04

1232 Words
ครั้นพอเห็นคนไม่มีอาภรณ์ติดกายแม้เพียงสักชิ้นทำหน้าราวกับจะร่ำไห้ ชายหนุ่มจึงตวัดเสื้อที่ตัวเองถอดวางไว้คลุมร่างให้ แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ทั้งคู่สบตากัน แต่ครั้งนี้เขากลับดูหล่อเหลาราวเทพบุตรในสายตาเธอ และเพราะความหล่อและแสนดีนี้ คนที่พยายามสวมเสื้อตัวหลวมโคร่งก็เกิดอาการขวยเขิน พลางเม้มปาก เอาผมทัดหู ตามมาด้วยการชะม้อยชะม้ายชายตาทำท่าเอียงอาย ก่อนจะต้องตาโต เมื่อจู่ๆ อีกฝ่ายกระตุกชายเสื้อจนเธอเซถลาไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขาในระยะประชิด ทำคนเหนียมอายก่อนหน้าทำท่ากระมิดกระเมี้ยนหลบหน้าหลบตาเป็นพัลวันอีกครั้ง “แค่ใส่เสื้อแค่นี้ เหตุใดจึงทำท่าเงอะงะ หรือเป็นเพราะเจ้าทำอะไรเยี่ยงที่มนุษย์เขาทำกันมิได้สินะ” เขาบ่นพลางผูกเชือกที่เสื้อให้ ทำเอาความกระมิดกระเมี้ยนก่อนหน้าถึงกับปลิดปลิว กลายเป็นความเขม่นเข่นเขี้ยวแทน ‘ไม่ได้เงอะงะ แต่เขินเว้ย แล้วนี่เสื้ออะไร ทำไมมันใส่ยากจังวะ’ เธอได้แต่เขม่นอีกฝ่ายในใจ “ตามข้ามา” หลังจากผูกเชือกเสื้อตัวหลวมโคร่งให้เธอแล้ว เขาจึงเดินนำเธอขึ้นไปด้านบน ในขณะที่เธอก็เดินตามไปอย่างไม่มีทางเลือก แต่ก็ไม่วายทำปากขมุบขมิบ กระทั่งเหลือบไปเห็นสภาพแวดล้อมที่ดูแปลกตา “นี่ฉันหลุดมาอยู่ในยุคไหนวะเนี่ย บทจะข้ามภพก็ข้ามกันได้ง่ายๆ แบบนี้เลย? นี่ข้ามภพนะเว้ย ไม่ใช่ข้ามถนนหน้าปากซอย” บรรยากาศรอบตัวกอปรกับเครื่องแต่งกายที่ผิดแผกทำให้เธอแน่ใจว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ของเธอ แต่ก็ไม่แน่ใจว่ามันคือที่ไหน จึงได้แต่กู้ร้องในใจเพียงลำพัง กระทั่งความน่าอดสูก็ยังไม่จบเพียงเท่านั้น “เจ้าเป็นตัวอะไร” คำถามโต้งๆ ทำเธอชะงัก ก่อนหันมาจ้องเขาตาขวางพลางบ่นงึมงำ “ถามแบบนี้ สู้ชี้หน้าด่ากันยังดูหยาบคายน้อยกว่า” “เป็นปิศาจรึ” อีกครั้งที่คนถูกถามราวกับถูกตบหน้า “ถ้าฉันเป็นปิศาจ ฉันคงจับคุณกินตับไปตั้งนานแล้ว ไม่ปล่อยให้คุณมาหยาบคายใส่ฉันแบบนี้หรอก” เธอท้าวสะเอวท่าทางเอาเรื่อง “กิริยาท่าทางราวคนป่า ไร้ซึ่งการอบรม อีกทั้งวาจาก็ดูผิดแผก ถ้ามิใช่ปิศาจก็คงเป็นภูติน้ำสินะ” นี่มันยิ่งกว่าการถูกตบหน้าแล้วจับหัวกดน้ำซะอีก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ยังไงคุณก็ตัดสินไปแล้วว่าฉันไม่ใช่คน เพราะงั้นจะผีหรือปิศาจก็แล้วแต่เลย ในเมื่อสถานการณ์มันพาให้เชื่อแบบนั้น จะให้ฉันพูดอะไรได้อีก” ถ้านี่คือการประชดประชัน เธอก็คงกำลังประชดโชคชะตาอยู่กระมัง “พูดได้สิ จะคนหรือปิศาจก็ควรมีโอกาสได้พูดได้อธิบาย อีกอย่างข้าก็มิใช่จะใจจืดใจดำปิดโอกาสเจ้าเสียเมื่อไหร่ ขอเพียงแค่เจ้าไม่โกหกก็พอ” หลี่ลู่อวี๋มองหน้าเขาอย่างพยายามใช้ความคิด ก่อนจะตัดสินใจได้ในที่สุด “ก็ได้ ไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วนี่” ว่าแล้วหญิงสาวก็เล่าทุกอย่างให้เขาฟัง “ทั้งหมดที่เล่ามา เจ้าจะบอกว่าเจ้ามาจากโลกอนาคตหลายร้อยปีข้างหน้า” เขาถามหลังจากได้ฟังเรื่องทั้งหมด ครั้นพอเห็นเธอพยักหน้าหงึกหงักจึงถามต่อ “อีกทั้ง…แท้จริงแล้วเจ้ายังเป็นมนุษย์ แต่มีเหตุบางอย่างให้ต้องกลายมาเป็นปลา” เธอมองเขาตาโตอย่างคนมีความหวัง พลางรีบพยักหน้าอีก “อืม…ไม่นึกว่าภูติน้ำเช่นเจ้าจะเก่งการปั้นเรื่องด้วย คงอยากเป็นมนุษย์มากเลยสินะ เอาเถอะ! เห็นแก่เดรัจฉานที่อยากมีชีวิตเยี่ยงมนุษย์เช่นเจ้า ข้าจะถือว่าไม่เคยฟังเรื่องโป้ปดพวกนี้มาก่อน เช่นนั้นเจ้าก็จงกลับไปอยู่ในที่ของเจ้าเถอะ หากอยู่เหนือน้ำนานเกินไป เกรงว่าเจ้าอาจจะตายได้” คนถูกไล่ถึงกับอ้าปากหวอ ไม่รู้ควรตกใจเรื่องไหนก่อน เรื่องที่เขาไม่เชื่อ เรื่องที่ถูกหาว่าเป็นเดรัจฉาน หรือเรื่องที่เขาไล่ให้ลงไปอยู่ในน้ำ “ฮือๆๆ” อยู่ๆ เธอก็ปล่อยโฮเสียงดังพร้อมกับทรุดลงไปนั่งกับพื้น “คุณไม่รู้หรอกว่าฉันต้องใช้ความพยายามแค่ไหนกว่าจะกลับมาเป็นคนได้ แต่คุณกลับไล่ให้ฉันกลับไปเป็นปลา แค่โชคชะตาเล่นตลกกับฉัน ฉันก็แทบรับไม่ไหวอยู่แล้ว คุณยังมาใจร้ายกับฉันอีก ฮือๆๆ ฉันไม่ได้อยากมาที่นี่ ไม่ได้อยากเป็นปลา ฉันอยากกลับบ้าน” เห็นเธอร้องไห้ฟูมฟาย ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็พอจะจับใจความ เขาจึงทรุดนั่งลงข้างๆ “เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกจับกิน ปลาเช่นเจ้าคงอยากมีชีวิตเยี่ยงมนุษย์มากเลยสินะ” เขาพยายามพูดปลอบ แต่มันกลับทำให้คนถูกปลอบหันขวับไปมองตาขวาง ก่อนจะตวาดเสียงดังลั่น “ไม่ได้อยาก แต่ฉันเป็นมนุษย์โว้ย เป็นมนุษย์ไม่ใช่ปลาได้ยินไหม ฮือๆๆ” “อืม! เข้าใจแล้ว” คนที่ร้องไห้ฟูมฟายก่อนหน้าถึงกับชะงัก แล้วเงยหน้ามองคนพูด ครั้นพอเห็นรายนั้นกำลังยิ้มน้อยๆ เธอก็ปล่อยโฮอีกครั้ง “ฮือๆๆ ไม่อะ คุณไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเลยสักนิด” โครก…คราก…. ทั้งที่กำลังร้องไห้คร่ำครวญด้วยความทดท้อและน้อยใจ ท้องเธอยังมาร้องให้ได้อายอีก โดยเฉพาะเมื่อหันไปเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังพยายามกลั้นยิ้ม จากความอายก็กลายเป็นความเจ็บใจ “คุณไม่รู้หรอกว่าฉันเจออะไรมาบ้าง ไหนจะเรื่องที่ต้องกลายเป็นปลาแบบไม่รู้ตัว แล้วยังต้องว่ายหนีคน จนร่างกายฉันเปลี้ยไปหมด เท่านั้นยังไม่พอ ฉันต้องว่ายหนีไอ้พวกปลาชีกอที่มันยกพวกจะมารุมข่มขืนฉันด้วย เจอมาขนาดนี้คุณคิดว่าฉันต้องรู้สึกยังไง ใช่! ฉันหิว แล้วก็หิวมากด้วย” เธอโพล่งออกมาอย่างสุดจะกลั้น และนั่นก็ทำให้ข้างๆ หน้าถมึงทึงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าจะจับปลาตัวผู้ในคุ้งน้ำสายนี้มาทำอาหารให้หมด” คนที่ฟูมฟายก่อนหน้าถึงกับสะอึก ก่อนจะหันไปถามเขาแบบงงๆ “เพื่อ?” “ก็เพื่อแก้แค้นที่พวกมันยกพวกมารังแกเจ้าอย่างไร” “จะบ้าเหรอ ทำแบบนั้นได้ไงเล่า พวกมันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย มันก็แค่ทำไปตามสัญชาตญาณ ธรรมชาติของปลามันก็ต้องผสมพันธุ์เพื่อขยายเผ่าพันธุ์ของมันสิ” คนที่เคยเป็นปลา แม้จะช่วงเวลาสั้นๆ ออกอาการเห็นอกเห็นใจ “เจ้าออกรับแทนพวกมัน หรือจริงๆ แล้ว เจ้าเองก็มีใจให้มัจฉาหนุ่มพวกนั้น” คนถูกกล่าวหาถึงกับอ้าปากค้าง พลางมองไปที่เขาตาโต
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD