เจรจากับทางการ1

1404 Words
เกวียนวัวเคลื่อนมาท้ายหมู่บ้าน หลังจากส่งหูเจียวเจียวแล้วก็เหลือเพียงนางกับหลี่ซ่งเหวิน ซ่งจื่อหรูจึงเอ่ยขึ้น "ท่านลุง ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือไม่เจ้าคะ" "เรียบร้อยดี อาซ่งเต๋อจัดการค่าที่พักให้แล้ว โรงเตี๊ยมไม่หรูหราแต่ก็ไม่ถึงกับแย่ ให้พอได้อาศัยตามที่เจ้าบอก" "เงินตำลึงพอหรือไม่ หากไม่พอข้าจะหาเพิ่มเจ้าค่ะ"ซ่งจื่อหรูกังวล "ไม่ต้องหรอก ต้าซานกับต้าโจวมีบุญคุณกับเขานัก เขาเองก็อยากตอบแทนพวกเจ้าพอดีเลยถือโอกาสนี้"หลี่ซ่งเหวินตอบนาง เขารู้ว่าน้องชายไม่ใช่แค่พ่อค้าธรรมดาแต่เขาก็ไม่อยากสงสัยให้มากความ "อ้อ แล้วเรื่องที่ข้ารบกวนท่านปู่ใหญ่ล่ะเจ้าคะ ท่านว่าอย่างไรบ้าง" "หลี่ซิ่วไฉตอบตกลง เดิมทีเขารังเกียจการกระทำของย่ากับอาสี่เจ้า แต่เห็นแก่ที่เจ้ากับหลี่หานช่วยเหลือชาวบ้านเขาจึงรับปากว่าจะช่วยสอนให้ น้องชายเจ้าจื่อห่าวเองเขาเคยมีโอกาสทดสอบเห็นว่าเป็นเด็กฉลาด อยากจะสอนมานานรอเพียงเจ้าเอ่ยปากเท่านั้น" "ขอบคุณปู่ใหญ่กับท่านลุงมากเจ้าค่ะ ไว้ข้าจะพาพี่ใหญ่กับพี่รองไปหาและขอบคุณเขาด้วยตนเอง" "อืมจื่อหรู...ถึงบ้านเจ้าแล้ว" ทั้งสองมาถึงบ้านก็เห็นประตูเปิดอยู่ หลี่หานไม่อยู่ เช่นนั้นใครอยู่กับเด็กกันพอเห็นเกวียนวัวทั้งหมดก็รีบวิ่งมาทันที มีจิงอี้และจิงเสวียนตามมา "พี่จื่อหรูๆ ที่บ้านท่านสนุกมากเลยเจ้าคะ ท่านแม่บอกว่าเราจะอยู่บ้านท่าน ตอนท่านพ่อกับพี่ชายไม่อยู่" ฮั่วเฟยเซียนเอ่ยทันทีที่เห็นหน้าซ่งจื่อหรูหน้าของนางแดงเพราะวิ่งเล่นจนเหนื่อย ปากจิ้มลิ้มนั่นเอ่ยเจื้อยแจ้ว หลี่อาไช่คำนับแล้วเอ่ยสวัสดีนางเบาๆ เด็กคนนี้รู้ความมากนัก สังเกตุดูมาสองวันเวลาที่อยู่กับซ่งจื่อห่าว คนนึงทบทวนตำราที่ได้ยินมา อีกคนก็คว้าท่อนไม้มาทำท่าทางร่ายรำ ดูแล้วเหมือนจอหงวนบุ๋นและบู๊ คนนึงสงบดั่งสายน้ำคนนึงแข็งแกร่งดั่งภูผาเหมือนภาพวาดของกวีชื่อดังเสียจริง เสียงเรียกของฮั่วหรานเรียกสตินาง "ดูสิอาหรู อยู่ที่บ้านเซียนเอ๋อร์ได้แต่ถามคำตอบคำ พอมาอยู่บ้านเจ้านางพูดจ้อไม่หยุดเชียว" อาสะใภ้ เซียนเซียนอยู่บ้านท่านไม่มีเด็กวัยเดียวกันให้เล่นด้วย พอเจอเพื่อนเลยรู้สึกว่าสนุก จริงสิวันนี้ข้าเข้าเมืองซื้อของมามากมายพี่จิงอี้พี่จิงเสวียนรบกวนท่านช่วยขนหน่อยเถอะเจ้าค่ะ" ข้าวของถูกขนลงจากเกวียนวัว หลี่ซ่งเหวินไม่รับค่าโดยสาร แม้ว่านางจะรู้ว่าบ้านเขาค้าขาย แต่ก็ยังมีน้ำใจซื้อขนมให้เขาหนึ่งกล่องอีกทั้งวันนี้เขาเห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายโดยเฉพาะหลี่ม่านอวี้ รู้จักทักทายกล่าวลาผู้อาวุโส การพูดจาดูมีมารยาทมากขึ้น หากบุตรหลานในหมู่บ้านเป็นเช่นนี้ทุกคนคงจะดีไม่น้อย ผิดกับอีกคนที่ยืนชี้หน้าด่าบิดาของเขาเมื่อสามวันก่อน หึ ป้าสะใภ้รองช่างสั่งสอนบุตรสาวได้แย่จริงๆ ซ่งจื่อหรูน้ำมันหมูมาหั่นเพื่อเจียวน้ำมัน แม้ว่าน้ำมันหมูจะหอม แต่กินทุกวันก็ไม่ไหว โรงเหล็กนัดอีกสามวันจะมาส่งถึงเวลานั้น เครื่องอัดน้ำมันถั่วของนางก็เรียบร้อย นางเดินเข้าไปหยิบซาลาเปากับขนมกล่องนึงก่อนจะเรียกหลี่อาไช่มาหา "อาไช่ มาหาพี่สี่ตรงนี้หน่อยนี่ซาลาเปากับขนมเอาไปให้ท่านปู่เก้า แล้วค่อยกลับมากินกับน้องๆ อย่าวิ่งเร็วระวังหกล้ม" เด็กชายวิ่งมาหาก่อนส่งจื่อหรูจะส่งห่อในมือให้ พร้อมกำชับหลี่อาไช่พยักหน้า รับของแล้วเดินไปทางตะวันตกของหมู่บ้าน ฮั่วหรานเอ่ยขึ้นมาเบาๆกับซ่งจื่อหรู "เด็กคนนี้แม้พูดน้อย เวลาลงมือทำจริงจังยิ่งนักเมื่อเช้านี้ช่วยพี่รองของเจ้าขุดร่องผักโดยไม่หยุดพัก เออจริงสิตอนมาถึงข้าเจอป้าสะใภ้ใหญ่คนนั้นของเจ้า เหตุใดนางจึงเป็นเช่นนั้นกัน" "นางมีเรื่องบางอย่างให้สะเทือนจิตใจเจ้าค่ะ มื้อเที่ยงทานซาลาเปาก่อนนะเจ้าคะ ข้าอยากเตรียมอาหารรับรองคนผู้นึงก่อน" ซ่งจื่อหรูเอ่ย ในใจคิดว่าป้าสะใภ้ใหญ่ยังคงแสดงได้ดี "เจ้ามีแขกเช่นนั้นรึ ข้าไม่ได้มาสร้างความลำบากให้เจ้าใช่หรือไม่" "พูดอะไรเช่นนั้นเจ้าคะ ลำบากอันใดกันแขกคนนี้เป็นแขกของปู่ใหญ่ ข้าจะไปขุดหน่อไม้สักหน่อย ฝนไม่ตกแล้วอีกไม่กี่วันก็แก่เกินไปแล้วขุดไว้มากหน่อยดีกว่า จะเอามาดองกับตากแห้งด้วย พี่ชายทั้งสองท่านช่วยข้าขนได้หรือไม่"ซ่งจื่อหรูเอ่ยแก่ฮั่วหราน แม่นางน้อยพวกข้าเป็นองครักษ์นะ เจ้าใช้ข้าขนหน่อไม้ ขนของพวกนี้เนี่ยนะ เมื่อเช้าท่านอ๋องก็ให้ข้าขุดแปลงผักให้เจ้าแล้ว ข้าแทบยกกระบี่ไม่ขึ้นด้วยซ้ำตอนนี้ "พี่ใหญ่ พี่จิงอี้เก่งมากเลยเจ้าค่ะ ขุดแปลงผักแค่แป๊บเดียวก็เสร็จ"ซ่งจื่อเย่วบอกกล่าว ฮั่วเฟยเซียน"ใช่แล้วเจ้าค่ะ ส่วนพี่จิงเสวียนก็โบกมือสองทีหญ้ากระเด็นไปรวมกันตรงนั้น พี่รองของท่านมองอ้าปากค้างจนใส่ไข่เป็ดได้เลยเจ้าค่ะ" แม่นางน้อยซ่งจื่อเย่วกับฮั่วเฟยเซียนกลัวนางไม่เชื่อจึงทำท่าทางประกอบตาม ซ่งจื่อหรูหัวเราะเอ็นดู ยีศรีษะพวกนางคนละทีก่อนจะไปป่าไผ่ ขุดสักพักก็ได้หน่อไม้มาเกือบยี่สิบหน่อ ส่งให้จิงอี้กับจิงเสวียน บอกว่าหากทำงานดีจะห่อเกี๊ยวเผื่อ ทั้งคู่จึงขยันตั้งแต่ท่านอ๋องมาซ่อนตัวที่นี่ยังไม่เคยได้กินเกี๊ยวเลย ซ่งจื่อหรูต้มกระดูกหมูกับรากบัว ผัดรากบัวกับสามชั้น หน่อไม้เส้นผัดไข่ จับปลาจากลำธารมาสองตัวทำความสะอาดนางจะทำปลาต้มผักกาดดองแบบยูนนานใส่พริกจัดจ้าน กุ้งมังกรตัวน้อยถูกล้างจนสะอาด นำมาสะดุ้งน้ำมันนิดหน่อย นำขิงกระเทียม หอมป่าลงผัด ใส่ฮวาเจียวตามลงไป เติมพริกปรุงรส ก่อนยกขึ้นเทเหล้าตามไปส่งกลิ่นหอมไปทั่ว นำเผือกมาปลอกเปลือก หั่นเป็นเส้นทำเผือกหิมะ เม็ดบัวแก่ที่เก็บไว้คราวก่อนกับเกาลัดนำมาต้มโจ๊ก ใส่เนื้อกุ้งสับลงไป โรยด้วยต้นหอมซอย ทุกคนกลืนน้ำลาย จากนั้นหุงข้าว จัดทุกอย่างลงจาน วางในตระกร้า "อาสะใภ้ อาหารเหล่านี้ข้าทำเผื่อพวกเราตอนเย็น แต่หากท่านทานซาลาเปาไม่อิ่มก็สามารถตักมาทานได้นะเจ้าคะ" เอ่ยกับทุกคนในบ้าน ก่อนจะไปล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่ชุดใหม่ที่ซื้อมาวันก่อน เพียงไม่นานก็เห็นหลี่ถิงถิงวิ่งกระหืดกระหอบมา "พี่สี่เร็วๆเข้ามีๆรถม้าคันใหญ่ มาหาท่านปู่ตอนที่พวกเรากำลังคัดแยกมันเทศกับเกาลัดอยู่ ท่านปู่ใหญ่ให้ข้ามาตามท่าน เอ๋ พี่สี่ ท่านอาหารชนิดใหม่หรือเจ้าคะ หอมจังมีกลิ่นเผ็ด กลิ่นเปรี้ยว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ นั่นต้องเป็นของหวานแน่เลยเจ้าค่ะมีกลิ่นสุราในอาหารด้วย พี่สี่ท่านรีบไปเถอะ ข้ารอกินข้าวอยู่นะ" หลี่ถิงถิงเอ่ยถึงสาเหตุที่มาก่อนจมูกจะทำท่าทางฟุดฟิดๆเหมือนเจ้าแมวตัวน้อยได้กลิ่นปลาย่าง เจ้าเด็กนี่จมูกดีจริงๆ สามารถแยกแยะรสชาติอาหารได้ทันทีที่ได้กลิ่น หากเปิดร้านอาหาร คู่แข่งคงไม่มีแน่นอน ก่อนจะเอ่ยกับหลี่ถิงถิง "ได้ๆ เจ้าแมวตะกละพี่จะไปเดี๋ยวนี้ ในบ้านมีซาลาเปาอยู่ พ่อกับแม่เจ้าอยู่ที่ลานต้นไหว งั้นอย่าเพิ่งนำไปให้จะดีกว่า อยู่ที่นี่เชื่อฟังอาสะใภ้"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD