ตอนที่ 10

1151 Words
วาโยเอนกายกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟาเบด สองมือประสานวางไว้บนหน้าอก เขาชันหัวเข่าด้านที่ติดพนักพิงขึ้น ขาอีกข้างเหยียดตรงตามความยาวของโซฟา ชายหนุ่มหลับตา ทว่าใบหน้าแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มน่าหมั่นไส้ พลอยไพลินเดินมาเข้ามาหยุดยืนเท้าสะเอวอยู่ข้างๆ เวลาโกรธ เธอมองเห็นเสือตัวเท่ามด ความระวังตัว และความหวาดหวั่นก่อนหน้านี้หายไปไหนหมดก็ไม่รู้ ตอนนี้เธออยากจะฉะกับคนที่นอนอยู่ตรงหน้ามากกว่า “พี่โย! ไม่ต้องทำเป็นหลับตาเลยนะคะ เพิ่งเดินเข้ามาเมื่อกี้เอง หลับไวขนาดนี้เลยเหรอ ลุกขึ้นมาเคลียร์เลยนะ” พลอยไพลินคว้าข้อมือข้างหนึ่งของคนแกล้งหลับดึงขึ้นมา ทว่าร่างใหญ่ไม่ขยับเขยื้อน ยิ่งเขานอนนิ่งเธอก็ยิ่งโมโห จึงออกแรงดึงสุดกำลัง “อุ๊ย!” ไม่เพียงแต่เขาไม่ลุกขึ้นดั่งใจเธอต้องการ แต่เขายังใช้มืออีกข้างคว้าหมับที่ข้อมือเล็กของเธอ แล้วออกแรงดึงเพียงนิด ทำให้ร่างนุ่มนิ่มปลิวติดมือเขา ล้มฟุบลงไปเกยอยู่บนอกกว้าง แถมยังถูกวงแขนแข็งแรงรวบกอดไว้แน่นหนา “พี่โย! ปล่อยเต็นนะ” พลอยไพลินใช้สองมือยันอกแกร่งไว้ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองคนที่เอาแต่หลับตานิ่ง แต่วงแขนกลับรัดเธอไว้เสียแน่น “พี่อยากให้เต็นพักผ่อน นอนซะ” “ไม่นอนค่ะ ไม่ง่วง พี่โยปล่อยเต็นเถอะนะ เต็นจะออกไปข้างนอก” ร้อนวูบวาบไปทั้งตัว แบบนี้มันใกล้ชิดกันเกินไปแล้ว เธอรับรู้ได้ถึงกล้ามเนื้อแน่นตึงไปทุกสัดส่วนของเขา กลิ่นกายหอมอ่อนๆแบบผู้ชายของเขาทำให้เธอปั่นป่วนมวนท้องไปหมด “ชู่ว์! อย่าดื้อ พี่จะนอน” “ก็นอนไปคนเดียวสิคะ เต็นไม่นอนด้วยหรอก” พลอยไพลินพยายามขืนตัวออกจากอ้อมกอดแน่นหนา ทว่าคนใจดำไม่ยอมให้เธอทำได้อย่างใจต้องการ ไม่น่าเลย เธอไม่น่าเดินตามเขาเข้ามาเลย “ดื้อจริง...” วาโยลืมตาขึ้น เขายิ้มกรุ้มกริ่ม เพิ่มแรงรัดร่างแน่งน้อยที่นอนเกยก่ายอยู่บนตัวเขาแน่นขึ้นอีก “พี่โยปล่อยเต็นก่อนนะคะ เต็นอึดอัด หายใจไม่ออก” เมื่อถูกเขาใช้กำลังที่มีมากกว่ากักกันไว้ในอ้อมกอด พลอยไพลินก็หน้าเสีย เธอยอมอ่อนข้อพูดดีๆกับเขา เพราะหน้าตาของเขาในตอนนี้ไม่น่าไว้วางใจ “หืม...หายใจไม่ออกเหรอครับ งั้น...พี่ช่วยผายปอดนะ” วาโยพลิกกายขึ้นคร่อมร่างสาวอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากเจนจัดประกบแนบชิดไม่พลาดเป้า ปากนุ่มๆอุ่นๆถูกครอบครองโดยที่เจ้าของมันยังมิทันได้เอ่ยคำห้ามปราม พลอยไพลินหลับตาปี๋ สองมือดันบ่าของผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้ายไว้สุดแรง หญิงสาวดิ้นยุกยิก พยายามจะพาตัวเองหนีจากการถูกจับผายปอดโดยไม่ได้เต็มใจ ทว่าเรี่ยวแรงของแม่นกกระเต็นน้อยมิอาจต่อกรกับพญาเสือเจ้าเล่ห์ได้ รสจูบหวานซ่านทรวงที่เคยคุ้นชักนำให้เธอติดกับ หลงมัวเมา และเผลอจูบตอบเขาจนได้ วาโยแทบคลั่ง เมื่อสองแขนเรียวยกขึ้นคล้องลำคอแกร่ง