เมื่อเวลาแห่งความสุขผ่านไป คนตัวเล็กที่สุดของบ้าน ที่ผ่านการเล่นสนุกมาทั้งวัน ก็หลับไหลในอ้อมกอดของคนเป็นแม่อย่างเคย ญาดาอุ้มลูกสาวตัวเล็กไปนอนบนเตียง เสร็จแล้วก็รีบออกมาหาคนที่ทำท่าทีเหมือนมีเรื่องจะคุยกับเธอ
“พี่กรองมีอะไรหรือเปล่าคะ” ญาดาถามคนที่ยืนล้างชามอยู่เงียบๆ
“จะทำแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนคะคุณหนู” กรุณาที่ยืนหันหลังอยู่พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ จนคนตัวเล็กกว่าเข้าไปสวมกอดไว้ด้วยความรู้สึกผิด
“พี่ก็รู้ว่าบ้านนั้นไม่อยากได้ญีน่า จะให้หยีกลับไปยังไงคะ” ญาดาหลับตาลงอย่างเหนื่อยใจ คิดถึงคำพูดของบุพการี ก่อนจะตัดสินใจหอบลูกในท้องหนีออกมา แล้วรู้สึกปวดใจทุกครั้ง
เพราะเธอท้องทั้งที่เรียนยังไม่จบ บ้านที่เคยให้ความอบอุ่นและเคร่งครัดอยู่ตลอดจึงเมินเฉยเธอ ซ้ำยังบอกให้เธอเอาลูกในท้องออก แล้วกลับไปเรียนให้จบ ญาณิสาในวัย 20 ปีจึงเลือกทิ้งทุกอย่าง ในฐานะคุณหนูญาณิสา ออกมาพร้อมกับลูกในท้อง มาใช้ชีวิตเป็นญาดา ผู้หญิงที่ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง
เพราะอุ้มท้องอยู่ การหนีออกมาจากสถาณการณ์ ที่กำลังจะถูกจับไปทำแท้ง จึงยากลำบาก ไม่มีอะไรติดตัวมาเลยสักอย่าง มีเพียงสร้อยคอทองคำขาวเส้นเล็ก แหวนเพชร และของมีค่าเพียงเล็กน้อยติดตัวออกมา และตอนนี้เธอก็ขายทุกอย่างหมดแล้ว เพื่อเลี้ยงดูลูกของเธอ ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา
“จะปล่อยญีน่าให้อยู่แบบนี้ ในขณะที่ตัวเองทำงานตัวเป็นเกลียวนี่นะเหรอคะ แค่เวลาสักนิดให้ลูกยังไม่มีเลย ขนาดวันเกิดลูกก็หยุดไม่ได้ แล้วแบบนี้หลานของพี่จะมีความสุขได้ยังไง รู้ไหมคะว่าแต่ละวัน ญีน่าพูดอะไรกับพี่บ้าง”
กรุณาเพิ่งจะหาตัวคุณหนูของตัวเองเจอเมื่อสามปีก่อน หลังจากพยายามตามหามาตลอด 3 ปี ก็บังเอิญเจอญาณิสาในขณะที่หอบลูกน้อยวัยสองขวบเร่หางาน
เพราะเป็นห่วงสุดหัวใจ จึงหนีออกมาอยู่ด้วยกันกับคุณหนูที่ตัวเองรักทันที แต่เพราะเธอก็ไม่ได้มีอะไรติดตัวมา ภาระทุกอย่างจึงไปอยู่ที่ญาณิสาทั้งหมด ยังดีที่ได้ช่วยเลี้ยงคุณหนูตัวเล็กมาตลอดสามปี แต่เด็กน้อยอยู่ในวัยที่กำลังต้องการความรัก เธอขาดพ่อ จึงต้องการความรักของแม่ ที่เคยได้รับมาตลอดเพื่อเติมเต็ม
แต่สามปีให้หลัง ญาณิสาทำงานอย่างหนักเพื่อหาเลี้ยงสามชีวิต จึงไม่มีเวลาให้ลูกน้อยเลย เด็กหญิงญาณิดา จึงบ่นอยู่บ่อยๆ ว่าอยากได้แม่คนเดิมกลับคืนมา
“หยีลาออกแล้ว” ญาดาพูดเสียงเบา ซบหน้าลงกับแผ่นหลังที่ไม่เคยทอดทิ้งตัวเธอ พลางปล่อยให้หยดน้ำตาไหลริน
“แบบนี้ยิ่งแย่ รู้ไหมค่ะว่าค่าเทอมญีน่าค้างกี่รอบแล้ว”
เด็กน้อยญีน่าเข้าโรงเรียนแล้ว ในระดับชั้นอนุบาล และตอนนี้ก็ค้างค่าเทอมอยู่ รู้ดีว่ายิ่งพูดคุณหนูของตัวเองจะยิ่งเครียดและเสียใจ แต่ตอนนี้มันไม่มีทางเลือกแล้ว เพียงแค่คุณหนูยอมกลับไป ทุกอย่างต้องดีขึ้นกว่านี้แน่ๆ
“พรุ่งนี้หยีจะรีบหางานใหม่” ญาดารู้ว่าพี่เลี้ยงที่อยู่ด้วยกันมาเกือบทั้งชีวิตต้องการอะไร พี่กรองต้องการให้เธอกลับไปเป็นคุณหนูญาณิสาอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อเธอ แต่เพื่อญาณิดาลูกสาวของเธอ
