ทั้งคู่เดินมาจนถึงกระท่อมของซ่งจื่อหรูเขาจึงวางตระกร้าลงและช่วยนางยกไปไว้ในลานบ้าน จากนั้นก็ส่งไก่ฟ้าให้สองตัว
"พี่หรง หมายความว่าอย่างไรกันไก่สองตัวท่านเป็นคนล่าได้ ข้าล่ามาได้เพียงตัวเดียวเท่านั่นเอง"ซ่งจื่อหรูตกใจที่เขาไม่เอาแต่ให้นาง
"อืม..ข้าให้เจ้าตัวนึง ถ้าหมดข้าสามารถไปล่าใหม่ได้อย่างกังวลเลย"
"พี่หรง ท่านว่าไก่ฟ้านี่แลกเป็นเงินได้หรือไม่เจ้าคะ" นางอยากได้ที่สุดตอนนี้คือเงิน
"ปกติราคาจะอยู่ที่ชั่งละ30อีแปะ หากขนสวยจะได้ถึง40อีแปะไก่พวกนี้น่าจะหนักประมาณตัวละ5ชั่ง ทำไมเจ้าอยากขายรึ"
"ขอบอกตามตรง บ้านข้าไม่มีอะไรสักอย่าง อย่าถามหาข้าวสารสักกำหรือแป้งสาลีสักครึ่งถุงเลยเจ้าค่ะ"
"ปกติข้าไปแลกที่บ้านท่านผู้นำน่ะ ถึงจะราคาถูกสักหน่อยแต่แค่ไก่ฟ้าสองตัวเดินทางเข้าตัวตำบลคงไม่คุ้ม"
"พี่หรง ท่านช่วยไปแลกให้ข้าสักหน่อยได้ไหมเจ้าคะ"
สายตาออดอ้อนนั้นช่างชวนให้คนตกอยู่ในภวังค์เสียจริงๆ เทียบกับสายตาเชิญชวนของเหล่าสตรีอื่นๆ ที่ส่งให้เขาๆ กับชอบสายตาสดใสคู่นี้ตรงหน้ามากกว่า"
"ได้ ว่าแต่แล้วเจ้าต้องการอะไรบ้าง"
"ข้าขอข้าวสาร เกลือ น้ำมัน ก็พอเจ้าค่ะ ข้าก็ไม่รู้ว่าจะได้สักเท่าไหร่ ข้าเจอหม้อกับกะทะที่ท่านตาเก็บซ่อนไว้จึงอยากหุงข้าวให้น้องได้กินสักมื้อ"
"อืม เจ้าจะไปรับน้องๆ ที่บ้านข้าเลยหรือไม่ "
"ข้ารอท่านมาก่อนค่อยไปพร้อมกันดีกว่า"
ทั้งคู่แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนฮั่วเฟยหรงดีใจ นางบอกว่าจะรอเขาไม่รู้ว่าเพราะอะไร วันนี้ที่เห็นนางอีกครั้งเขากลับรู้สึกว่าเขาเจอคนที่ตามหามานนานเจอแล้ว เหมือนนางหนีไปเทีายวเล่นแล้วเพิ่งคิดได้ว่าเขารออยู่จึงกลับมา ฮั่วเฟยหรงจึงรีบเดินไปยังบ้านของหลี่ฝูเหยา จากนั้นก็เจรจาขายไก่ป่าสองตัว เนื่องจากต้องนำไปส่งเหลาอาหารอีกทีราคาจึงลดลง ไก่ฟ้าสองตัวหนัก10ชั่งหลี่ซ่งเหวินรับซื้อชั่งละ20อีแปะ ฮั่วเฟยหรงแลกได้เงินมา200อีแปะ
"ท่านอาซ่งเหวิน มิทราบว่า เกลือ ข้าวสาร และน้ำมัน มีราคาเท่าใดขอรับ"
"ข้าวสารชั่งละ20อีแปะ เกลือชั่งละ40อีแปะ น้ำมันไหละ80อีแปะ"
ฮั่วเฟยหรงพยักหน้า ร้องอ้อๆอยู่สามที
