“โปรดจงเก็บรูปถ่ายใบนี้เอาไว้ และจำเอาไว้เสมอว่าพี่จะอยู่เคียงข้างเธอ” เด็กหญิงวัยสิบสองปีกำลังเอ่ยบอกกับเด็กน้อยตรงหน้าของเขา พร้อมรอยยิ้มที่เผยแย้มขึ้นมาจนเต็มใบ
“พี่รันไปอยู่กับเอลิสไม่ได้เหรอคะ?” เด็กน้อยวัยเพียงหกขวบถามพี่สาวตรงหน้าของเธอตาใส เพราะเขาเป็นคนสนิทที่อยู่เคียงข้างเธอเพียงคนเดียวในสถานที่แห่งนี้
“สักวันเราจะได้กลับมาพบกัน...” เขาเอ่ยบอกและกระชับที่มือของเด็กน้อยเอาไว้แนบแน่น
แม้ในใจเขาจะไม่อยากให้เธอจากไปก็ตาม แต่ตัวเขาก็เป็นเพียงแค่เด็กกำพร้าคนหนึ่งที่ถูกทอดทิ้ง ไม่ได้ต่างอะไรไปจากเด็กคนอื่น ๆ ที่อยู่กับเขาที่สถานที่แห่งนี้
รวมไปถึงเด็กน้อยตรงหน้าของเขาด้วย...
“เราต้องไปกันแล้ว...เด็กน้อย” การันเงยหน้ามองชายวัยกลางคนที่แต่งตัวภูมิฐานดูมีฐานะ
เขาเดินเข้ามาและนั่งลงเคียงข้างเธอ มือของเขาโอบไปรอบตัวเด็กน้อยและดึงเข้าไปแนบแน่นจนมือของเราที่กอบกุมกันไว้หลุดพ้นออกจากกัน
เอลิสหันหน้าไปมองผู้ปกครองคนใหม่ของเธอทั้งน้ำตา ก่อนจะเอื้อนเอ่ยประโยคที่อยู่ในใจของเธอออกมาอย่างไม่ประสีประสา
“ให้พี่รันไปอยู่กับเราไม่ได้เหรอคะ?” น้ำตาของเธอรื่นชื้นขึ้น ซึ่งคนตรงหน้าของเธอก็ได้เพียงแต่ยกยิ้มออกมาพร้อมทั้งหัวเราะหึอย่างชอบใจในความอ่อนโยนของเด็กน้อยตรงหน้า
“นี่คือเหตุผลว่าทำไมฉันถึงเลือกที่จะรับเลี้ยงโอเมก้าแทนพวกอัลฟ่าอย่างเธอ...” ชายวัยกลางคนคนนั้นหันมามองการันด้วยแววตาแห่งความรังเกียจเดียดฉันท์ “เพราะพวกอัลฟ่าอย่างเธอน่ะมันน่ารังเกียจและป่าเถื่อน...พวกเธอคงไม่รู้จักคำว่าอ่อนโยนเหมือนที่พวกโอเมก้านั้นมี”
ทันทีที่ประโยคนั้นเปล่งออกจากปากคนตรงหน้า แววตาสีฟ้าครามของการันก็แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงกล่ำอย่างเด็กน้อยที่ไม่รู้จักวิธีระงับอารมณ์ มือของเขาบีบแน่นจนได้กลิ่นคาวเลือดที่ออกมาจากฝ่ามือจนเหม็นฟุ้ง
“โถ่เด็กน้อยเอ๋ย...พวกอัลฟ่าโสโครก!” เขาเหยียดยิ้มพร้อมทั้งลุกยืนขึ้นจนเต็มความสูง “ไปกันเถอะ...ต่อไปนี้ฉันคือพ่อคนใหม่ของเธอ เอลิส”
ชายคนเดิมดันหลังของเด็กน้อยที่กำลังร้องไห้ระงมเดินไปขึ้นรถยนต์คันหรู
แต่ก่อนที่เธอจะจากไป เจ้าหล่อนหันหน้ามามองการันด้วยแววตาแห่งความเดียงสา รอยยิ้มสุดท้ายที่เขาได้พบเห็นมันตราตรึงอยู่ในหัวใจของเขา...
ต่อให้ตายจาก...เขาก็จะไม่มีวันลืมมัน
“ไว้เอลิสจะมาเยี่ยมพี่การันนะคะ...การันของเอลิส”
และคำพูดนั้นยังคงตราตรึงใจของการันมาเสมอ...แต่เธอก็ไม่เคยกลับมา ไม่เคยกลับมาหาเขาอีกเลยแม้เพียงแค่ครั้งเดียวก็ไม่เคย...