“คุณหนูก็รู้ดีว่าพี่หมายถึงอะไร ต่อให้คุณหนูได้งานดีแค่ไหน เงินเดือนวุฒิม.6 มันก็ได้แค่ค่าแรงขั้นต่ำ แต่ถ้าคุณหนูกลับไปบริหารงานของที่บ้าน คุณหนูของพี่จะไม่เหนื่อยแบบทุกวันนี้ และมีเงินเลี้ยงดูญีน่าได้ดีกว่าตอนนี้”
ทำไมคุณหนูของเธอถึงไม่คิดแบบนี้เลย มีแต่ดันทุรังจะพึ่งตัวเองอยู่แบบนี้ ไม่สงสารร่างกายตัวเอง ก็สงสารความเป็นอยู่ของญีน่าบ้าง บ้านหลังนี้ก็ค้างค่าเช่าเกือบ 3 เดือนแล้วนะ อีกหน่อยคงไม่มีที่ซุกหัวนอนกันทั้งสามคน
“เอาไว้เป็นทางเลือกสุดท้ายแล้วกันค่ะ หยีไม่อยากกลับไป” ญาดาผละออกจากแผ่นหลังที่ใช้พักพิงตลอดมา การจะกลับไปที่นั่น เธอเอาไว้เป็นทางเลือกสุดท้าย ที่นั่นหรือที่นี่ มันก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เธอยังไม่พร้อมจะกลับไปจริงๆ
“คุณหนูเคยหวังมาตลอดนี่คะ ว่าอยากได้เวลาจากคนเป็นพ่อแม่บ้าง เคยถูกทิ้งให้อยู่บ้านกับพี่และคนใช้คนอื่นๆเพียงลำพังมาตลอด แล้วดูสิ่งที่คุณหนูกำลังทำกับลูกตัวเองสิคะ มันต่างกันตรงไหน”
กรุณาหันหน้ามามองคนที่ยืนนิ่ง จับไหล่เล็กๆทั้งสองข้างอย่างแรงเพื่อเรียกสติ
เธอกับญาณิสา ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน เธอเป็นลูกสาวของแม่บ้านประจำบ้านของญาณิสา รู้ดีทุกอย่างว่าเด็กน้อยตรงหน้า โตมาโดยขาดความเอาใจใส่ของพ่อแม่ แม้พวกท่านจะรักญาณิสาและร่ำรวยมหาศาล แต่ก็เข้มงวดกับลูกสาวมาก ซ้ำยังเอาแต่ทำงาน แล้วปล่อยให้ญาณิสาอยู่บ้านกับคนใช้มาตั้งแต่เด็ก
เพราะเคยฟังคำบ่นของเด็กหญิงญาณิสามาตลอด ไม่คิดว่าจะมาได้ยินหนูน้อยญาณิดาพูดอีก ทุกคำที่เหมือนถอดแบบกันมา กรีดซ้ำหัวใจเธอบ่อยครั้งเพราะความสงสาร เธอไม่อยากให้หนูน้อยซ้ำรอยคนเป็นแม่ ญาณิสาแตกต่างจากบุพการี เธอเข้มแข็งและอ่อนโยน ถ้ามีเวลาให้ลูกสาวสักนิด หนูน้อยญีน่าของเธอต้องมีความสุขมากกว่านี้แน่ๆ
“หนูจะเก็บไปคิดค่ะ พี่กรองไปพักเถอะค่ะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”
ญาดาเดินไปเก็บของที่เหลือต่อ จากนั้นก็เดินเข้าห้องนอนตัวเองเงียบๆ คิดทบทวนในสิ่งที่พี่สาวที่เธอเคารพมาตลอด ได้พูดทิ้งไว้ให้เธอได้คิด
ทำไมวันนี้ ถึงได้เกิดเรื่องกับเธอมากมายนัก งานที่ทำมาตลอดสองปีกว่าๆ ต้องมาสั่นคลอน เพราะเธอต้องการหนีจากเขาที่บังเอิญเจอเมื่อเช้า เธอหนีทุกคนโดยการเปลี่ยนทั้งชื่อและนามสกุล แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้กลับมาเจอกันอีก
ผู้ชายที่เป็นพ่อของลูกเธอ
ผู้ชายคนที่ขับรถหรู คันที่เกือบชนเธอตายเมื่อเช้า คือฝันร้ายในชีวิตที่เธอไม่อยากเจอ เขาเป็นอดีตคนรักและเป็นพ่อของลูก แต่เพราะเขาคิดว่าเธอนอกกายนอกใจ เลยขอเลิกกับเธอแบบไร้เยื่อใยที่สุด และหลังจากเลิกกัน เธอก็โชคร้ายอุ้มท้องลูกของเขาในเดือนต่อมา
ลูกสาวที่เธออุ้มท้องมาอย่างยากลำบากถึงเก้าเดือนเต็มๆ หน้าตาเหมือนเขามากกว่าเธอ แต่เธอกลับต้องทุ่มเททุกอย่างเลี้ยงลูกมาเพียงลำพังตลอด 6 ปี ต้องออกจากบ้านที่เคร่งครัดมาตลอด โดยไม่มีอะไรติดตัวมาเลย ไม่มีคุณหนูญาณิสา มีเพียงนางสาวญาดา ที่ทำงานหาเลี้ยงเด็กน้อยคนนั้นมาเพียงลำพัง
ถ้าวันนั้นเธอไม่หลงไปกับคำชักชวนของเขา ไม่ดื่มเหล้าจากเขา ที่คะยั้นคะยอให้ดื่มจนหมดแก้ว ถ้ามีสติสักนิด เธอคงไม่ต้องมีชีวิตที่ตกต่ำแบบนี้ และอีกอย่าง ถ้าเธอไม่รักเขา เธอจะไม่มีวันไปกับผู้ชายเจ้าชู้ แบบตติภพเป็นอันขาด