"เช่นนั้น รบกวนท่านอาสักหน่อย ข้าต้องการข้าวสาร3ชั่ง เกลือครึ่งชั่ง น้ำมันครึ่งไหขอรับ"
"วันนี้ขอบใจเจ้ามาก ไม่เช่นนั้นนางคงเสียเปรียบอีก"หลี่ฝูเหยาเอ่ยขึ้น ทำไมทุกทีที่เกิดเรื่องต้องเป็นตอนที่เขาไม่อยู่นะ เมื่อไหร่เจ้ารองจะกลับสักที อยากจัดการหญิงแก่ชั่วร้ายนี่จริงๆ
ฮั่วเฟยหรงไม่กล่าวอันใด ได้แต่พยักหน้ารับของมาถือไว้ ก่อนกลับเขาหันมาเอ่ยบางอย่างกับหลี่ฝูเหยา
"ตอนนั้นท่านแม่ข้าเจ็บท้อง ท่านพ่อก็ไม่อยู่ อากาศหนาวหมอตำแยมาไม่ได้ หมอในหมู่บ้านก็ปฏิเสธไม่ยอมทำคลอด มีเพียงท่านอาหลี่ต้าซาน ยอมทนหนาวเหน็บเดินเท้าเข้าไปยังในตัวตำบลเพื่อเชิญหมอตำแย เกวียนวัวก็วิ่งไม่ได้ แต่ท่านอาหลี่ยอมให้หมอตำแยขี่หลังจนมาถึงหมู่บ้าน ท่านแม่ข้าจึงคลอดเฟยเซียนออกมาอย่างปลอดภัย บุญคุณนี้ที่จริงข้าควรตอบแทนเขา แต่น่าเสียดายที่คนไม่อยู่แล้ว"
หลี่ฝูเหยาพ่นควันจากกล้องยาสูบ ที่ต้าซานถูกสัตว์ป่าทำร้ายก็เพราะช่วยปกป้องบุตรชายคนเล็กของเขาหลี่ซ่งเต๋อครั้งเมื่อตอนไปล่าสัตว์ คงต้องดูแลเด็กสามคนให้มากกว่านี้
"เฮ้อ คนดีๆมักอายุสั้น เจ้าว่ามั้ย พรุ่งนี้ข้าจะเกณฑ์คนไปช่วยนางล้อมรั้วสักหน่อย ขากลับผ่านบ้านนางเจ้าแวะบอกกล่าวนางให้ข้าด้วย"
มาถึงบ้านสกุลซ่งก็เห็นเด็กคนนั้นกำลังทำความสะอาดห้องครัวที่ถูกทุบ นำหินมาก่อแทนเตา ดูเหมือนหม้อกะทะนั้นน่าจะเป็นของที่ท่านผู้เฒ่าเก็บซ่อนเอาไว้ นางคล่องแคล่วมาก ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนในตัวเด็กคนนี้มีทั้งความกล้าหาญ และความเฉลียวฉลาดเกินกว่าอายุ ฮั่วเฟยหรงเดินเข้าไปหา
"เจ้าตัวยุ่ง ไก่ป่านั้นขายได้200อีแปะ ซื้อข้าวสาร2ชั่ง เกลือครึ่งชั่ง น้ำมันครึ่งไห ทั้งหมด100อีแปะ นี่เงินที่เหลือ"
ซ่งจื่อหรูดันมือที่ถือเงินอยู่กลับไป วันนี้นางได้รับความช่วยเหลือจากบุรุษตรงหน้ามากมายแล้ว หากเป็นชาติก่อนอายุขนาดนี้ คงกำลังนั่งเล่นเกมส์ ถ่ายคลิปลงโซเชียลอยู่เลย เด็กในยุคสมัยนี้โตวัยจริงๆ
"พี่หรง วันนี้ต้องขอบคุณท่านมาก หากไม่ได้ท่านข้าเองคงรับมือลำบาก อีกทั้งยังบาดเจ็บอยู่"
"เจ้าไม่โกรธ เกลียดข้าหรือ"
"เกลียดท่าน? ข้าจะเกลียดท่านด้วยเหตุอันใดกัน" ซ่งจื่อหรูไม่เข้าใจ
"เรื่องบิดาของเจ้า...."