การันของเอลิส...
การันของ...
การัน...
“เฮือก!”
ปัง ๆ ๆ
“ไอรัน! ตื่นสิโว้ย! มึงจะนอนไปถึงไหน!” เสียงเคาะประตูที่หน้าห้อง บวกกับฝันซ้ำ ๆ ที่เขาฝันถึงมันทำให้เขาตื่นขึ้น
การันยกมือปาดเหงื่อของตัวเองทั้งที่สวมเพียงเสื้อกล้าม ก่อนจะใช้รูปร่างสูงโปร่งของตนเองลุกเดินไปทางประตูไม้เก่า ๆ ที่ใกล้ผุพัง
“ไอ้...กว่ามึงจะเปิดนะ!” ทันทีที่เขาเปิดประตูออก ก็โดนไอเบคเพื่อนชายมองค้อนใส่ทั้งยังยกมือกอดอกอย่างไม่ชอบใจ “ทำอะไรอยู่วะ? ทำไมเหงื่อออกเยอะขนาดนี้! อย่าบอกนะว่าเอ็ง...” มันพูดก่อนจะชี้นิ้วมาที่ใต้กางเกงขาสั้นของเขาอย่างที่รู้ว่าเราก็มีเหมือนกัน
“หยุดพูดจาเพ้อเจ้อ!” การันเบี่ยงตัวหลบมือของไอเพื่อนที่คิดอะไรสกปรกโสโครก “แล้วมีเรื่องอะไร?”
“พ่อให้กูมาตาม...” เบคที่ตอนแรกดูเหมือนจะติดเล่น แต่พอบทที่มันจะต้องจริงจัง มันก็จริงจังจนน่าใจหาย
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
“กูไม่แน่ใจ...แต่เหมือนได้ยินว่าพ่อมีงานให้มึงทำ” การันพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
ก่อนจะขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปพบกับพ่อ...คนที่ชุบเลี้ยงเขามาจนอายุครบยี่สิบหกปีบริบูรณ์
การันเป็นอัลฟ่าที่ถูกรับไปเลี้ยงจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเมื่อตอนอายุได้สิบสี่ปี...
ในช่วงแรก ๆ พ่อนั้นใจดีกับเขามาก ดูแลเขาทุกอย่างไม่ให้ขาดเหลือ แม้กระทั่งเรื่องที่นอนและอาหารการกินก็ดีกว่าตอนที่อยู่ที่นั่นนั้นมากโข
จนถึงวันที่การันอายุครบสิบห้าปี เขาก็เข้าใจในทันทีว่าพ่อรับเขามาเลี้ยงทำไม...
สถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนกับโรงงานผลิตนักฆ่า แต่ก็เรียกได้ไม่เต็มปากนัก เพราะพวกอัลฟ่านั้นไม่ได้มีเยอะมากมายถมไป เขาเป็นอัลฟ่าเพียงคนเดียวในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ณ เวลานั้น
ผู้คนที่อยู่ที่นี่นั้นล้วนแล้วแต่เป็นอัลฟ่าทั้งสิ้น และพวกเขาก็ถูกเลี้ยงดูจากพ่อ เพื่อให้ไปเป็นนักฆ่าที่สมบูรณ์แบบ...
และการันก็เป็นหนึ่งในนั้น...
พ่อนั้นมีอิทธิพลอยู่มากพอสมควร จึงทำให้ไม่มีใครกล้ามายุ่งและมาเหิมเกริมใส่ แม้กระทั่งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ดูแลเมืองนี้ พ่อนั้นกว้างขวางในด้านธุรกิจมืดและยังรับจ้างฆ่าคนโดยที่ตัวเองไม่ต้องลงมือและลงแรงอะไรเลยก็มีเงินเป็นกอบเป็นกำ
ก็แน่ล่ะ...เขาก็ต้องใช้งานพวกที่เขาเก็บมาเลี้ยงนั้นให้เป็นประโยชน์ แม้การันจะรู้ว่าจะต้องเป็นอย่างไรต่อจากนี้แต่เขาก็นึกขอบคุณที่พ่อรับเขาเข้ามาเลี้ยง
อย่างไรเสียเขาก็โชคดีที่ไม่เกิดมาอ่อนแออย่างพวกโอเมก้า...และเขาก็เป็นพวกป่าเถื่อนอย่างที่ชายคนนั้นเคยพูดดูถูกเขาเมื่อตอนนั้น
ความอ่อนโยนคืออะไร? มันจะไม่เกิดกับพวกหัวรุนแรงและดิบเถื่อนอย่างอัลฟ่าแน่นอน!
“พ่อ...” การันเอ่ยเรียกชายสูงวัยที่กำลังยืนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง
เมื่อครั้นที่เขามารับการันไปเลี้ยงดูเขาหนุ่มแน่นกว่านี้มาก เวลาผ่านไป...มันก็ไม่แปลกที่เขาจะต้องโตขึ้นและแก่ไปตามกาลเวลา
“มาแล้วหรือลูกรักของพ่อ...” เขาหันมายกยิ้มให้อย่างชายใจดี พร้อมทั้งนั่งลงที่เก้าอี้ตัวใหญ่
“มีงานอะไรให้รันทำคะ?” แน่นอนว่าเขารู้ตัวว่าตัวเองนั้นเป็นลูกรัก
เพราะเขาเป็นเด็กที่เรียนรู้ได้ไวและว่านอนสอนง่าย ไม่เหมือนกับเด็ก ๆ บางคนที่มักจะต่อต้านในช่วงแรก ๆ แถมการันยังเป็นเด็กเพียงคนเดียวที่สามารถรับงานได้ก่อนคนอื่น ๆ เพราะความเฉลียวฉลาดและความสามารถที่ล้นเหลือ
การันถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นหัวหน้าในเวลาเพียงแค่สี่ปีให้หลัง ทำให้มีหลายคนในนี้ไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขา แต่การันก็มีพ่อคอยคุ้มกะลาหัวจึงทำให้ไม่มีใครกล้าทำอะไร
“มานั่งก่อนสิลูกพ่อ” การันเดินไปหย่อนก้นนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของเขาตามคำสั่ง “พ่ออยากให้ลูกไปจัดการผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนึงเท่านั้นเอง”
การันเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เพราะถ้าเป็นแค่ผู้หญิงอย่างที่พ่อว่า ก็ไม่น่าจะต้องถึงมือเขาที่งานส่วนมากจะได้ฆ่าถึงระดับพวกหน่วยรบพิเศษหรือพวกผู้นำระดับประเทศ
“ถ้าแค่นั้นก็ไม่น่าถึงมือลูก...”
“เพราะพ่อของมันพึ่งโดนลอบฆ่าไปโดยคนของเรา ทำให้คนใหญ่คนโตหลายคนกำลังเพ่งเล็งและจัดกำลังคนคุ้มกันมันจนทำให้คนของพ่อถูกฆ่าไปแล้วสองคน...”
“…”
“ถ้าหากพ่อยังปล่อยให้ไอคนไม่เอาไหนอย่างพวกมันไปฆ่านางนี่ต่อ...มีหวังพ่อคงได้สิ้นคนไปอีกหลายสิบคนเป็นแน่เลยลูกรัก”
“…”
“เข้าใจที่พ่อต้องการจะสื่อหรือยัง...ลูกรักของพ่อ” ชายสูงวัยตรงหน้าลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมมาทางด้านหลังของเขา “พ่อไว้ใจลูกของพ่อคนนี้มากที่สุด เพราะลูก...ไม่เคยทำให้พ่อต้องผิดหวัง” ประโยคที่ออกมาจากปากของเขาทำให้การันเข้าใจมันแต่โดยดี
“ลูกจะไม่ทำให้พ่อผิดหวัง...”
“ลูกยังคงเป็นคนโปรดของพ่อเสมอ...” เสียงรองเท้าส้นหนักเดินกลับไปยังที่นั่งของตน
เขาล้วงไปหยิบซองเอกสารบางอย่างและยื่นส่งมาให้กับการัน ซึ่งการันเองก็รับมันมาถือไว้ และเปิดดูเป้าหมายของตนเองในทันที
“พ่อให้เวลาตราบเท่าที่ลูกต้องการ...อยากจะย่ำยีมันก่อนลงมือฆ่าก็ย่อมทำได้ มันเป็นเพียงโอเมก้าผู้อ่อนแอและโง่เขลา พ่อให้เป็นของขวัญแก่ลูกในวัยยี่สิบหกปีบริบูรณ์...”
การันพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ทั้งยังก้มหน้ามองใบหน้าสวยสดงดงามของคนในรูปเพื่อจดจำ
‘อาริสา แม็ค’
ต่อไปนี้เธอคนนี้เป็นของเขา เขาจะทำให้เธอทรมานน้อยที่สุดก่อนที่จะตาย...
เขาสัญญา!