ตอนที่๑ ก็แค่เมียตัวแทน
“ลดาคุณพิมหายไปไหน แกบอกฉัน
มาเดี๋ยวนี้นะ”
เป็นเสียงของแม่เลี้ยงรำไพ แม่เลี้ยงเจ้าของสวนส้มที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่
เอ่ยถามหา พิมประพา ลูกสาวคนสวยผู้เพียบพร้อมของเธอ ซึ่งจะต้องเข้าพิธีแต่งงานในค่ำคืนนี้..
นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาเข้าพิธีทำหมั้นหมายของคู่บ่าวสาวแล้ว แต่พิมประพาลูกสาวคนสวยของเธอหายไปไหน?
ทุกอย่างกำลังชุลมุน เมื่อพิมประพา ลูกสาวคนสวยที่เพรียบพร้อมของแม่เลี้ยงรำไพได้หายตัวไป จากงานแต่ง...
ที่กำลังจะเริ่มพิธีหมั้นในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้..
“หนูไม่ทราบจริงๆค่ะคุณรำไพ ว่าคุณพิมเธอหายไปไหน หนูลงไปดูความเรียบร้อยข้างล่างแป๊บเดียวเองพอเดินขึ้นมาหนูก็ไม่เห็นเธออยู่ในห้องนี้แล้วค่ะ"
เสียงของรินลดา เด็กสาวหน้าตาสะสวยลูกเลี้ยงที่เธอไม่ต้องการ ละล่ำละลักบอกกับแม่เลี้ยงรำไพอย่างหวาดกลัวในความผิด เพราะเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพิมประพานั้นได้หายไปไหน
“แกอย่ามาโกหกฉันนะ นังลดา แกนี่มันนิสัยมักใหญ่ไฝ่สูงเหมือนกับแม่ของแกไม่มีผิด แกคงจะเป็นใจให้ยัยพิมหนีไป เพื่อที่ตัวเองจะได้เข้ามาสวมรอยเป็นเจ้าสาวของตาภูแทนยัยพิมละสิ ใช่มั้ย?"
"มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ คุณรำไพ คือหนูเองก็ไม่ทราบจริงๆค่ะ ว่าคุณพิมเธอหายไปไหน"
" แกยังจะมาตีหน้าซื่อ โกหกฉันอีกนะ นังลดา บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ว่าคุณพิม เธออยู่ที่ไหน"
เสียงของแม่เลี้ยงรำไพ ชี้หน้าด่าสาวน้อย ลูกเลี้ยงของตัวเองที่สามีแอบมีอะไรกับคนงานในไร่ จนทำให้มีบุตรสาวเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ซึ่งเธอเกลียดชังขี้หน้าเด็กสาวคนนี้นัก
เธอจึงจิกด่ารินลดาสาวน้อยหน้าตาสะสวย ผู้เกิดมาอาภัพ เพราะแค้นเคืองในบุพการี ผู้ให้กำเหนิดของหญิงสาว
ที่มาแย่งความรักจากเธอไป..
รินลดาเกิดมาจากความไม่เต็มใจให้เกิดของทุกฝ่าย และถูกเลี้ยงดูมาอย่างกับคนใช้ในก้นครัว ไม่ต่างจากทาสในเรือนเบี้ย เธอต้องคอยทำงานบ้าน ทำอาหารให้ทุกคน ไม่แตกต่างจากคนรับใช้คนหนึ่งของบ้านนั้น
คุณประพจน์ผู้เป็นบิดาแท้ๆของเธอนั้นได้ส่งเสีย
ให้รินลดาได้เรียนหนังสือตามความเหมาะสมจนจบ ปริญญาตรี ซึ่งนี่คือสิ่งเดียวที่ดีที่สุดในบ้านหลังนั้นที่รินลดาได้รับ
“แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะคุณประพจน์ งานก็กำลังจะเริ่มแล้วอยู่แล้ว ถ้างานวันนี้ล่ม เราจะต้องเสียหาย ขาดความน่าเชื่อถือกันทั้งสองตระกูลนะแน่นอน ธุรกิจต่างๆที่ทำร่วมกันมาคงได้พังพินาทกันแน่ในคราวนี้”
พ่อเลี้ยงสิน ซึ่งเป็นคุณพ่อของ ภูวดล ว่าที่เจ้าบ่าวสุดหล่อ ผู้เพียบพร้อมของงานแต่งในค่ำคืนนี้ เอ่ยถามคุณประพจน์เพื่อที่จะช่วยกันแก้ปัญหาในเรื่องที่เกิดขึ้น
ในเมื่อเรื่องทั้งหมด มันเดินทางมาถึงขนาดนี้แล้ว จะล้มงานแต่งก็คงจะเป็นไปไม่ได้
คุณประพจน์จึงหันไปทางลูกสาวคนเล็ก ที่นั่งพับเพียบตัวสั่นต่อหน้าทุกคนในบ้าน แล้วเอ่ยขอร้องเธอว่า
“ลดาหนูต้องช่วยพ่อนะ”
“พ่อขอร้องหนูจริงๆ เราจะยอมให้งานในวันนี้พังไม่ได้เป็นอันขาด”
คุณประพจน์เอ่ยขอร้อง รินลดา
ลูกสาวคนเล็กของเขา ให้ช่วยเป็นเจ้าสาวตัวแทน
