เข้าใจผิดไปเอง

1529 Words
“ปล่อยนะ! ฉันจะไปนั่งที่ของฉัน!” “นั่งตรงนี้แหละ!” ”ไม่เอา! ฉันกลัวความสูง!” ไซซีเบาเสียงลงในประโยคสุดท้าย ใบหน้าสวยหวานซีดเซียวลง ดวงตาสีฟ้าอ่อนทอประกายแวววาวเหมือนคนจะร้องไห้ เรื่องที่ไซซีกลัวความสูงผมรู้ดี แต่เอามันมาขู่ เพราะอยากให้เธอมาอยู่ใกล้ๆ “อย่าหันไปทางนั้นสิ!” ผมพูดเหมือนไม่สนใจ นั่งลงบนเก้าอี้ของไอ้คิง เพื่อปิดกั้นทางหนีของไซซีไว้ เมื่อเธอออกไปไม่ได้เพราะมีผมขวางทางอยู่ ซ้ำมือยังถูกผมกำแน่น จึงทำได้แค่แสดงกิริยาฟึดฟัด กับทำหน้าบึ้งตึงเพียงแค่นั้น “อะ อ้าว! ที่นั่งกู!” “มึงไปนั่งที่ของซี!” “แต่ซีกลัวความสูง” “ไม่หรอก!” “นี่! ฉันกลัวจริงๆนะ!” “ก็ไม่เห็นจะกลัวตรงไหนเลย ยังปกติดีนี่นา” “นั่นก็เพราะ” ดวงตาสีฟ้าสวยหลุบลงมองมือที่จับกันอยู่ จากนั้นก็ไม่เห็นเธอเงยหน้าขึ้นมาอีกเลย ผมยิ้มเมื่อเห็นสีแดงลามจากใบหน้าลงไปถึงบริเวณลำคอ ไม่เข้าใจยัยเตี้ยนี่เลยจริงๆ ทำไมถึงตัดสินใจคบหากับหมอปีร์กันนะ อย่าบอกนะว่า ติดใจเซ็กส์ของมัน อย่างที่ความคิดชั่วๆผมคิดได้จริงๆ [ ไซซี part ] สามชั่วโมงต่อมา ตลอดสามชั่วโมงที่นั่งเรียนอยู่ข้างๆชาร์ล ฉันโฟกัสบทเรียนของอาจารย์ไม่ได้เลยสักบท แม้ชาร์ลจะไม่ทำอะไรไปมากกว่าจับมือ แต่เพียงแค่นั้น มันก็ปั่นป่วนความคิดและความรู้สึกของฉัน จนฟังสิ่งที่อาจารย์สอนไม่รู้เรื่อง “นี่! ปล่อยได้แล้ว มันร้อน” ฉันบอกชาร์ลเสียงเบา ความร้อนเล่นงานมือของเรา จนรู้สึกว่ามันมีเหงื่อซึมออกมาตามนิ้วมือ ชาร์ลหันมาสนใจฉันเพียงครู่เดียว จากนั้นก็หันไปในทิศทางเดิม ก้มหน้าลง ขยับมือจดสิ่งที่อาจารย์สอนต่อ “นี่! มันร้อน!” ปึ่ง! “ไซซี! อย่ารบกวนเพื่อนคนอื่นสิ” อาจารย์ดุฉันเสียงดัง ทั้งๆที่ฉันไม่ได้เป็นคนทำให้มันเกิดเสียง คนที่ทุบมือลงบนโต๊ะตรงหน้าฉัน ยักคิ้วใส่นิดๆ จากนั้นก็ทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราว ฉันกัดฟันข่มความโกรธไว้ อยากจะฆ่าเขาให้ตาย แต่ติดตรงที่ตัวเล็กนี่แหละ แค่คิดก็ไม่มีทางแล้วอะ สองชั่วโมงต่อมา การเรียนที่กินเวลาต่อเนื่องถึงห้าชั่วโมงจบลงสักที ฉันมองคนที่ฟุบหน้าอยู่บนโต๊ะ ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอทำให้ฉันค่อยๆดึงมือออกมา เมื่อมันทำได้ง่ายดายก็ถอนหายใจเบาๆ ล่วงเอาโทรศัพท์ที่มันสั่นครืดๆ ออกมากดรับ กรอกเสียงลงไปเบาๆ เพราะไม่อยากทำให้ชาร์ลตื่น “ค่ะ พี่ปีร์” [ เรียนเสร็จหรือยัง? ตอนนี้พี่รออยู่หน้าตึก ] “อ่า เสร็จแล้วค่ะ แต่พี่ซาร์บอกว่าจะมารับซี” [ อ่า ซีซาร์กลับมาแล้วเหรอ? ] “ใช่ค่ะ กลับมาเมื่อวาน ขอโทษด้วยนะคะ ซีลืมบอก” [ ไม่เป็นไร ลงมาเจอกันสักแป๊บได้ไหม คิดถึง ] “ซีจะรีบลงไปค่ะ” ตู๊ด! หมับ! “… ปล่อยนะ!” “จะรีบไปไหน! ไปหาชู้เหรอ?” คำพูดของคนที่ทำหน้างัวเงีย ทำเอาเส้นเลือดฝอยในสมองเกือบแตก ฉันไปมีชู้ตอนไหน พูดอะไรออกมาแต่ละคำ มีแต่ดูถูกเหยียดหยาม ให้ฉันดูเป็นคนไร้ค่า “พี่ปีร์เป็นคนรักของฉัน เขาไม่ใช่ชู้ คนที่ทำตัวเหมือนเป็นชู้ มันแกมากกว่าไหม” “ฮะ?! ฮ่าๆ ฮ่าๆ” ชาร์ลหัวเราะเสียงดังลั่น จนเพื่อนๆที่เริ่มทยอยออกไปจากห้องหันมามองพวกเราอย่างสนใจ ฉันไม่มีเวลาสนใจเพื่อนร่วมชั้นมากนัก เพราะคนที่ฉันควรทำให้หุบปาก มันคือคนที่กำลังหัวเราะเหมือนคนบ้าตรงนี้ต่างหาก “นี่! เป็นบ้าอะไรเนี่ย! เงียบเลยนะ อายคนอื่นเขา!” “ฮ่าๆ กูเนี่ยนะเป็นชู้? … มึงคิดดูดีๆดิซี กูกับมึงเลิกกันตอนไหน” คำพูดของเขามาพร้อมใบหน้าจริงจัง ฉันถึงกับสตั้นเพราะความไม่เข้าใจ ก็เขาไม่ใช่หรือไง ที่เป็นคนผลักไสฉันออกไปจากชีวิต ไม่ได้บอกเลิกก็จริง แต่ไม่สนใจฉันเลย ทำกับฉันเหมือนเป็นแค่อากาศ ไม่ให้เข้าใจแบบนั้น แล้วฉันต้องเข้าใจแบบไหน ฉันคิดว่าเขาไม่เอาฉันแล้ว ตลอดหลายเดือนมานี้เขาทำแบบนั้น เพิ่งจะมาสนใจฉันหนักๆ ก็ตอนที่ฉันประกาศว่าคุยกับพี่ปีร์นี่เอง ไม่เข้าใจเลย ตอนนี้ไม่เข้าใจสุดๆ ว่าเขาพูดเพื่อจะสื่อความหมายแบบไหน “ไม่เลิกก็เหมือนเลิก ไม่สนใจขนาดนั้น จะเก็บไว้ทำไมกัน” “ไม่สนใจ? คิดดูดีๆ ว่าใครไม่สนใจใครก่อน!” นิ้วชี้ของเขาจิ้มลงบนหน้าผาก ไม่ได้เบาเลย แต่ก็ไม่ได้เจ็บมากอย่างที่นึกกลัว ดวงตาสีฟ้าเข้มของเขา ทำเอาฉันพูดไม่ออก เขามาพูดตอนนี้ทำไม ต้องการทำให้ฉันหวั่นไหว หรือเขาพูดความจริง “ฉัน…” “มึง! แม่ง! … ก็เข้าใจผิดไปเองทุกเรื่อง แล้วมาโทษคนอื่น” “ฉัน ฉันต้องไปแล้ว พี่ปีร์ เขา รอฉันอยู่” ฉันพูดเสียงกระตุกกระตัก เพราะทำตัวไม่ถูก ชาร์ลหัวเราะหึในลำคอ กดดวงตาต่ำจนมันดูน่ากลัวขึ้น แต่เพียงแค่ไม่นานใบหน้านั้นก็ดูไร้ความรู้สึก “เอาเถอะ! กูถือว่ากูเตือนมึงแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ … อย่ามาหาว่ากูใจร้ายแล้วกัน” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มต่ำลงเร็วๆ ริมฝีปากแตะลงบนแก้มซ้ายหนักๆ เพียงไม่นานเขาก็ผละออกห่าง ร่างสูงกำยำลุกขึ้นจากเก้าอี้ คว้ากระเป๋าหนังสีดำเดินหนีไป ทิ้งฉันไว้กับความสับสนเพียงลำพัง อะไรกัน เราเลิกกันแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไม … ทำไมเพิ่งมาพูดอะไรแบบนั้นเอาตอนนี้ ทำไมตอนที่ฉันรู้สึกเคว้งคว้างอยู่คนเดียว เขาถึงไม่โผล่หน้ามาบอกฉันหน่อย ว่าเรายังเป็นแฟนกันอยู่ ครืด! ครืด! สายเรียกเข้าจาก … พี่ซีซาร์! “ค่ะพี่ซาร์” [ พี่อยู่หน้าตึกแล้ว อยู่กับหมอปีร์ รีบลงมา ] “อ่า ค่ะๆ ซีจะรีบลงไป” ฉันรีบคว้ากระเป๋าที่วางอยู่ใกล้มือ วิ่งออกไปแบบไม่คิดชีวิต แม้ว่าพี่ปีร์จะดีกับฉันมาก แต่เขายังไม่เป็นที่ยอมรับของครอบครัวฉัน ไม่เพียงแค่พ่อแม่ที่ไม่พอใจ พี่ซีซาร์ที่หวงฉันยิ่งกว่าอะไรก็ด้วย พอเล่าให้ฟังว่าคบกับพี่หมอปีร์ เขาแสดงออกชัดเลยว่าไม่ชอบ สิบนาทีต่อมา ฉันวิ่งมาถึงหน้าตึกด้วยสภาพเหงื่อโทรมกาย ภาพตรงหน้าคือผู้ชายหน้าตาดีหลายคน กำลังห้อมล้อมผู้ชายสวมชุดกราวสีขาวอยู่ ผู้ชายพวกนั้นฉันคุ้นหน้าดี หนึ่งในนั้นคือพี่ชายของฉันเอง และคนที่ถูกล้อมก็ไม่ใช่ใคร พี่หมอปีร์นั่นแหละ “ทำอะไรกันเนี่ย!” “มาแล้วเหรอ ไซซี” ผู้ชายรูปหน้าหล่อเหลา กับดวงตาสีฟ้าพราวเสน่ห์ ถามขึ้นทันทีที่เห็นฉันปรากฏตัว ร่างสูง 187 เซนติเมตร ก้าวฉับๆ มาคล้องแขนเข้ากับลำคอ ลากฉันเดินไปหยุดอยู่กลางวง ใบหน้าโน้มลงต่ำ กระซิบถามเสียงห้วนในสิ่งที่ฉันกลัว “ซีคบกับมันจริงดิ?” “อื้อ พี่ซาร์ทำตัวแบบนี้ได้ไง โคตรน่าเกลียดอะ” ฉันมองพี่ชายด้วยสายตาไม่พอใจ ร่างสูงหยัดตัวขึ้นตรง ไหล่ทั้งสองข้างไหวขึ้นลงอย่างไม่แคร์ ฉันขยับตัวไปหาพี่หมอที่โดนกลุ่มเพื่อนชายล้อมอยู่ มองหน้าชาร์ลอย่างขอความเห็นใจ ว่าอย่าได้ทำอะไรแปลกๆที่นี่เลย “ซีจะกลับบ้านกับพี่ปีร์นะ” ประโยคบอกเล่าของฉัน ทำให้หมอปีร์ยกมุมปากขึ้นยิ้ม ส่วนพี่ชายและเพื่อนของฉัน ทุกคนล้วนมีสีหน้าตึงสนิท โดยเฉพาะผู้ชายที่ชื่อชาร์ล ใบหน้าของหนุ่มหล่อเดือนคณะ บูดบึ้งจนฉันไม่กล้ามองไปทางนั้นอีก “อย่าให้พูดบ่อยนักสิ ไซซี” ชาร์ลพูดเสียงดัง “จบกันแล้วทำไมไม่ต่างคนต่างอยู่เนี่ย!” “พูดไม่รู้เรื่องว่ะซี กูกับมึงเคยเลิกกันด้วยเหรอ มีแต่มึงไหม ที่ระริกระรี้ไปหาหมาตัวอื่น” ประโยคแรกฟังแล้วเหมือนจะทำให้ฉันรู้สึกดี แต่ประโยคสุดท้ายมันกลับทำให้ฉันฉุนขาด เพื่อนของฉันมีสีหน้าพอใจแทบทุกคน ส่วนฉันตาแถบถลนออกจากเบ้า เมื่อเห็นริมฝีปากของพี่ชายยกขึ้น เป็นรอยยิ้มที่ฉันรู้ดี ว่ามันกำลังบ่งบอกความพึงพอใจ เดี๋ยวนะ! ไหนพี่ซาร์บอกว่าเกลียดชาร์ลไง ไม่ใช่เหรอ??
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD