เมื่อซื้อของขวัญเสร็จ สองหนุ่มสาวก็เดินไปซื้อของอีกเกือบสองชั่วโมง จากนั้นบุษกรก็ขับรถมาส่งดอกเตอร์แทนไทที่คอนโดมิเนียม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มเดินมาเพราะที่พักกับห้างสรรพสินค้าอยู่ติดกัน
เจ้าของร่างสูงกำยำลอบนั่งถอนหายใจตลอดในระหว่างที่นั่งอยู่ในรถ สมองเริ่มคิดเรื่องของลูกศิษย์เต็มไปหมด เขาไม่เคยรู้เรื่องครอบครัวหรือประวัติของเธอทั้งหมด เรื่องแปลกประหลาดที่ชวนให้สงสัยเกี่ยวกับตัวเธอก็มีมากจนเขาไม่กล้าคิดต่อ
ไม่ว่าจะเรื่องงานที่ทำหรือแม้แต่รถที่ขับ อีกทั้งท่าทางมั่นใจเต็มร้อยนั่นอีก หรือบางทีเขาอาจไม่เคยรู้เลยว่าที่จริงแล้วลูกศิษย์สาวคนนี้เป็นคนนิสัยอย่างไรกันแน่
“คอนโดไหนค่ะดอกเตอร์”
“ข้างหน้านี้แหละครับ ที่จริงผมเดินมาเองก็ได้ ห้างกับคอนโดเดินแค่ยี่สิบนาทีก็ถึงแล้ว แต่ถ้าขับรถมาก็ไกลพอควร แต่ต้องไปเลี้ยวรถไกลมาก”
“ซื้อของมาเยอะแยะขนาดนี้เดินกลับลำบากออกค่ะ อีกอย่างฉันก็ว่างอยู่แล้ว อีกหลายชั่วโมงกว่าเจ้านายกับแฟนจะดูหนังกันจบ ฉันขี้เกียจอยู่ในห้างน่ะค่ะ เอ่อ...ที่จริงไม่ชอบสถานที่ที่มีคนเยอะน่ะค่ะ”
สถานที่ที่เธออยากไปมากที่สุดก็คือห้องพักของเขาต่างหาก ไม่ว่าจะปฏิเสธยังไง เธอก็ไม่มีทางอยู่ในห้างนั่นเด็ดขาด วางแผนมาซะดิบดีถ้าเหยื่อไม่ตกหลุมพรางก็แย่เต็มที
“แต่มันดูไม่ดีนะครับ หากคุณอยู่กับผมสองต่อสอง”
ดอกเตอร์หนุ่มอธิบายเสียงนุ่ม เขาไม่ต้องการให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง อีกอย่างเขาเป็นอาจารย์ ส่วนเธอเป็นนักศึกษา ใครมาเห็นเข้าคงดูไม่ดีนัก
“คิดมากไปหรือเปล่าค่ะดอกเตอร์ ไม่มีใครรู้หรอกว่าฉันกับคุณเป็นอาจารย์กับลูกศิษย์ ดอกเตอร์ลองมองดูสิคะว่าเราสองคนเหมือนลูกศิษย์กับอาจารย์หรือเปล่า”
บุษกรถามขณะเลี้ยวรถเข้าคอนโดมิเนียมของอีกฝ่าย วิตกกังวลเกินเหตุไปหน่อยหรือเปล่า ถ้าไม่พูดก็ไม่มีใครรู้ กลัวอะไรไม่เข้าเรื่อง ถ้าคิดอีกทีการที่เขากังวลก็ไม่แปลก นิสัยดีจนเกินเหตุ เรียบร้อยยิ่งกว่าผู้หญิง ก็ไม่แปลกที่เป็นอย่างนั้น ในเมื่อเขาอยู่กับมารดามาตั้งแต่เกิด
ส่วนบิดานั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะข้อมูลที่ยามาบุสะไปสืบมา บิดามารดาของเขาเลิกกันตั้งแต่เขายังไม่เกิด เธอไม่แน่ใจว่าบิดาผู้ให้กำเนิดรู้เรื่องที่ตนมีลูกชายคนนี้ด้วยหรือไม่
สำหรับเธอมันไม่สำคัญเลย เธอรักที่เขาเป็นเขา ไม่ได้รักที่เขาเป็นลูกชายของนักการเมืองคนนั้น