ในเมื่อพิมประพาได้หายตัวไปอย่างนี้แล้ว ทางบ้านพงศธร คงจะต้องให้รินลดา แต่งงานกับภูวดล อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในสายตาของภูวดล พ่อเลี้ยงหนุ่ม ซึ่งจะต้องเป็นเจ้าบ่าวตามความต้องการของพ่อแม่ในค่ำคืนนี้
เขาแสยะยิ้มมองดูเหตุการณ์อยู่อีกมุม ของห้องแต่งตัวอย่างสะใจ เธอมันใจเสาะ กว่าที่ฉันคิดอีกนะพิมประพา
หนีเอาตัวรอดคนเดียวอย่างนี้ ทั้งที่ตกลงกันแล้ว ว่าจะแต่งงานกันเพียงแค่ในนามเท่านั้น
ภูวดลชำเลืองมองสาวน้อยที่นั่งอยู่กับพื้นนั้นด้วยหางตา ในเมื่อยัยเด็กหน้าจืดคนนี้ อยากเข้ามาเป็นเจ้าสาวของเขานัก เขาก็จะไม่ขัดศัทธาและปล่อยให้งานแต่งในครั้งนี้ มันเกิดขึ้นต่อไป ตามความต้องการของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย
แล้วอีกอย่างที่ภูวดลไม่โวยวายในตอนนี้ ก็เพราะว่าเขามีแผนการบางอย่างสำรองเอาไว้แล้วต่างหาก
ก่อนจะถึงพิธีหมั้นในครึ่งชั่วโมงข้างหน้านี้
รินลดา ถูกพาไปแต่งตัวใหม่ ใส่ชุดเจ้าสาวของพิมประพา
ชุดไทยจิตรลดา สีทองที่เธอใส่อยู่นั้น มันใส่ได้พอดี ทำให้เธอกลายเป็นเจ้าสาวที่สวยสง่ายิ่งนักในค่ำคืนนี้
เมื่อเธอเข้ามานั่งเคียงข้างกับเจ้าบ่าวภายในพิธีหมั้นที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้ ภูวดลเกิดหายใจติดขัดเล็กน้อย เพราะเมื่อเธอแต่งหน้าแต่งตาอย่างนี้แล้ว มันทำให้เธอสวยขึ้น จนดูเป็นคนละคน ดูแตกต่างจากยัยเด็กหน้าจืดคนนั้นไปเลย
แต่ความสวยของเธอนั้น มันไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหวั่นไหวอะไรกับเธอมากนัก เพราะเรื่องความรักสำหรับเขาแล้วนั้น มันเป็นเรื่อง ไร้สาระสิ้นดี
"อยากเป็นเมียฉันนักก็จะให้เธอเป็นสมใจ "เขาเหลือบมองรินลดาอีกครั้ง ก่อนแสยะยิ้มมุมปากอย่างคนมีแผนการที่แอบซ่อนอยู่ในใจ
งานหมั้น งานแต่ง กู้หน้าพ่อแม่ของบ่าวสาวได้ดำเนินต่อไป ป้ายหน้าเวทีได้เปลี่ยนชื่อเจ้าสาวออกไป
ภาพพรีเวดดิ้ง ถูกเก็บออกไปหมด
แม้จะมีเสียงวิจารน์ ออกมาจากแขกเหรื่อที่มาร่วมงานอย่างไม่เข้าใจอยู่บ้าง แต่ทุกอย่างก็ดำเนินต่อไป จนจบพิธี
หลังเสร็จสิ้นพิธีแต่งงานแล้ว ภูวดลก็ได้ปฏิเสธพิธีเข้าหอตามธรรมเนียมปฏิบัติ
แต่เขากลับพาเจ้าสาวหมาดๆของตัวเองกลับขึ้นไปที่ปางไม้ในทันที
เมื่อคู่แต่งงานหมาดๆเดินทางมาถึงปางไม้แห่งนี้ ภูวดลก็ได้เดินนำเจ้าสาวของเขา
เข้ามาในบ้านพักหลังใหญ่ ซึ่งเป็นบ้านพักของเขาที่สร้างไว้เวลามาดูงาน ถึงแม้ว่าเขาจะพารินลดากลับเข้ามาที่ปางไม้แห่งนี้ในเวลาดึกดื่น
แต่ป้าสุณีย์ คนรับใช้เก่าแก่ของบ้าน และคนงานอีกสองสามคน ก็ต้องลุกออกจากที่นอน เพื่อมาต้อนรับเจ้านายอย่างเขาอยู่ดี
“คุณภู จะให้ป้าเอาของคุณผู้หญิงไปไว้ที่ห้องนอน ใหญ่เลยมั้ยคะ “?
เป็นเสียงของป้าสุณีย์ คนรับใช้เก่าแก่ เอ่ยถามคุณหนูของเธอ ว่าจะให้เอาข้าวของ ของรินลดา เจ้าสาวหมาดๆของเขา เข้าไปไว้ในห้องนอนของชายหนุ่มเลยหรือเปล่า
“ไม่ต้อง เอาไปไว้ในห้องเล็กเรือนคนใช้ ข้างห้องของป้านั่นแหละ”
เขาเอ่ยบอกกับป้าสุณีย์ถึงความต้องการของตัวเอง โดยไม่สนใจใครทั้งนั้น พูดจบชายหนุ่มก็เดินเห็นหลังเข้าห้องของตัวเองไป
โดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าเจ้าสาวหมาดๆของตัวเองอีกเลย
ว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร เขาปล่อยให้เธอยืนช็อก จนหน้าชากับสิ่งที่ได้ยินจากปากของเขา
♠️♠️♠️♠️♠️♠️
เปิดมาบทแรกก็แรงเลยนะคะ คุณภูวดล ทูลหัวของบ่าว