"ที่ผ่านมาข้าไม่เกลียดท่านรวมถึงคนบ้านท่านเลย ที่ท่านพ่อทำเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนพึงมีนั้นคือคุณธรรมและความเมตตา ไม่ใช่ว่าท่านพ่อข้าตายเพราะไปตามหมอตำแยสักหน่อย ถ้าท่านย่ายอมรักษาท่านพ่อแต่แรกเขาก็อาจไม่ตาย ที่ข้าไม่อยากพบปะกับท่านก็เพราะอาเล็ก ข้าอยากอยู่อย่างสงบ แต่ดูเหมือนพวกนางจะไม่ยอมอยู่เงียบๆ"
"เรื่องบางออกหน้ามากนักคงไม่ดี หากอยากให้น้องชายได้เรียนหนังสือสอบขุนนาง น้องสาวได้คู่ครองที่ดี บางอย่างเจ้าควรไว้หน้าพวกนางบ้าง"
"แล้วข้าล่ะ หากไว้หน้านางแล้วจะหาคู่ครองที่ดีได้หรือไม่"
"เจ้ามีคนที่คู่ควรอยู่แล้ว ไม่ต้องเสาะหาหรอก"
ซ่งจื่อหรู ทำสีหน้างงๆ ก่อนจะนำของที่ฮั่วเฟยหรงนำมาเก็บในช่องลับ นางจึงไม่เห็นสีหน้าและใบหูที่แดงเสียจนเหมือนลูกมะเขือเทศของฮั่วเฟยหรง
"ไปรับเด็กๆกันเถอะ เลยมาครึ่งวันแล้ว ท่านอาสะใภ้ร่างกายอ่อนแอ ข้าไม่อยากให้นางลำบากมากนัก"
ทั้งคู่เดินมาถึงกระท่อมก็เห็นเด็กสามคนนั่งเล่นอยู่ด้วยกัน ซ่งจื่อห่าวอ่อนกว่าฮั่วเฟยเซียนเป็นน้องเล็กสุด ซ่งจื่อเย่วคอยดูน้องๆ โดยมีฮั่วหรานนั่งปักผ้าอยู่บนแคร่ เมื่อเห็นบุตรชายและซ่งจื่อหรูเดินมาด้วยกันก็แปลกใจ แล้วเอ่ยปากทักทายคนทั้งสอง
"หรงเอ๋อร์แม่หนูจื่อหรูเหตุใดพวกเจ้าจึงมาด้วยกันได้เล่า"อั่วหรานเห็นทั้งคู่มาด้วยกันก็แปลกใจ
"ข้าเจอนางโดยบังเอิญขอรับท่านแม่ เห็นว่านางนำน้องสองคนมาฝากท่านและกำลังจะมารับ"
ซ่งจื่อหรูไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงโกหกและไม่บอกว่าขึ้นเขากับนาง แต่ในเมื่อเขาไม่ต้องการจะพูดนางก็ไม่อาจถามไถ่ได้ จึงเพียงเอ่ยถามกับฮั่วหรานเท่านั้น
"อาสะใภ้ จท่อเย่วกับจื่อห่าวทั้งสองคนไม่ได้ทำให้ท่านลำบากใช่ไหมเจ้าคะ"
"ที่ไหนกัน แม่หนูจื่อเย่วรู้ความยิ่งนัก ปัดกวาดเช็ดถูเรือนข้าเสียสะอาดสะอ้าน ส่วนจื่อห่าวก็เล่นกับเซียนเซียน ทั้งคู่เป็นเด็กดีมากเชียวล่ะ"
"ขอบคุณมากเจ้าค่ะ วันนี้รบกวนท่านมากแล้วข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ จื่อเย่ว จื่อห่าว บอกลาท่านอาสะใภ้ กับพี่เฟยหรงและเฟยเซียนเสียสิ"
"อาสะใภ้ พี่เฟยหรง จื่อเย่วขอตัวกลับก่อนนะเจ้าคะ"
"จื่อห่าวก็กลับก่อนนะขอรับ ข้าไปก่อนนะพี่เฟยเซียน"
"อืม..กลับบ้านดีๆถ้าไม่สะดวกจะพาพวกเขาไปไหนด้วยเจ้าก็มาฝากข้าได้ มีเด็กเยอะๆบ้านจะได้ไม่เงียบเหงา อ้อ..มันเทศนั้นรสชาติดียิ่งนักขอบใจเจ้ามาก"
ทั้งสามลาฮั่วหราน ฮั่วเฟยหรง และฮั่วเฟยเซียนก่อนจะรีบกลับบ้าน วันนี้มีเรื่องนางข่มขู่เรื่องปลดภรรยาของท่านปูู่ คงสงบได้อีกหลายวัน ใช้เวลาช่วงนี้จัดการรั้ว กับซ่อมแซมบ้านสักหน่อย เมื่อสักครู่ฮั่วเฟยหรงบอกแล้วว่าท่านปู่ฝูเหยาจะพาคนมาช่วยนางล้อมรั้ว