เมื่อเห็นทั้งคู่ไม่ขยับจางอวิ๋นก็ส่งสัญญานให้ลิ่วล้อไปล้มพวกนาง ชาวบ้านได้แต่ยืนดูไม่กล้าช่วย เศรษฐีจางขึ้นชื่อเรื่องความเหี้ยมโหด แม้จะสงสารแต่ก็ไม่มีใครกล้าหาเรื่องใส่ตัว มือที่กำลังจะแตะถูกหลี่ม่านอวี้อยู่ดีก็เกิดเสียงดังกร๊อบ ก่อนจะตามมาด้วยตัวคนลอยไปกระแทกกับต้นไม้ที่ผูกรถม้า เมื่อมีสิ่งมากระทบกระเทือนม้าจึงตกใจดีดใส่บุรุษผู้นั้นจนสลบ
"แก อีเด็กสารเลวนั่นคือคุณชายสวีบุตรชายมือปราบสวี เจ้ากล้าตีเขาเจ้าตายแน่ๆ"
"ข้าตายนอนไหนไม่รบกวนอาสี่เป็นห่วงหรอก เพราะถึงอย่างไรท่านคงไม่ได้อยู่เห็น"
ก่อนจะคว้าหลี่ต้าเหวินทุ่มผ่านหัวไหล่ไป มีมือปราบวิ่งเข้ามากลังจากเสียงเอะอะ สวีเจียวเห็นสภาพบุตรชายก็ถึงกับหน้าเขียวเรียกหาคนทำทันที
"ใครๆทำลูกชายข้า ออกมาเดี๋ยวนี้นะ"สวีเจียวโกรธจนหนวดกระดิก
"ข้าเอง"ซ่งจื่อหรูยืนมองหน้าเขาอย่างไม่เกรงกลัว
"นังตัวดี ไปที่ว่าการกับข้าวันนี้ข้าจะตีเจ้าให้ตาย"
"บุตรชายท่านคิดฉุดข้าสองคนพี่น้องรวมถึงสหายข้า ท่านไม่ถามไถ่เหตุผลกลับตรงมาจับกุมข้า ตำบลซานสุ่ยยังมีกฎหมายหรือไม่"
"ข้าสวีเจียวผู้นี้ก็คือกฎหมาย ไม่ต้องพูดมากไปกับข้าเดี๋ยวนี้ เด็กๆลากตัวมันมา"
ทหารล้อมวงเข้ามาเพื่อจะจับซ่งจื่อหรูส่วนจางต้าหู่ถือมีดพร้อมเข้ามาแต่เด็กสาวส่ายหน้าให้เขายั้งมือ
"อ้อ แปลว่าท่านยิ่งใหญ่กว่านายอำเภอเสียนหยาง ยิ่งใหญ่เจ้าเมืองกว่าเชียวหรือ"
"ถุย ในตำบลซานสุ่ย ใต้เท้าสวีก็คือนายอำเภอ พ่อข้าจางฟ่านก็คือฮ่องเต้ ท่านอาสวีจับพวกนางไปเดี๋ยวนี้"
จางอวิ่นพูดใส่หน้าซ่งจื่อหรูทหารยามกำลังจะเข้ามาจับ อยู่ๆซ่งจื้อหรูก็เอ่ยขึ้นมา
"ใต้เท้าท่านนั้น ท่านยืนดูพอใจหรือยัง หรือจะรอให้พวกเขากำเริบ จนหมวดขุนนางของท่านแปดเปื้อนไปเช่นนี้"
เซี่ยหนานอินตกใจเดิมทีไม่คิดจะปล่อยคนเหล่านี้แค่อยากจะรอเวลาเอาไปลงโทษที่จวน แต่เด็กคนนี้กลับตีคนแล้วยังกระโตกกะตากให้ชาวบ้านรู้ว่าเขาเป็นใคร
"พวกเจ้าช่างกล้าแอบอ้างเบื้องสูงเด็กๆ เอาตัวพวกมันไป โบยสิบไม้แล้วขังคุกหลวงอย่าลืมช่วยไปเชิญฝ่าบาทสกุลจางมาให้ข้าด้วย ส่วนเจ้าเป็นอาแท้ๆกลับทำเรื่องน่ารังเกียจ โบยสิบไม้ลากตัวไปให้สำนักศึกษา มือปราบสวีเป็นผู้รักษากฎหมายแต่กลับรังแกชาวบ้าน ปลดออกจากตำแหน่ง ขังคุกหลวงโบยยี่สิบไม้"
เสียงอ้อนวอนขอความเมตตาของคนทั้งหก เซี่ยหนานอินไม่สนใจหันมาเผชิญหน้ากับซ่งจื่อหรูก่อนจะถาม
"เจ้ารู้ได้อย่าไรว่าข้าคือใคร"
"ท่านคือเจ้าเมืองกว่างผิงใต้เท้าเซี่ย เซี่ยหนานอิน"
"เจ้าเป็นใครกันเหตุใดรู้จักข้า อย่ามาตุกติกตอบข้ามาดีๆคนธรรมดาจะเดาถูกได้เข่นไร จริงสิแต่เหตุใดข้าคุ้นใบหน้าเจ้านัก"
"ใต้เท้าวันหลังก่อนออกจากบ้านก็อย่าห้อยหยกประจำตัวไว้ที่เอว หากไม่ต้องการให้คนรู้ว่าท่านเป็นใครก็อย่าใช้รถม้าของตระกูลสิอักษรเซี่ยตัวใหญ่เพียงนั้นจะตบตาใครได้กัน"
"นี่ๆๆๆๆๆ เจ้าเด็กบ้าหึ บิดามารดาเจ้าตายหรือไง ไร้คนสั่งสอนจริงๆเหตุใดวาจาถึงหยาบกระด้างนัก"
"อืม ท่านก็เก่งนะ รู้ว่าพ่อแม่ข้าตายแล้ว นี้วันไหนอาชีพขุนนางไม่รุ่ง ข้าว่าท่านไปเป็นซินแสคอยดูดวงน่าจะดี ท่านดูแม่นจริงๆ ข้าลาแล้วนะเจ้าคะ ท่านรีบไปเถอะฮ่องเต้ท่านนั้นรอท่านอยู่ที่คุกหลวงนะ"ซ่งจื่อหรูชื่นชมเขาแต่เซี่ยหนานอินกลับโมโหนางยิ่งกว่าเดิม
"เจ้าๆๆๆๆๆ"
ซ่งจื่อหรูทำความเคารพเขาแล้วจากไป เซี่ยหนานอินทำได้แค่เจ้าๆแล้วตามหลังนาง ทำไมเขาถึงแพ้เด็กคนนี้กันนะ ฝ่าบาทนะฝ่าบาทเหตุใดต้องให้เขามาที่นี่กัน ถ้าไม่ใช่เพราะเหยี่ยวทองคำส่งจดหมายมาว่าเป็นเรื่องด่วนจากฝ่าบาทโดยตรงเขาคงไม่เร่งรถม้าข้ามวันข้ามคืน ทั้งยังต้องไปหมู่บ้านหลี่ซานเพื่อเจรจาเรื่องมันเทศอะไรนั่นอีก เฮ้อ
"เอ่อใต้เท้าขอรับ ข้าน้อยมีเรื่องอยากพูดไม่แน่ใจว่าท่าอยากฟังหรือไม่"
"ท่านพูดมาเถอะ กุนซือซี่ย"
"เด็กคนนั้น หน้าตาเหมือนกันกับท่านมากเลยขอรับ เพียงเพราะนางแต่กายเป็นสตรี หากแต่งบุรุษ คงเหมือนท่านตอนยังเยาว์แน่ๆ"
"ท่านพ่อข้ากับท่านแม่ไม่รู้อยู่หรือจากไปแล้ว บางทีอาจแค่หน้าตาคล้ายกันก็ได้ ไปหาที่พักเถอะ ยามเซินค่อยเดินทางไปหมู่บ้านหลี่"
เซี่ยหนานอินแม้ไม่อยากยอมรับ แต่เมื่อเจอหน้าเด็กคนนี้เหตุใดถึงรู้สึกคุ้นเคยนัก แม้นางจะหยาบคายใส่แต่เขากลับไม่โกรธ หากเป็นคนอื่นคงถูกลากไปโบยแล้ว
หลังจากบอกลาจางเต้าหู่ทั้งสามคนก็ไปยังโลงตีเหล็ก ซ่งจื่อหรูอยากทำวงล้อเฟือง นางต้องการทำหลายขนาด และยังสั่งทำหัวลูกศรสำหรับหน้าไม้อีกจำนวนหนึ่ง จ่ายมัดจำเป็นเงิน7ตำลึง หลี่ม่านอวี้กับหูเจียวเจียวตาค้าง นั่นคือเงินนะเงินจริงๆ ซ่งจื่อหรูใช้มือดันคางทั้งสองคนขึ้นก่อนจะเอ่ย
"นี่เป็นเงินของสะใภ้หวังน่ะพี่สาม วันนั้นพวกนางจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหายมาท่านลืมแล้วหรือ ไปเถอะข้ามีนัดกับจินเหนียง"
"น้องสี่ จินเหนียงคือผู้ใดหรือ" หลี่ม่านอวี้เอ่ยถาม
"นั่นสิ พี่ม่านอวี้แต่ว่าอาหรูนางมาส่งผ้าปักบ่อยๆคงรู้จักคนเยอะกว่าเรา"
"เจียวเจียววันนั้นข้ายังตกใจเลย ตอนที่น้องสี่บอกว่าค่าเข้าตำบลต้องจ่ายถึงสามอีแปะข้ายังไม่เชื่อ แต่ว่าตอนนี้ไม่เชื่อก็คงไม่ได้"
"เมื่อก่อนไม่ต้องจ่าย หลังๆทางการเริ่มเก็บค่าเข้า ชาวบ้านอย่างเราถ้าไม่มีธุระเงินสามอีแปะสามารถซื้อไข่ได้ถึงเก้าฟอง(ไข่ไก่3ฟองต่อ1อีแปะ)" ซ่งจื่อหรูกล่าว
หลังจากซ่งจื่อหรูอธิบายแก่ทั้งสองคน หูเจียวเจียวก็จับมือทั้งคู่แล้วพาเดิน
"ไปเถอะเสียเวลากับอาสี่พวกเจ้ามานานแล้ว เออนี่อาหรูวันนี้ข้าล่ะสะใจมากๆหากวันหลังหากข้ามีเรื่องกับผู้ใด ข้าจะอ้างชื่อเจ้า ฮ่าๆๆ"
ซ่งจื่อหรูส่ายหน้าให้กับความคิดของสหายตัวน้อย เดินเพียงครึ่งถ้วยชาก็มาถึงจินปู่เตี้ยน
วันนี้เงียบเหงา คงเป็นเพราะฮวาเหยียนลอกเลียนลายปักได้แล้วนั่นเอง
"สวัสดีเจ้าค่ะเถ้าแก่เนี้ยจิน พี่สาม เจียวเจียวนี่คือเถ้าแก่ร้านจินปู่เตี้ยนจินเหนียง ส่วนสองคนนี้คือพี่สาวข้าส่วนอีกคนนางคือสหายจากหมู่บ้านเดียวกันเจ้าค่ะ"
ซ่งจื่อหรูเอ่ยทักทายจินเหนียง พยักหน้าให้เด็กทั้งสามก่อนจะยิ้มแย้ม
"อาหรูเจ้ามาแล้ว เฮ้อขอโทษนะที่เจ้าอุตส่าห์ไว้ใจข้าแต่สุดท้ายข้าเองก็ไร้ความสามารถ"
"จินเหนียงท่านคิดมาไปใยเจ้าคะ เดิมทีลายปักนั้นก็ไม่ได้ซับซ้อน ไม่กี่วันก็ลอกเลียนแบบได้แล้ว ช่างเถอะแค่ผ้าเช็ดหน้า จะร่ำรวยได้อย่างไร วันนี้ข้ามีเรื่องมาปรึกษาท่าน ไม่ทราบว่าท่านพอมีเวลาหรือไม่"
หลี่ม่านอวี้กับหูเจียวเจียวคิดไม่ถึงว่าลายปักที่โด่งดังเมื่อสองวันก่อน นั้นเป็นของซ่งจื่อหรู แถมนางสนิทกับจินปู่เตี้ยนทั้งๆที่ก่อนหน้าพวกนางขายงานให้กับฮวาเหยียน นางรู้จักเถ้าแก่ร้านจินปู่เตี้ยนตอนไหนกัน
จินเหนียงรู้ว่าซ่งจื่อหรูมีเรื่องสำคัญจึงปิดร้าน คนงานเองก็เงียบเหงาจึงปิดทันที คนที่ผ่านไปมาถึงกับงง เพิ่งจะเปิดไม่ถึงชั่วยามเองไม่ใช่หรือ หลี่ม่านอวี้กับหูเจียวเจียวนั่งรอด้านนอกระหว่างที่ทั้งคู่คุยกัน
"อาหรูไปคุยด้านในเถอะ"