Chapter 4
“ลื้อหายหัวไปไหนมา? อั๊วกับอาม่า อาอี๊[1] โทรไปไม่รับสักสาย?”
ภาษาไทยสำเนียงจีนของหนุ่มสูงวัยบอกผ่านร่างเย็นวูบ พร้อมสีหน้าเกรี้ยวโกรธไม่พอใจ
หญิงสาวกระชับเสื้อกาวน์ทับเสื้อมีปกสีครีมอ่อนข้างในด้วยความรู้สึกเสียวสันหลัง หากบิดาบุกมาหาถึงห้องพักใกล้ที่ทำงานในเวลาห้าโมงเย็น แปลว่าคงมีเรื่องสำคัญจริง ๆ หรือไม่ก็มาหาเรื่องทะเลาะเรื่องเดิม ๆ
มันคือคู่หมั้นคู่หมาย อาตี๋ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ที่คนอย่างเมษาไม่เอามาทำสามีแน่!
“อั๊วเข้ากะไม่เป็นเวลา บางวันเช้าบ่ายดึก มั่วไปหมด... ป๊า... อั๊วงานยุ่งนะ จะมาหาทำไม? บอกแล้วว่ามันเสี่ยง”
“ก็อั๊วมีเรื่องจะคุยกะลื้อ! เรื่องอา...”
“ไม่เอา! อั๊วไม่แต่งกับเ**ก!”
“ลื้อไม่ใช่เ**กหรือไงวะ!?”
ในระยะห่างของการพูดคุยกันเกินกว่าหนึ่งเมตรทำให้ต้องตะเบ็งเสียงอยู่ตลอด
แขกผู้มาเยือนยังไม่ได้ถอดหน้ากากอนามัย ทั้งที่เจ้าของห้องเป็นลูกสาวแท้ ๆ
บิดาในสภาพอาแปะสวมเสื้อยืดอยู่บ้านกางเกงสามส่วนมีท่าทีระแวดระวังบุคลากรทางแพทย์ซึ่งทำงานในโรงพยาบาล ในช่วงที่บ้านเมืองกำลังมีโรคระบาดอย่าง COVID-19 ถึงขั้นไม่ต้อนรับกลับบ้าน โดยไม่ได้สนใจในความเปลี่ยนแปลงของลูกสาว
ด้วยความเป็นคนตัวเล็กเอวบาง หลายคนคงมองไม่ออกว่าหล่อนมีน้ำมีนวลขึ้นเล็กน้อย
‘เมษา’ เป็นลูกสาวคนเล็กนอกจากชื่อตามคุณแม่คนไทยแท้แล้วหล่อนมีชื่อจีนที่บิดาตั้งให้ตามหน้าตาสะสวยของหล่อนเองคือ ‘ทองที่สวยงาม’ ***เมี่ยวจิน ออกเสียงอย่างจีนกลางแต่ชื่อของหล่อนเป็นสำเนียงแต้จิ๋ว
“วันนี้มีผู้ป่วยมาตรวจเลือดตั้งหลายคนแหนะ เกิดอั๊วติดโควิดโดยไม่รู้ตัว ป๊าจะเดือดร้อนเอานา... กลับไปเหอะ อั๊วไอ๊ขื๊ออุ๊กเหลี่ยว”
หล่อนล้วงมือในกระเป๋าเสื้อ อีกข้างโบกมือไล่บอกว่าจะไปนอนแล้ว ขณะที่บิดาอยากมาพูดเรื่องคู่ครองกับลูกสาวให้เข้าใจกันเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมของครอบครัวใหญ่ ก็ต้องเอาให้ได้
“อาเหมี่ยวกิม เมื่อไรลื้อจะลาออกกลับมาอยู่บ้าน แต่ง ๆ กับอาเฮียจางไป มามากเรื่องมากราวทำงานนอกบ้านทำไม? มาช่วยงานที่บ้านนี่ งานตั้งเยอะแยะ”
“ชีวิตอั๊วป่ะ? ป๊าให้อั๊วเกิดมาแล้ว อย่าทวงน่ะ อั๊วดีดโควิดใส่จริง ๆ เข้ามาเซ่...”
เทคนิคแพทย์สาวทำท่าดีดปลายนิ้วใส่ผู้มาเยือนที่ไม่ได้ตลกกับหล่อน ด้วยวัยหกสิบห้าปี คนแก่ขี้กลัวขี้โรคได้ยินมาว่าติดเมื่อไรเปอร์เซ็นรอดชีวิตค่อนข้างต่ำ
“รับรองได้เลยว่าซี้แหงแก๋... ป๊าไม่แข็งแรง ไม่จำเป็นไม่ต้องมาเยี่ยมอั๊วนา เดี๋ยวอั๊วกลับอั๊วเองแหละ”
“ลื้อพูดแบบนี้มากี่รอบ เดี๋ยวกลับเดี๋ยวกลับ อั๊วแก่หง่อมขนาดนี้ จะอยู่อีกสักกี่ปีหา? ให้รอลื้อกลับมาช่วยงาน ป่านนั้นอั๊วคงได้ไปนั่งเล่นไพ่นกกระจอกกับแม่ลื้อบนสวรรค์แล้ว...”
นายคิมหันต์พูดหน้าตาเฉยกับการจากไปของภรรยาเมื่อสองปีก่อน ด้วยต่างคนแต่งงานกันมาด้วยการคลุมถุงชน
ตามแบบฉบับของคนจีนสมัยก่อน โดยส่วนใหญ่ การแต่งงานเป็นไปตามคำสั่งของพ่อแม่และการชักนำของแม่สื่อ ไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจเลือกคู่ครองด้วยตนเอง
ในบางกรณี คู่บ่าวสาวจะไม่ได้เห็นหน้ากันก่อนแต่งงานเลยจนเสร็จสิ้นพิธี เข้าเรือนหอแล้วจึงมีโอกาสเห็นหน้ากัน เพราะระหว่างทำพิธีนั้นเจ้าสาวจะมีผ้าแดงคลุมหน้าไว้
ดังสุภาษิตจีนว่า... หญิงสาวแต่งให้พ่อแม่ หญิงหม้ายแต่งให้ตนเอง
ถึงพวกเขาจะมีโซ่ทองคล้องใจมาด้วยกันสองคน คนเล็กเป็นสาวหัวรั้น ส่วนพี่ชายคนโตก็ไม่เอาอ่าว
“อาป๊ามายุ่งไรกับอั๋วเล่า ให้เฮียตี๋ไปช่วยป๊าทำสิ อั๊วเป็นผู้หญิงไม่เกี่ยวป่ะ... คราวที่แล้วป๊าบอกให้อั๊วลองเข้าไปดูว่าคนที่บ้านทำอะไรบ้าง? อั๊วก็เข้าไปดูแล้วไง ทั้งหน้าเว็บไซต์ ทั้งหน้าบริษัทเลย อั๊วลงทุนใช้บริการจัดหาคู่ระดับแพลตตินั่มเมมเบอร์เลยนะ แต่ก็ไม่ถนัดอ่ะ ไม่ใช่สายอั๊ว...”