น้องจูบตอบอย่างที่เขาพร่ำสอนมาแล้วหลายครั้ง จากผู้นำในคราแรก ตอนนี้วาโยเริ่มรู้สึกว่าตนเป็นผู้ตาม กลีบปากนุ่มๆที่แนบประกบ กับลิ้นเล็กที่เคลื่อนไหวสำรวจตรวจตราอยู่ในอุ้งปากอุ่นร้อน และสองมือบางที่เลื่อนขึ้นนวดคลึงท้ายทอยของเขาเบาๆ กำลังจะทำให้เขาสูญเสียการควบคุมตัวเอง ชายหนุ่มครางลึกในลำคอ บดเบียดริมฝีปากจูบอย่างดุดัน เธอร้ายกาจขึ้นทุกวัน ร้ายจนเขาต้องกำราบให้รู้ซะบ้างว่าใครคือผู้ที่เหนือกว่าตัวจริง หวานล้ำจนอยากจะกลืนกินลงท้อง หอมกรุ่นจนมิอาจต้านทานมนตร์เสน่ห์แห่งกายสาว นุ่มละมุนจนอยากกอดเกี่ยวไว้แนบกายตลอดไป... แม่นกกระเต็นน้อยนอนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดเสือร้าย โดยมีท่อนแขนแข็งแรงให้หนุนนอนต่างหมอน ใบหน้าน่ารักหงิกงอ หญิงสาวใช้ลิ้นแตะและเลียริมฝีปากล่างเป็นระยะ แม้ไม่ได้ส่องกระจกดู เธอก็รู้ว่ามันบวมอีกแล้ว และต้องมีรอยช้ำด้วยแน่ๆ “พี่ขอโทษ” น้ำเสียงราวสำนึกผิด ทว่าใบหน้าหล่อเหลานั้นแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ พลอยไพลินไม่เห็นสีหน้าของเขา และเธอก็ไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมองด้วย เธอโกรธ...โกรธความเอาแต่ใจของเขา วันก่อนเพิ่งเตือนไปแหม็บๆ วันนี้เขากลับทำให้ปากเธอเป็นรอยอีกแล้ว “พูดกับพี่สักคำ อย่าเงียบแบบนี้ พี่ใจไม่ดี” วาโยเชยคางเล็กขึ้นมา แต่ยังไม่ทันจะได้สบตากัน คนโกรธก็สะบัดหน้าหนี เอาหน้าซุกอกกว้าง ไม่ยอมเงยขึ้นมามองเขา “คราวนี้โกรธจริงเหรอ” “โกรธจริงทุกทีแหละ แต่พี่โยหน้ามึน ชอบรังแกน้อง” พลอยไพลินว่าเสียงกระเง้ากระงอด “ก็เต็นน่ารัก พี่อดใจไม่ไหว” วาโยขยับกาย เขากอดยกเอาร่างน้องขึ้นมาให้เธอนอนคว่ำเกยอยู่บนร่างแกร่งของตนทั้งตัว “พี่โย!” พลอยไพลินทุบเขาไปสองตุ้บ ดวงตาคู่งามจิกมองเขาอย่างเอาเรื่อง “หลับตา นอนซะ ไม่อย่างนั้นพี่จะจูบอีก” วาโยขู่เสียงเข้ม พลอยไพลินถอนหายใจออกมาสุดแรง หญิงสาวแนบแก้มลงกับอกอุ่น “กว่างานจะเรียบร้อย เต็นคงเสียเปรียบเป็นกระบุงโกย” เธอยอมอยู่นิ่งให้เขากอด ดีกว่าถูกเขาจูบ อย่างน้อยตอนนี้เธอก็ครองสติได้มากกว่าตอนที่ถูกเขาจูบก็แล้วกัน “ไม่รู้ว่ามาคุ้มกันอันตราย หรือว่ามาทำอันตรายกันแน่” พลอยไพลินยังบ่นไม่เลิก และบ่นต่ออีกหลายคำ วาโยยิ้มกริ่ม เขาหลับตาลงฟังน้องบ่นอยู่เงียบๆ ถ้าเธอจะบ่นแล้วยอมให้เขากอดไว้แบบนี้ เขายอมนอนฟังเธอบ่นตลอดทั้งวันก็ได้ แต่หลังจากบ่นต่ออีกไม่กี่ประโยค คนที่นอนดึก ตื่นแต่เช้าตรู่ และต้องเดินทางไกลก็ผล็อยหลับไปบนอกกว้าง ลืมเลือนไปเลยว่า เธอเดินตามเขาเข้ามาเพื่อจะต่อว่าต่อขานเรื่องหยากไย่เจ้าปัญหา วาโยรับรู้ว่าน้องหลับแล้วจากจังหวะลมหายใจสม่ำเสมอ เขาจูบกระหม่อมสาวเบาๆ ริมฝีปากหยักได้รูประบายยิ้มอ่อนโยน ชายหนุ่มพ่นลมหายใจยืดยาว เขาก็อยากหลับเหมือนกัน แต่หลับไม่ลง เพราะตอนนี้เขาตื่นเต็มตา ตื่นมาก ตื่นจนน่าจับหักคอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD