์เตอร์แทน
ชายหนุ่มยิ้มปากกว้าง “พนักงานต้อนรับ เธอไปเข้าห้องน้ำครับ คุณรอที่นี่สักครู่ เดี๋ยวผมไปตามให้นะครับ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับเดินออกไป ในมือยังมีอุปกรณ์ที่เขาเพิ่งซ่อมสายโทรศัพท์ให้กลับมาใช้งานได้
ชายหนุ่มเดินเลี่ยงกลับไปบอกลูกน้องสาวที่อยู่ในห้องน้ำให้ออกมารับแขก ก่อนที่รีสอร์ทจะโดนสาวสวยคนนี้คอมเพลนเข้าเสียก่อน
เพียงไม่นานพราวก็รีบเดินออกมายกมือทำความเคารพแขกอย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะขอโทษที่ทำให้รอนะคะ ไม่ทราบว่าติดต่อเรื่องอะไรคะ” หญิงสาวเอ่ยถามแขก ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีค่ะ ฉันมาขอพบนายหัวปัณณ์ เรื่องขออนุญาตถ่ายทำสกู๊ปพิเศษที่เกาะรังนกค่ะ” หญิงสาวบอกออกไปพร้อมกับยื่นนามบัตรของเธอให้พราว ตำแหน่งและชื่อสถานีการันตีได้เป็นอย่างดี
พราวยิ้มอ่อนอีกครั้ง “นายหัวยังไม่กลับจากเกาะรังนกเลยค่ะ นายมีธุรกิจหลายอย่าง ไม่ค่อยอยู่กับที่สักเท่าไหร่ เดี๋ยวดิฉันแจ้งนายหัวแล้วจะติดต่อกลับไปนะคะ”
“แล้วนายหัวจะกลับมาวันไหนคะ”
“ดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ” หญิงสาวตอบไปตามที่เจ้านายสั่ง
“มีเบอร์.ติดต่อไหมคะ”
“รอทางเราติดต่อกลับไปดีกว่าค่ะ ดิฉันไม่สะดวกที่จะให้เบอร์นายหัวโดยที่ยังไม่ได้ขออนุญาตจากนายหัวก่อน”
สาวพยักหน้าเบาๆ เธอคงทำอะไรไม่ได้มากกว่าทำตามที่บอก แต่พอมองรอบๆ รีสอร์ท เธอก็นึกอะไรได้บางอย่าง อย่างน้อยเธอก็ควรจะใช้เวลาที่นี่ให้เป็นประโยชน์ สมกับที่เจ้านายเลือกเธอ
“ฉันขอพักที่นี่ 2 คืนค่ะ” หญิงสาวหันกลับไปบอก
“สักครู่นะคะ ขอเช็คห้องสักพักพอดีว่าช่วงนี้ห้องพักเราค่อนข้างจะแน่น และไม่มีห้องว่าง” พนักงานสาวบอกพร้อมกับก้มลงไปมองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเธอ กดแป้นพิมพ์แล้วเลื่อนเมาส์อยู่สักพัก เธอก็เงยหน้าขึ้นบอกลูกค้าคนสวยอีกครั้ง
“ห้องของรีสอร์ทที่นี่เต็มค่ะ คุณจะสะดวกเข้าไปพักที่โรงแรมในเมืองไหมคะ”
“นายหัวมีโรงแรมในเมืองหรือ” หญิงสาวถามตัวเก็บข้อมูล ทั้งที่ทราบรายละเอียดคร่าวๆ มาบ้าง
“มีค่ะ โรงแรมที่กำลังจะเปิดตัวในอีกสองวันข้างหน้า แต่ห้องพักเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อย เปิดให้เข้าพักได้แล้วค่ะ โรงแรมแห่งนี้เป็นโครงการร่วมทุนระหว่างนายทุนชาวอเมริกา” พราวตอบออกมา แต่ก็ไม่ลืมที่จะไปช่วยนายหัวหนุ่มโปรโมทโรงแรม
หญิงสาวอมยิ้มอย่างพอใจ ตอบรับข้อเสนออย่างเต็มใจ เป็นอีกทางที่เธอจะเข้าถึงตัวนายหัวหนุ่มได้ บางทีที่โรงแรมคงมีข้อมูลให้เธอได้เก็บมากกว่าอยู่ที่นี่
“ได้ค่ะ”
“คุณสะดวกที่จะขับรถไปเองใช่ไหมคะ” พราวบอกพร้อมกับยื่นเอกสารใบหนึ่งให้เธอ “แผนที่ค่ะ”
หญิงสาวยื่นมือไปรับเอกสาร ยิ้มน้อยๆ แล้วเดินออกไป เธอรีบต่อโทรศัพท์หานัตตี้ให้ช่วยอำนวยความสะดวก ให้เธอสามารถเข้าไปช่วยในงานแถลงข่าวได้ หลังจากนั้นเพียงไม่นานเธอก็ได้รับไฟเขียว เป็นสื่อมวลชนหนึ่งในสามจากเรนโบว์แชนแนล แม้งานที่อยู่ในความรับผิดชอบของเธอจะไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่เพราะผู้ใหญ่หนุนหลัง ทำให้เธอมีโอกาสดีๆ กว่าใครคนอื่นเสมอ
หลังจากที่หญิงสาวหันหลังเดินออกไปไม่นาน นายหัวหนุ่มก็รีบเดินออกมาหาพราวทันที จังหวะเดียวกับที่ตะวันวาดเดินจูงน้องลูกหยีเดินเข้ามา
“เธอบอกว่าไง” เขาเอ่ยปากถามลูกน้องสาว
“จะขอไปถ่ายทำและทำสกู๊ปที่เกาะมาหยามันตราค่ะ”
“อีกวันสองวันก็ให้อิทธิโทรไปปฏิเสธได้เลยนะ ฝากด้วย” นายหัวหนุ่มสั่งลูกน้องเหมือนอย่างที่เขาเคยทำ พราวเองก็รู้คำตอบอยู่ก่อนหน้าแล้ว
เกาะรังนกเป็นพื้นที่หวงแหนที่สุดของเขา ที่นั่นเป็นความทรงจำในวัยเด็ก เขาไม่อยากให้ใครเข้าไปป้วนเปี้ยนและไม่อยากเปิดเผยให้โลกภายนอกได้เห็น อยากเก็บความทรงจำดีๆ ไว้คนเดียว แม้กระทั่งความลับบางอย่าง สงวนเฉพาะแค่คนในครอบครัวเท่านั้น
แม้แต่ตะวันวาดกับลูกหยีก็เพิ่งได้รับการอนุญาตให้เข้าไปบนเกาะเมื่อไม่กี่ปี แต่ทั้งสองคนก็ยังไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปที่เกาะมาหยามันตรา ตะวันวาดบอกอย่างติดตลกว่าขอไปเห็นตอนงานแต่งงานเจ้าของเกาะทีเดียว และให้เหตุผลว่าอยากให้ความทรงจำดีๆ นั้น เกิดขึ้นกับผู้หญิงที่เขารักคนแรกมากกว่า จากที่เห็นความหวงแหนของเขา
ทั้งที่นายหัวหนุ่มพูดย้ำอยู่เสมอว่า ตะวันวาดกลับลูกหยีเป็นผู้หญิงที่เขารักมาก แม้จะไม่ได้ลงเอย แต่เขาก็ยังมองตะวันวาดเป็นเหมือนญาติ เป็นครอบครัวเป็นน้องสาวของเขา