เมษาได้เถียงแล้วคงไม่หยุดต่อด้วยภาษาแต้จิ๋วยาว ๆ ให้บิดายืนฟังส่ายหน้าไปมา
เรื่องบริษัทจัดหาคู่ ธุรกิจของครอบครัวของแซ่ลี้ หล่อนเคยเข้าไปดูหน้าบริษัทซึ่งได้รับผลตอบแทนจากค่าสมาชิกรายปี สมาชิกหน้าใหม่ได้กำไรพอสมควรในแต่ละปี
จากฐานข้อมูลเว็บไซต์มีการคัดเกรดบุคคลมีอายุหรือหนุ่มสาว ชนชั้นกลางไปจนถึงฐานะร่ำรวย ระดับการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี อาชีพมีหน้ามีตาในสังคม
แน่ล่ะว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเพื่อแลกกับข้อมูลคู่ครองดี ๆ สักคน ส่วนรายรับอีกทางหนึ่งมาจากค่าโฆษณาจุกจิกยิบย่อย ในส่วนแอปพลิเคชันผ่านมือถือ การันตีคุณภาพด้วยการเป็นเจ้าแรกของเมืองไทย
พูดถึงระบบการทำงานของบริษัท ‘คิมคิวปิด’ มีการเลือกสรรค์โปรไฟล์เกรดเอของลูกค้าผ่านพนักงานฝ่ายการตลาด ทำงานเป็นทีม พนักงานขายคอยหาลูกค้ามาผ่านช่องทางต่าง ๆ หลังจากนั้นจึงค่อยส่งอีเมลติดต่อพวกเขาจัดเลือกคู่ครองให้ตามความเหมาะสม พร้อมมอบของสมนาคุณมากมาย
ลูกค้ารายปีตอนนี้มีกิฟต์โวเชอร์จากบัตรเครดิต ร้านอาหารชื่อดัง บางคนมาสมัครชำระเงินหาคู่ครองทิ้งไว้ เพื่อนำใบลดหย่อนภาษีไปประกอบการยื่นเอกสารให้ได้เสียภาษีน้อยลง เป็นหนึ่งในยุทธการการตลาด
คนดื้อรั้นอย่างเมษาเลยประชดคนที่บ้าน ด้วยการจิ๊กโปรไฟล์ระดับแพลตตินั่มเมมเบอร์มาใช้บริการเองซะเลย แอปฯ ในมือถือก็โหลดเล่นไปงั้น ๆ
“อั๊วบอกตอนไหนว่าให้ลื้อเข้าไปใช้บริการ! อั๊วให้ลื้อไปดูว่าคนที่บ้านทำอะไรกันบ้าง? คนเป็นลูกสาวมันต้องมาช่วยกิจการที่บ้าน ดูอย่างบ้านอื่นซี...”
“เหมือน ๆ กันนั่นแหละป๊า อั๊วไม่ทำก็ให้เฮียตี๋ทำไปดิ เอ้อ เฮียจางเป็นผู้จัดการมาตั้งนานแล้วเฮียเก่งจะตาย แต่งกันไปเล้ย! สมัยนี้ผู้ชายแต่งงานกันเยอะแยะไป”
“อ้าวอีหมวยนี่! ลื้อนี่มันพูดไม่รู้เรื่อง ผู้ชายผู้ชายมันจะแต่งกันเข้าไปได้ยังไง? อั๊วให้ลื้อมาทำ มาสานต่อกิจการ มามีทายาทให้ครอบครัว แค่นี้ทำไมลื้อทำให้อั๊วให้อาม่าไม่ได้?”
“อั๊วไม่เป็นคอมฯ อ่ะ อั๊วไม่ชอบทำงานแนวคิวปิดหาคู่ให้คนอื่น อั๊วรักความโสด เฮียจางไม่ใช่สเปคอั๊วไม่ชอบ” หล่อนหมายความแบบนั้นไม่ใช่แค่เรื่องที่อยากโสดเพราะทางบ้านชอบมาวุ่นวาย นึกบางเรื่องขึ้นได้จึงมีรอยยิ้มขึ้นมา ว่าเสียงแหลมปรี้ด
“ป๊าาา! เอางี้ดีกว่าไหม? ลองให้เฮียทำดูก่อน ไม่ไหวค่อยมาเรียกอั๊ว ลูกป๊าต้องเก่งเหมือนป๊าสิ เชื่ออั๊ว เฮียตี๋ทำได้ ป๊าลองก่อนไม่เสียหาย เฮียตี๋เก่งคอมฯ จะตาย... อั๊วได้ยินว่าเฮียไปแข่งระดับประเทศเลยนาา”
“มาทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง ไม่ใช่ว่าลื้อมีอะไรปิดบังอั๊ว?”
[1] น้าผู้หญิง - ญาติฝั่งแม่