Chapter 4
ครั้งนี้...หากเธอไม่ลงมาเห็นกับตา เธอคงกำลังตะบี้ตะบันหาข้อมูลและทำโปรเจกต์เสนอเจ้านาย เพื่อรอผลตอบกลับว่าเธอจะไม่ได้ทำโปรเจกต์นั้น ทั้งที่เป็นอย่างนี้เสมอมา แต่เธอก็ยังไม่ชินอยู่ดี
หญิงสาวรีบกดโทรศัพท์ โทรฯหาครีเอทีฟสาวทันที หลังจากที่เธอเห็นลูกกวางเดินเข้าไปในลิฟท์
‘ว่าไงค่ะพี่ ฉันกำลังยุ่งอยู่เลย’ ปลายสายกดรับสายและเอียงคอหนีบโทรศัพท์ไว้แนบหู มือของเธอยังจับเอกสารบนเครื่องถ่ายกลับด้านสลับไปมา พร้อมกับลูกไฟวิ่งเลื่อนไปเลื่อนมาแยงตา
‘หาข้อมูลให้หน่อย’
‘ไปเที่ยว ยังอยากจะได้ข้อมูลอะไรอีกล่ะ’ ครีเอทีฟสาวบอกด้วยน้ำเสียงปนหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะต้องรักไม่อยู่เธอจึงต้องรับผิดชอบงานแทนหลายอย่าง
‘ลูกกวางอยู่สถานีหรือเปล่า ลางานหรือมาทำสกู๊ป’ หญิงสาวเอ่ยรัวๆ
‘ลางานตั้งแต่วันเดียวกันกับพี่แล้ว เห็นบอกจะกลับไปเยี่ยมแม่ที่เมืองเหนือ’
‘ตอแหล’ คนปลายสายบ่นพึมพำเบาๆ แต่ก็เข้าหูครีเอทีฟสาวแม้ว่าจะไม่ถนัด
‘พี่ว่าอะไรนะ ฉันได้ยินไม่ถนัดเครื่องถ่ายมันเสียงดัง’
‘เปล่าๆ จะโทรมาถามว่า ตั้งแต่ที่พี่ลางาน ที่สถานีมีอะไรคืบหน้าบ้างหรือเปล่า’
‘ไม่มีนิพี่ พี่กับพี่ลูกกวางไม่อยู่ฝ่ายเราเงียบมาก’
‘งั้นเหรอ ขอบใจนะ มีอะไรก็รายงานพี่เป็นระยะนะ พี่ขอเวลาทำใจ ซุ่มทำศึกรบกับยัยลูกกวางรอบนี้ก่อน ครั้งนี้พี่สัญญาว่าพี่จะเอาโปรเจกต์นี้มาให้ทีมเราให้ได้’
‘นึกอยู่แล้วว่าพี่ต้องไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ แต่ก็ไม่ต้องเครียดมากล่ะ’ ลูกน้องสาวอดเป็นห่วงเจ้านายไม่ได้
‘เออน่า แค่นี้’ หญิงสาวบอกความกับกดวางสาย เดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์อย่างมีแผน
“ขอโทษนะคะ เมื่อครู่เป็นสื่อมวลชนจากเรนโบว์แชนแนลหรือเปล่าคะ ดิฉันมองไม่ถนัดคิดว่าเพื่อน” หญิงสาวถามพร้อมกับชูบัตรสื่อมวลชนของเธอให้พนักงานที่โรงแรมทราบ
พนักงานส่งยิ้มบางๆ “ใช่ค่ะ คุณมากับเธอหรือเปล่าคะ”
หญิงสาวส่งยิ้มให้พนักงานอย่างเป็นมิตร “เปล่าหรอกค่ะ ฉันมาพักผ่อน ไม่ได้มาทำงาน พอดีฉันเห็นเพื่อนในสถานีเดียวกันก็อดแวะทักไม่ได้ ขอบคุณนะคะ เอาไว้เย็นนี้ฉันค่อยโทรหาเธอดีกว่าค่ะ” หญิงสาวบอกพร้อมกับหมุนตัวกลับ ครุ่นคิดถึงสิ่งที่ลูกกวางกำลังจะทำ
ต้องรักเลือกที่จะลางานลงมาเก็บข้อมูลที่นี่ก่อน เพราะคิดว่าตัวเองจะเร็วกว่าคู่แข่งหนึ่งก้าว แต่เธอก็คิดผิดถนัดอีกตามเคย หนึ่งก้าวที่ว่า กลับเป็นลูกกวางที่เร็วกว่าเธออีกครั้ง แต่คราวนี้เธอจะไม่ยอมเป็นคนก้าวตามอีกเป็นอันขาด
หญิงสาวต่อโทรศัพท์หาเลขาของตาเธอ ความที่เจ้าสัวฉัตรอรุณตาของเธอเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการธุรกิจทำให้เธอสามารถหาข้อมูลเล็กน้อยบางอย่างได้จากอาคณินเลขาคนสนิทของตานั่นเอง
แม้ครั้งนี้จะเป็นความโชคร้ายที่เธอไม่ได้ข้อมูลอะไรมากมาย นายหัวหนุ่มที่เธอกำลังต้องการข้อมูลเป็นคนเก็บตัวเงียบมาตลอด แต่เพราะความเป็นนักธุรกิจชั้นแนวหน้าของเจ้าสัวฉัตรอรุณทำให้หญิงสาวสามารถเข้าไปในงานเปิดตัวได้อย่างไม่ยากเย็น
ต้องรัก เตชะการุณ ชื่อของเธอเป็นหนึ่งในนามหนึ่งในผู้บริหารของบริษัทอาหารทะเลส่งออกชื่อดัง เจ้าสัวฉัตรอรุณแต่งตั้งเอาไว้ให้หลานสาวเพียงคนเดียวของเขาตั้งแต่เธอเรียนจบ เพื่อรอเวลาที่เธอจะเข้าไปบริหารงานที่บริษัทอย่างเป็นทางการ เมื่อครบกำหนดเวลาที่เธอขอเอาไว้
ต้องรักเพียงยกข้ออ้างกับคณินว่าเธอกำลังจะเริ่มเข้ามาศึกษางาน เขาก็จัดการเอกสารและการ์ดเชิญให้เธออย่างเสร็จสรรพ
หญิงสาวไม่ลืมกำชับให้คณินเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะเธออยากเซอร์ไพรส์คนเป็นตา โดยหารู้ไม่ว่าหญิงสาวเพียงแค่ใช้ชื่อของบริษัทเป็นข้ออ้างเท่านั้นเอง
Thailand Grand Opening Grand Private Park And Spa Krabi งานเปิดตัวโรงแรมสุดหรูระดับ 6 ดาว โครงการร่วมทุนมูลค่ารวมหลายพันล้านบาทริมชายฝั่งอันดามัน ระหว่างนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ชั้นแนวหน้าของโลกกับนักธุรกิจไฟแรงแห่งเมืองใต้ เจ้าของฉายาเสือถนอมเขี้ยว นายหัวหนุ่มที่ไม่เคยเป็นข่าวกับสื่อวงการใดทั้งสิ้น แม้มูลค่าทรัพย์สินจะติด ท็อปเท็นของเมืองไทยด้วยวัยเพียง 38 ปี มูลค่ารวมหลายพันล้านบาท
โรงแรมชื่อดังได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น สื่อมวลชนและนักธุรกิจ ตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวครบวงจรของภาคใต้ กับความทันสมัยและการออกแบบระดับเวิลด์คลาสที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ทุกหน่วยงานร่วมประกาศศักยภาพการท่องเที่ยว ในฐานะผู้นำการท่องเที่ยวของเอเชียใต้
ดอกกุหลาบสีแดงอวดกลิ่นหอมทั่วห้องแกรนด์บอลรูมของโรงแรมชื่อดัง เครื่องปรับอากาศตัวใหญ่ทำหน้าที่ของมันได้อย่างยอดเยี่ยม เจ้าหน้าที่จัดงานต่างทยอยกันลงมาประจำหน้าที่ของตนเอง โรงแรมถูกปิดเพื่อรองรับแขกและเจ้าหน้าที่สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ เพื่อความสะดวกและง่ายต่อการรักษาความปลอดภัย
สื่อมวลชนจากทุกแขนงทุกช่องทุกสถานีและทุกสื่อสิ่งพิมพ์ทั่วฟ้าเมืองไทยต่างมารวมตัวกันที่นี่ ต้องรักในฐานะตัวแทนบริษัทส่งออกชื่อดังของประเทศก้าวเข้ามาในงานอย่างมั่นใจ
แพขนตาเด้งงอนถูกปัดทับอีกชั้นด้วยมาสคาร่า อายไลเนอร์กรีดทับให้ดวงตาคมชวนมอง ประกายมุกสีวาวที่เคลือบอยู่บนเปลือกตายิ่งขับวงกลมสีดำในดวงตาให้ดูโดดเด่น ปัดพวงแก้มนวลด้วยบลัชออนสีส้มอ่อนบางๆ ทุกส่วนบนดวงหน้าลงตัวด้วยสีโทนส้มประกายทอง ทุกสิ่งที่ถูกรังสรรค์บนกรอบใบหน้าสวยของเธอทำให้เจ้าของดวงหน้าสวยเจิดจรัส ริมฝีปากสีเดียวกันปิดทับรับริมฝีปากรูปกระจับ เพียงเผยอเล็กน้อยก็ดูยั่วยวนน่าแนบริมฝีปากประทับรอยจูบ…
เดรสเกาะอกสีเขียวมรกตผ่าร่องลึกพองาม เปิดแผ่นหลังขาวเนียนเป็นรูปตัววีจนถึงบั้นเอว มีเพียงเชือกเส้นเล็กผูกไขว้พาดด้านหลังให้ดูเย้ายวนเซ็กชี่ แต่หากเพียงกระตุกเชือกด้วยมือเบาๆ ก็สามารถปลดพันธนาการที่ห่อหุ้มเรือนร่างสวยได้อย่างง่ายดาย หรือแม้แต่คนสวมใส่ไม่ระวังเผลอเดินไปเกี่ยวกับอะไรเข้า มันก็พร้อมจะขาดได้ง่ายๆ แม้ว่าข้อจำกัดของชุดจะมีมาก แต่ด้วยข้อจำกัดทางด้านเวลาที่เธอต้องเตรียมชุดกระชั้นชิดบวกกับความสวยลงตัว เมื่อชุดนี้มาอยู่ในเรือนร่างเล็กของคนสวมอย่างต้องรักก็ทำให้เธอปฏิเสธไม่ลง เธอเป็นคนตัวเล็กทำให้หาชุดค่อนข้างยาก
กระโปรงเป็นผืนผ้าซาตินสีเดียวกันยาวถึงส้นเท้า รับกับรองเท้าสานสีทองสูงเกือบสี่นิ้วขับให้หญิงสาวดูสง่า ทุกจังหวะการเดินให้ยั่วยวน หญิงสาวสลัดคราบเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์รองเท้าผ้าใบของเธอแทบมองไม่เห็นเค้าเดิม
ความไม่คุ้นชินความสูงของส้นร้องเท้าทำให้หญิงสาวไม่อยากเดินมากนัก เพราะเธอกลัวว่าจะทำเปิ่นขายหน้าหน้ากลางงาน หญิงสาวเดินไปหยิบค็อกเทลเบาๆ สำหรับตัวเอง ทั้งที่จริงจะเรียกว่าถือไว้สำหรับแก้เขินก็ไม่ผิดนัก เพราะเธอเพียงถือมันเอาไว้ในมือและหมุนตัวกลับมายืนอยู่ข้างซุ้มดอกไม้ กวาดสายตามองแขกรอบๆ เพื่อเก็บข้อมูล
สายตาของหญิงสาวเหลือบไปเห็นคู่แข่งคนสำคัญของเธอ กำลังสนทนากันอย่างออกรสกับนักธุรกิจชาวใต้ท่านหนึ่ง เดาได้ไม่ยากว่าลูกกวางคงกำลังโปรยเสน่ห์ บริหารความยั่วยวนของเธอเพื่อหวังจะเก็บข้อมูล
ต้องรักแบะปากกรอกตามองสูงอย่างไม่ค่อยชอบใจ แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เมื่อเห็นอีกฝ่ายอยู่ตรงนั้นเธอเดินเลี่ยงออกไปอีกทางเพื่อหาที่นั่งพักขาของตัวเอง เพียงไม่นานหญิงสาวก็มาหยุดอยู่ที่หน้าล็อบบี้ของโรงแรม ในขณะที่สายตาก็มองหานายหัวปัณณ์เป็นระยะ แม้ว่าจะไม่ค่อยมั่นใจมากนักว่าตัวเองจะสามารถแยกแยะและจดจำใบหน้าเขาได้หรือเปล่า
รถคันหรูสีดำมันปราบเคลื่อนเจ้ามาจอดหน้าโรงแรม หนึ่งในหุ้นส่วนคนสำคัญที่สื่อกำลังจับตามองไม่ต่างจากพชรคนที่ยืนอยู่ข้างใน ชายหนุ่มคนนั้นคงเป็นไปไม่ได้นอกเสียจาก นายหัวปัณณ์ ปัณณธร เจ้าของฉายาเสือถนอมเขี้ยวที่สื่อมวลชนหลายคนต่างจับจ้อง รอทำข่าวของเขา ไม่บ่อยนักที่ใครจะได้เห็นเขาผ่านสื่อ และรู้จักตัวตนที่แท้จริง
รองเท้าขัดมันข้างซ้ายเหยียบลงบนพรมสีแดงกำมะหยี่ ก่อนที่อีกข้างจะถูกก้าวตามออกมา ชายหนุ่มเจ้าของความสูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรจะก้าวออกมาพ้นตัวรถ เขาทรงตัวยืนเต็มความสูงเต็มสองเท้า มือหนาของเขายกขึ้นขยับสูทเล็กน้อยให้เข้าที่พร้อมกับเงยหน้าขึ้นในมุมที่รับกับจมูกโด่งดังเห็นได้ชัด
หากมองจากระดับสายตาของต้องรักที่ยืนอยู่ห่างจากตัวเขาไม่มาก สูทสีเข้ม รับกับใบหน้าคมคาย ไรหนวดเขียวจางๆ ข้างแก้มสากยิ่งทำให้เขาดูคมเข้มน่าเกรงขามมาก อีกทั้งแววตาคู่นั้นก็เปล่งประกายน่าหลงใหล หญิงสาวเผลอมองเขาด้วยความ ชื่นชมอยู่นาน กว่าจะดึงสติของตัวเองกลับคืนมาได้