“หนีนักข่าวอีกแล้วล่ะสิ” ตะวันวาดพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่ตัวเธอจะเดินมาถึง ส่วนสาวน้อยลูกหยีกางแขนแล้วรีบวิ่งมาหานายหัวหนุ่มอย่างดีใจ เพราะพ่อทูนหัวของเธอคนนี้ไม่เคยขัดใจสักครั้ง
“พ่อปัณณ์!” เสียงใสร้องเรียกมาแต่ไกล พร้อมกับกางแขนกว้างวิ่งถลาเข้ามาหานายหัวหนุ่ม
นายหัวหนุ่มไม่ได้ตอบตะวันวาด เขาหันกลับไปยิ้มให้สาวน้อยและย่อตัวลงพรางกางแขนออกเหมือนกับที่เด็กน้อยกำลังทำ รอรับหญิงสาวร่างป้อม ทันทีที่เด็กหญิงเดินมาถึงนายหัวหนุ่มก็กอดรัดฟัดเหวี่ยงอย่างหนักหน่วง กดจมูกโด่งฝังลงบนสองแก้มนุ่มหนักๆ หลายต่อหลายครั้งติดกันเพราะความรักและคิดถึง
“หมั่นเขี้ยว! พ่อปัณณ์คิดถึงที่สุดเลย มีพ่อพีทแล้วลืมพ่อปัณณ์คนนี้นะ ต้องทำโทษให้เข็ด” นายหัวหนุ่มบอกพร้อมกับกอดร่างป้อมเอาไว้แน่นแล้วลุกขึ้นเหวี่ยงหมุนตัวไปรอบๆ
“อ๊ากก...อ๊าก...” สาวน้อยร่างป้อมหัวเราะเสียงดังลั่น สนุกทุกครั้งที่มาหาพ่อทูนหัวของเธอ
ลูกหยีหรือเด็กหญิงพชรตะวัน เป็นลูกสาวของตะวันวาดและพชร หากแต่นายหัวหนุ่มก็ยังยืนยันที่จะเป็นพ่ออีกคน จนในที่สุดเขาก็ได้รับตำแหน่งพ่อทูนหัวไป หากแต่ พชรก็ไม่ยอมปล่อยให้ลูกสาวกับเมียรักมาที่รีสอร์ทของนายหัวหนุ่มบ่อยนักเพราะความหวงแม้เวลาจะผ่านล่วงเลยมานานแล้วก็ตาม
ตะวันวาดส่ายหน้ามองอย่างเอ็นดู เธอก็รู้สึกไม่ต่างจากนายหัวหนุ่ม เขาเป็นครอบครัว เป็นพี่ เป็นคนที่หวังดีกับเธอทุกเรื่อง และเธอก็หวังเป็นที่สุดว่า เขาจะลงเอยกับใครสักคน และมีความสุขในชีวิตครอบครัว มีลูกที่น่ารักเป็นของตัวเองสักวัน
“ปล่อยลูกลงได้แล้วค่ะ” คนเป็นแม่บอก เพราะความเคยชินที่ตะวันวาดเรียกว่าลูกจนชินปาก แม้พชรจะมีอาการหึงหวงขัดเคืองอยู่บ้าง แต่เธอก็ปฏิบัติกับนายหัวหนุ่ม เช่นเดิมตลอดมา
“เมื่อไหร่จะลงเอยกับใครสักทีนะ ตะวันอยากเห็นพี่ปัณณ์มีความสุข” ตะวันวาดเปรยขึ้นมาลอยๆ นายหัวหนุ่มยอมหยุดหันกลับมามองหญิงสาว แต่ยังอุ้มสาวน้อยไว้ในอ้อมกอด
“เรานี่ก็เหมือนเดิมนะตะวัน พยายามที่จะจับคู่ให้พี่อยู่นั่นแหละ ความสุขของพี่ก็แค่ได้อยู่กับลูกหยีอย่างนี้เท่านั้นก็พอ เนอะลูกหยี” ชายหนุ่มหันหน้ามาหาเด็กหญิงพชรตะวันหาแนวร่วม สาวน้อยรีบพยักหน้าเห็นด้วยทันที โดยที่ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่พูดอะไรกัน