ใช่! เธอรู้มานานแล้วว่าดอกเตอร์แทนไทกับพีรพัฒน์เป็นพี่น้องร่วมพ่อเดียวกัน เพราะเหตุนี้เธอถึงไม่ชอบในสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นทำกับพี่ชายต่างแม่เลย
“นั่นสินะครับ คุณก็ไม่ได้แต่งชุดนักศึกษาคงไม่มีใครรู้หรอก ผมคงกังวลมากเกินไป”
“ใช่แล้วค่ะ ดอกเตอร์กังวลเกินไป”
‘ระแวงล่ะสิไม่ว่า แต่แบบนี้แหละดีแล้ว ยิ่งระแวงมากคุณก็ยิ่งปลอดภัย’
บุษกรยิ้มเบาๆ กับท่าทางของดอกเตอร์หนุ่ม แต่อย่างน้อยก็ทำให้เธอรู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ ว่าบางทีเธออาจเป็นคนแรกที่ได้เข้าห้องของเขา
แทนไทเหลือบมองใบหน้าคมสวยแวบหนึ่ง แล้วแอบถอนหายใจอย่างปลงตก ไม่ว่าจะพูดอย่างไรลูกศิษย์สาวคนนี้ก็หาทางเลี่ยงได้ตลอด ช่างเป็นผู้หญิงที่เอาแต่ใจและเข้าใจยากที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา
‘ผมเริ่มหาความน่ารัก และนิสัยดีของคุณไม่เจอแล้วสิบุษกร’
“เป็นอะไรหรือคะดอกเตอร์ ท่าทางเหมือนไม่สบายเลย ฉันพาไปหาหมอไหมคะ”
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมสบายดี”
‘คุณต่างหากที่เป็นต้นเหตุให้ผมต้องเป็นแบบนี้’
ถือเสียว่าครั้งนี้เขาพลาดเองที่ดันไปเจอบุษกรที่ห้างสรรพสินค้า คราวต่อไปถ้าเขาเจอหญิงสาวที่ไหน เขาจะรีบหลบไปให้ห่าง จะได้ไม่เกิดกรณีเช่นวันนี้อีก
‘โชคดีจังมีที่ว่างให้จอดรถด้วย ว่าแต่รถของดอกเตอร์ไม่เห็นจอดอยู่เลยนี่นา หรือว่ารถเสีย’
“หาอะไรอยู่หรือครับ” แทนไทถามลูกศิษย์ หลังจากที่ยื่นบัตรจอดรถให้กับพนักงานรักษาความปลอดภัย
“เปล่าหรอกค่ะ” บุษกรส่ายหน้าตอบ
“...”
แทนไทมองลูกศิษย์สาวอย่างพิจารณา เขารู้สึกสงสัยกับท่าทางแปลกๆ ของเธอเล็กน้อย
“คอฟฟีชอปด้านล่างปิดกี่โมงค่ะ”
“ประมาณเที่ยงคืนครับ คุณใบบัวถามทำไมหรือครับ”
“เดี๋ยวฉันส่งดอกเตอร์เสร็จฉันมานั่งรอเจ้านายที่นี่ดีกว่า เมื่อกี้ฉันเห็นร้านอาหารด้วย หาอะไรทานแล้วไปนั่งดื่มกาแฟอีกสักแก้ว”
“คุณยังไม่ได้ทานข้าวหรือครับ”
“ที่จริงฉันยังไม่ได้ทานอาหารเที่ยงเลยด้วยซ้ำ”
หญิงสาวหันมาโกหกหน้าตาย มือเรียวดึงกุญแจรถออกมาหลังจากดับเครื่อง จากนั้นก็เปิดประตูลงไปเปิดกระโปรงหลังรถ หยิบข้าวของมากมายที่ดอกเตอร์หนุ่มกับเธอเดินซื้อมาตลอดหนึ่งชั่วโมงออกมา
‘ยังไม่ได้ทานอาหารเที่ยง’
ชายหนุ่มพึมพำเบาๆ แล้วรีบลงจากรถ ปิดประตูรถแล้วรีบไปรับของจากมือของลูกศิษย์สาว
“เอ่อ...เดี๋ยวผมทำอาหารเลี้ยงตอบแทนที่คุณช่วยผมถือของก็ได้ครับ อีกอย่างอาหารที่ร้านนั่นก็ไม่ค่อยอร่อยเท่าไร”
เขาเคยใช้บริการมาหลายครั้งแล้ว แต่รสชาติก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ถ้าให้บุษกรทานอาหารรสชาติแบบนั้น เขายินดีทำให้หญิงสาวทานเองคงจะดีกว่า
“จะไม่เป็นการรบกวนดอกเตอร์มากเกินไปใช่ไหม” บุษกรถามเพื่อความมั่นใจ ทั้งที่ในใจกลับร้องตะโกนออกมาด้วยความดีใจ ไม่น่าเชื่อว่าอีกฝ่ายจะติดกับของเธอง่ายดายถึงเพียงนี้
“ไม่เป็นการรบกวนหรอกครับ เพราะถึงยังไงผมก็ทานข้าวคนเดียวตลอดอยู่แล้ว”
“ถ้างั้นฉันก็ไม่เกรงใจแล้วนะคะ”
บุษกรยิ้มให้ดอกเตอร์หนุ่ม แล้วหันไปหยิบถุงใส่อาหารสดและผลไม้อีกสองถุงขึ้นมาถือ จากนั้นก็รีบกดล๊อครถแล้วรีบเดินตามเจ้าของห้องไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
‘อะไรมันจะง่ายดายแบบนี้หนอ หึๆ’
///////////
บุษกรเดินตามเจ้าของห้องหนุ่มมายืนอยู่กลางห้องพักสุดหรู ความเป็นระเบียบเรียบร้อยถือว่าดีเยี่ยม การวางข้าวของก็ดูเหมาะเจาะลงตัวกับโทนสีในห้อง
นี่เป็นฝีมือของผู้ชายคนนี้ทั้งหมดหรือ เพียงแค่คิดก็รู้สึกสมเพชตัวเองอย่างไรชอบกล
เพราะด้วยนิสัยของเธอแล้ว คงไม่มีทางจัดห้องได้สะอาดแบบนี้ อย่าว่าแต่จัดห้องเลย ขนาดทำอาหารหรือล้างจานเธอยังไม่เคยทำสักครั้ง อาจเพราะข้างกายมีพี่เลี้ยงหนุ่มอยู่ตลอด
เรื่องทำความสะอาดห้องหรือเข้าครัวจึงเป็นหน้าที่ของสาวใช้หรือบอดี้การ์ดแทบทั้งสิ้น
‘สะอาดกว่าที่คิดเอาไว้แฮะ’
“มีอะไรหรือครับ”
“ดอกเตอร์อยู่คนเดียวจริงหรือค่ะเนี่ย ห้องดูสะอาดกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีก ขอโทษนะคะที่พูดแบบนี้ คือฉันเห็นแล้วอึ้งนิดหน่อย ห้องของฉันยังไม่สะอาดเรียบร้อยขนาดนี้เลย”
บุษกรพูดพลางหัวเราะออกมาอย่างเก้อเขินกับสิ่งที่เห็น เธอไม่เคยลงมือทำความสะอาดห้องตัวเองสักครั้ง ส่วนใหญ่มีสาวใช้จัดการให้ตลอด
หากไม่ใช่สาวใช้ก็เป็นพี่เลี้ยงหนุ่ม ที่คอยเข้ามาบ่นแล้วจู้จี้เรื่องการจัดวางของในห้องนอนเธอ
แทนไทถึงกับอึ้งไปกับคำพูดของลูกศิษย์สาว การที่ห้องพักของเขาสะอาด ดูเป็นระเบียบมาก แปลกขนาดนั้นเชียวหรือ ชายหนุ่มก้มพิจารณามองมือทั้งสองข้างของหญิงสาว พลันความคิดก็ผุดขึ้นมา
‘นี่ใช่มือของคนที่ทำงานหนักจริงเหรอ ผิวพรรณก็ขาว ไม่ใช่แค่ขาวธรรมดาเหมือนผู้หญิงที่เขาเคยเห็น แต่ผิวของบุษกรกลับเป็นสีขาวอมชมพูเสียด้วยซ้ำ’
“มีอะไรหรือค่ะดอกเตอร์” บุษกรถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งเงียบไป
“เปล่าหรอกครับ คุณใบบัววางของทั้งหมดเอาไว้บนโต๊ะในห้องครัวเลยนะครับ” แทนไทบอก สองเท้าก้าวฉับๆ ตรงเข้าไปในห้องครัว
////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...